xs
xsm
sm
md
lg

ลึกทันใจ : ชี้ทางรอดแก้ “รวยกระจุก จนกระจาย”

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


รายงานพิเศษ ลึกทันใจ ตอน ชี้ทางรอดแก้ “รวยกระจุก จนกระจาย” ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียม NEWS1 วันพุธที่ 22 พฤษภาคม 2562



ปัญหาสำคัญของประเทศที่คนไทยต้องเผชิญมานานก็คือปัญหาปากท้องที่ดูเหมือนว่ารัฐบาลได้พยายามแก้ไข แต่ก็ยังไม่ตรงจุดจึงหนีไม่พ้นภาวะ “รวยกระจุก จนกระจาย”เสียที

เรื่องนี้ในมุมมองของ ผศ.ดร.ธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการศูนย์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เห็นว่า ปัญหาเศรษฐกิจไทยมี 2 ส่วนคือ ปัจจัยในต่างประเทศกับในประเทศ เรื่องของต่างประเทศเกิดจากภาวะเศรษฐกิจโลกที่ตกต่ำและมีการแข่งขันสูง ซึ่งรัฐบาลชุดใหม่ต้องทำคือการปรับค่าเงินบาทให้อยู่ในระนาบเดียวกับประเทศคู่แข่ง ถ้าสินค้าไทยแพงกว่าคู่แข่งมากก็แข่งขันลำบาก แต่ถ้าต่ำเกินไปก็อาจจะเสียโอกาสในการทำกำไรหรือไม่คุ้มค่ากับการลงทุน

นอกจากนี้ต้องให้ทูตพาณิชย์ที่อยู่ในประเทศต่างๆ ช่วยทำการตลาด โดยเฉพาะในประเทศที่เป็นตลาดเป้าหมาย เช่น สหรัฐฯ อินเดีย กัมพูชา ซึ่งยังอยู่ใน 20 อันดับที่ตลาดส่งออกยังเป็นบวกอยู่ รวมทั้งต้องอำนวยความสะดวกด้านศุลกากรและการขนส่งสินค้าบริเวณแนวชายแดน และรัฐบาลต้องออกมาตรการเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยว โดยทำการตลาดให้เห็นว่าประเทศไทยมีความคุ้มค่าในการท่องเที่ยวมากที่สุด

ส่วนปัญหาเศรษฐกิจที่เกี่ยวข้องกับปัจจัยภายในประเทศนั้น รัฐบาลต้องทำ 5 เรื่องคือ 1) ส่งเสริมการใช้วัตถุดิบภายในประเทศ เช่น นำยางพารามาทำบล็อกปูพื้น นำปาล์มมาผลิตกระแสไฟฟ้า เป็นต้น 2) ให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นมีความสามารถในการจัดซื้อจัดจ้างมากขึ้น ซึ่งจะทำให้เศรษฐกิจระดับท้องถิ่นมีการหมุนดีขึ้น 3) ใช้โครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก หรือ EEC ดึงนักลงทุนจากต่างประเทศให้เข้ามาลงทุนในไทย 4) รัฐบาลใหม่ต้องทำการเมืองให้เข้มแข็งและมีเสถียรภาพ ไม่มีการประท้วง ไม่มีการเมืองนอกสภา และ 5) จัดทีมเศรษฐกิจให้เหมาะกับเนื้องาน

ด้าน ศ.ดร.ดิเรก ปัทมสิริวัฒน์ อาจารย์คณะพัฒนาการเศรษฐกิจ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ หรือ นิด้า เห็นว่า ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมาประเทศไทยมีปัญหารวยกระจุก จนกระจาย ภาพรวมของเศรษฐกิจไทยดีขึ้นกว่าปี 2557-2558 เนื่องจากรัฐบาลมีการลงทุนในโครงการก่อสร้างต่างๆ เป็นจำนวนมาก แต่ปัญหาคือรายได้และการขยายตัวทางเศรษฐกิจกระจุกตัวอยู่เฉพาะในกลุ่มทุนขนาดใหญ่ ผู้ประกอบการรายย่อยเติบโตน้อย ขณะที่เศรษฐกิจระดับรากหญ้ากลับไม่ดี มีปัญหาการว่างงานเพิ่มขึ้น ประชาชนมีกำลังซื้อลดลง แม้รัฐบาลจะมีการแจกเงินในโครงการประชานิยมต่างๆ แต่โครงการดังกล่าวไม่ได้ก่อให้เกิดการจ้างงาน จึงไม่เกิดการหมุนเวียนทางเศรษฐกิจ

ดังนั้น สิ่งที่รัฐบาลชุดใหม่ต้องเร่งทำคือเร่งแก้ปัญหาการว่างงาน เพิ่มเม็ดเงินลงสู่รากหญ้า โดยใช้กลไกระดับท้องถิ่นในการสร้างงานสร้างรายได้ เพื่อให้เศรษฐกิจหมุนเวียน

ทั้งหมดนี้คือโจทย์ใหญ่ที่รัฐบาลใหม่ต้องเร่งทำให้เกิดผลเห็นเป็นรูปธรรมอย่างรวดเร็ว เพราะคนไทยอึดอัดเต็มทีกับภาวะเศรษฐกิจอย่างที่เป็นอยู่ในตอนนี้ นักการเมืองที่หาเสียงไว้ก็ช่วยทำให้เห็นกันสักที “รวยกระจาย คลายความจน” ประชาชนกำลังรออยู่!!

ทีมข่าวลึกทันใจ รายงาน
กำลังโหลดความคิดเห็น