รายงานพิเศษ ลึกทันใจ ตอน 7 วันอันตรายของธนาธร ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียม NEWS1 วันศุกร์ที่ 26 เมษายน 2562
ปมปัญหาสำคัญที่นายธนาธรจะต้องชี้แจงให้เคลียร์โดยที่ไม่หลอกคนอื่นและหลอกตัวเองก็คือ เรื่องวันเวลาของการโอนหุ้นของตัวเองและภรรยาไปให้นางสมพร จึงรุ่งเรืองกิจ มารดานั้นเป็นวันใดกันแน่ นั่นคือวันที่ 8 มกราคม 2562 ตามที่นายธนาธรอ้าง หรือโอนหุ้นหลังจากนั้นตามที่"สำนักข่าวอิศรา"ไปขุดคุ้ยพิรุธมาแฉ
เพราะหากโอนหุ้นบริษัท วีลัคมีเดียฯเกิดขึ้นในวันที่ 8 มกราคมจริงก็เกิดขึ้นก่อนวันสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.บัญชีรายชื่อที่กำหนดเอาไว้ระหว่างวันที่ 4-8 กุมภาพันธ์ 2562 ถือว่าไม่ขัดกับคุณสมบัติต้องห้ามที่"ถือหุ้นสื่อ" แต่จากเอกสารหลักฐานที่มีการขุดคุ้ยออกมาทำให้ยังเชื่อว่าในวันดังกล่าวเขายังไม่มีการโอนหุ้นในวันนั้น เมื่อมาดูคำแก้ตัวก็ยิ่งเหมือน”ลิงแก้แห”ที่ยิ่งแก้ก็ยิ่งยุ่ง มีข้อพิรุธใหม่ออกมาเรื่อยๆ และเสี่ยงต่อการทำผิดเรื่องปลอมแปลงเอกสาร โดยเฉพาะนางสมพร จึงรุ่งเรืองกิจ แม่ของธนาธร หากพบว่าทำผิดจริง ก็มีสิทธิ์ติดคุกตอนแก่ รวมทั้งหลานอีก 2 คนที่ถูกลากมาเกี่ยวอีกด้วย
หรือกรณีการช่วยแก้ต่างของนายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ ที่นอกจากจะไม่ช่วยให้อะไรดีขึ้นมาแล้ว ยังทำให้สังคมเกิดความเคลือบแคลงสงสัยมากขึ้นไปอีกในเรื่องที่ธนาธร เดินทางออกจากบุรีรัมย์ในช่วงบ่ายเข้ากรุงเทพฯด้วยการนั่งรถตู้และมีการโชว์หลักฐานเป็นอีซีพาสด่านทางด่วนแถวธัญญบุรีในช่วงเวลาบ่ายสามโมงกว่า เพื่อมาโอนหุ้นในวันเดียวกัน ขณะที่ตัวปิยบุตรบอกว่าแยกมาเดินทางกลับด้วยเครื่องบิน จึงเกิดคำถามว่าทำไมไม่นั่งเครื่องบินกลับมากรุงเทพฯพร้อมกัน แค่นี้ก็เป็นพิรุธที่เข้าใจไม่ได้แล้ว
ทีนี้ก็มาถึงคำถามว่า หากนายธนาธรไม่สามารถหาหลักฐานมาพิสูจน์ข้อเท็จจริงกับกกต.ได้จะเกิดอะไรขึ้น? เรื่องนี้นายเสรี สุวรรณภานนท์ ให้ความเห็นว่า คำว่า "การเลือกตั้งที่ไม่ได้เป็นไปโดยสุจริตและเที่ยงธรรม"นั้นมีความหมายเทียบเคียงกับ พรป.เลือกตั้ง ส.ส.มาตรา 54 วรรคสอง ที่บัญญัติว่า "หากผู้สมัครรู้อยู่แล้วว่า ตนเป็นผู้ไม่มีสิทธิ์สมัครรับเลือกตั้งแล้วปกปิดหรือไม่แจ้งข้อเท็จจริงนั้น ให้ถือว่าการเลือกตั้งในเขตเลือกตั้งนั้นมิได้เป็นไปโดยสุจริตและเที่ยงธรรม"หากธนาธรรู้แล้วว่าตัวเองไม่มีสิทธิ์สมัครรับเลือกตั้ง แต่ยังปกปิดในเรื่องคุณสมบัติต้องห้าม ซึ่ง กกต.มีอำนาจสั่งระงับสิทธิ์สมัครรับเลือกตั้งของผู้สมัครที่กระทำการดังกล่าวเป็นเวลาไม่เกิน 1 ปี ยิ่งไปกว่านั้นหากผู้สมัครเป็นหัวหน้าพรรคหรือคณะกรรมการบริหารพรรคด้วยแล้วให้กกต.เสนอศาลรัฐธรรมนูญเพื่อให้ยุบพรรคนั้นได้ด้วย และให้ศาลรัฐธรรมนูญเพิกถอนสิทธิ์สมัครรับเลือกตั้งของคณะกรรมการบริหารพรรคการเมืองนั้น และยังอาจถูกดำเนินคดีอาญาอีกต่างหาก ก็หวังว่านายธนาธรจะเอาตัวรอดไปได้ใน 7วันอันตรายนี้ แต่หากเอาตัวไม่รอด ก็ต้องเป็นไปตามที่บอกไว้นี่แหละ!!
ทีมข่าวลึกทันใจ รายงาน