รายงานพิเศษ ลึกทันใจ ตอน นับถอยหลังสู่รัฐบาลชุดใหม่แต่นายกฯหน้าเก่า? ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียม NEWS1 วันพุธที่ 2 พฤษภาคม 2562
นับจากนาทีนี้เป็นต้นไปการจัดตั้งรัฐบาลชุดใหม่ได้เดินมาถึงจุดที่ต้องจับตามองอย่างไม่กระพริบตาเลยทีเดียว เพราะเมื่อ กกต.ประกาศรับรอง ส.ส.อย่างเป็นทางการทั้งแบบ ส.ส.เขต และแบบ ส.ส.บัญชีรายชื่อรวมแล้วไม่ต่ำว่าร้อยละ 95 ก็จะสามารถเปิดประชุมสภา เพื่อจะได้เลือกประธานสภาผู้แทนสภาผู้แทนราษฎร จากนั้นก็จะมีการแต่งตั้งสมาชิกวุฒิสภาอีก 250 คนให้ครบองค์ประกอบของรัฐสภาในการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีคนใหม่ตามขั้นตอนต่อไป ซึ่งชื่อของคนที่จะมาเป็นนายกรัฐมนตรียังไม่ตื่นเต้นหรือน่าสนใจเท่ากับเรื่องการ “ต่อรอง” เก้าอี้ โควตากระทรวงต่าง ๆ ซึ่งต้องยอมรับว่า การจัดตั้งรัฐบาลครั้งนี้ไม่ง่ายเหมือนกับอดีตที่ผ่านมา และยิ่ง 2 ขั้วการเมืองคือพลังประชารัฐกับเพื่อไทยได้เสียงพอๆกัน ก็ยิ่งเพิ่มความยากเข้าไปอีก เพียงแต่ตอนนี้ทางขั้วพรรคเพื่อไทยดู “อ่อนแรง” ลงไปมาก ไม่เหมือนกับขั้วพลังประชารัฐที่ดูคึกคักและมั่นใจว่าครั้งนี้ได้เป็นรัฐบาลแน่นอน เพียงแต่ตอนนี้ยังต้องรอความชัดเจนจากพรรคประชาธิปัตย์ในวันที่ 15 พฤษภาคมนี้ที่จะมีการเลือกกรรมการบริหารพรรคและหัวหน้าพรรคกันใหม่ ถึงตอนนั้นก็จะรู้ว่าจะเข้าหรือไม่เข้าร่วมรัฐบาล ซึ่งไม่ต้องคิดอะไรให้มากความ รู้ๆกันอยู่ว่า ใครๆก็อยากเป็นรัฐบาลกันทั้งนั้น และหากเป็นเช่นนั้นโดยที่ไม่มีอะไร”พลิกล๊อค”ชื่อนายกรัฐมนตรีคนต่อไปก็ไม่พ้น “บิ๊กตู่”ต้องอยู่ต่อนั่นเอง
เมื่อย้อนกลับมามองเรื่องบรรดารัฐมนตรีและข้าราชการอีกหลายคนทั้งทหารและพลเรือน ที่ยื่นใบลาออกเตรียมตัวไปเป็น ส.ว.ค้ำยันรัฐบาลในตอนนี้กันแล้ว ก็ยิ่งไม่ต้องสงสัยอีกว่า ใครจะเป็นนายกรัฐมนตรีคนต่อไป แต่ที่น่าสนใจคือ เสียงวิพากษ์วิจารณ์ในเรื่องการสืบทอดอำนาจ โดยใช้คนใกล้ชิดและ”คนกันเอง”ที่ยังอยู่กันครบ ซึ่งตอนนี้ก็มีทั้งชื่อของ”บิ๊กติ๊ก”พลเอกปรีชา จันทร์โอชา หรือ 2 พี่น้องตระกูลวงษ์สุวรรณ รวมทั้งบรรดา สนช.ที่ว่ากันว่ามีประมาณ 60 คน กำลังจะไปทำหน้าที่”ค้ำยัน”รัฐบาล แต่ก็อย่างว่า เสียงวิพากษ์วิจารณ์พวกนี้มันก็แค่เสียงนกเสียงกาเท่านั้น เพราะเข้าใจได้ว่า ยังไงๆก็ต้องใช้คนที่เป็นพวกของตัวเองและไว้ใจได้ ซึ่งใครๆก็ทำกัน จริงหรือไม่!?
ทีมข่าว ลึกทันใจ รายงาน