รายงานพิเศษ ลึกทันใจ ตอน อนาคตใหม่ หรือจะกลายเป็น”อนาคตไหม้” ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียม NEWS1 วันพุธที่ 13 มีนาคม 2562
หลังจากที่พรรคไทยรักษาชาติถูกศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยให้ยุบพรรคไปแล้ว พรรคที่ถูกจับตาต่อไปก็คือพรรคอนาคตใหม่ของนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ นี่แหละ ซึ่งตอนนี้กำลังถูกเล่นงานยื่นยุบพรรคและกรณีที่ถูกแจ้งความด้วยข้อกล่าวหากรณีที่นายบุญถาวร ปัญญาสิทธิ์ ทนายความชื่อดัง ยื่นเรื่องให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง ยุบพรรคอนาคตใหม่ โดยกล่าวหาว่าการให้สัมภาษณ์ของ นายธนาธร หัวหน้าพรรค ที่พูดเรื่องจะสานต่อภารกิจของคณะราษฎร 2475 นั้นเข้าข่ายเป็นภัยต่อการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข, ตามด้วยกรณีที่ นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ยื่นเรื่องต่อ กกต.ให้พิจารณาความผิดของพรรคอนาคตใหม่ กรณีระบุประวัติของธนาธรด้วยข้อมูลอันเป็นเท็จ ถือเป็นการหลอกลวงผู้ใช้สิทธิเลือกตั้ง เข้าข่ายข้อห้ามตามมาตรา 73 (5) ของ พ.ร.ป.การเลือกตั้ง 2561 ที่ห้ามมิให้ผู้สมัครหรือผู้ใดกระทําการอย่างหนึ่งอย่างใดเพื่อจูงใจให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้ง ลงคะแนนให้แก่ตนเองหรือผู้สมัครอื่นเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ผู้ฝ่าฝืนอาจมีความผิดตามมาตรา 159 ต้องระวางโทษจําคุกตั้งแต่ 1-10 ปี หรือปรับตั้งแต่ 2 หมื่นบาทถึง 2 แสนบาท หรือทั้งจําทั้งปรับ และศาลจะสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งของผู้นั้นมีกําหนด 20 ปีด้วย
นอกจากนี้ยังมีเรื่องที่ พันเอกบุรินทร์ ทองประไพ ฝ่ายกฎหมาย คสช. เข้าแจ้งความต่อกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิด เกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ปอท.) ให้ดำเนินคดีกับอนาคตใหม่ในความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ใน 3 กรณีด้วยกันคือ กรณีที่นายธนาธรและพวกวิจารณ์ คสช.ว่าใช้พลังดูดเพื่อดึงอดีตสมาชิกพรรคการเมืองอื่นเข้าสังกัดพรรคพลังประชารัฐ, กรณีที่ พลโทพงศกร รอดชมภู รองหัวหน้าพรรค และสมาชิกพรรค แชร์ข่าวปลอมว่า “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ดื่มกาแฟแก้วละ 12,000 บาท โดยใช้งบสวัสดิการ และกรณีที่ผู้ดูแลเว็บไซต์พรรคอนาคตใหม่และผู้เกี่ยวข้องเผยแพร่แถลงการณ์ของพรรคอนาคตใหม่วิจารณ์ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณายุบพรรคไทยรักษาชาติ ซึ่งกรณีนี้นอกจากจะถูกแจ้งข้อกล่าวหาเรื่องผิด พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์แล้ว ยังถูกแจ้งความดำเนินคดีในข้อหาหมิ่นศาลด้วย
สำหรับประเด็นที่น่าจะมีผลกระทบมากที่สุดน่าจะเป็นข้อกล่าวหาเรื่องที่นายธนาธร ระบุว่าจะสานต่อภารกิจของคณะราษฎรมากที่สุด โดย พันตำรวจเอกจรุงวิทย์ ภุมมา เลขาธิการ กกต.บอกว่าตอนนี้อยู่ในขั้นตอนตรวจสอบข้อมูลหลักฐานต่างๆ ที่ได้รับจากผู้ร้อง เมื่อตรวจเสร็จก็จะส่งเรื่องให้คณะกรรมการการเลือกตั้งดูว่าจะรับไว้พิจารณากรณียุบพรรคหรือไม่ ถ้าควรพิจารณาก็จะดูว่าต้องการข้อมูลหลักฐานอะไรเพิ่มเติมหรือไม่ และบรระจุเข้าวาระ ซึ่งหากข้อมูลต่างๆ ที่ต้องพิจารณามีไม่มากนักก็อาจจะพิจารณาตัดสินได้ภายใน 1-2 สัปดาห์
สำหรับในมุมมองของนักวิชาการอย่าง ดร.พิชาย รัตนดิลก ณ ภูเก็ต คณบดีคณะพัฒนาสังคมและสิ่งแวดล้อม สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ หรือ นิด้า มองว่า การที่นายธนาธร พูดว่าจะสานต่อภารกิจของคณะราษฎรนั้นหากพิจารณาจากเจตนาในการสื่อสารแล้วไม่มีตรงไหนที่สื่อว่ามีเจตนาล้มล้างสถาบัน เนื่องจากการก้าวเข้าสู่ระบอบประชาธิปไตยของคณะราษฎรเป็นการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข จึงไม่น่าจะมีความผิดนำไปสู่การยุบพรรคได้
ส่วนประเด็นล่อแหลมอีกเรื่องหนึ่งคือ กรณีหมิ่นศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งนักกฎหมายยังมีความเห็นเป็น 2 ทาง ทางหนึ่งมองว่า การวิจารณ์การตัดสินของศาลต่อกรณียุบพรรคไทยรักษาชาตินั้นละเมิดอำนาจศาลชัดเจน แต่อีกด้านยังเห็นว่าแถลงการณ์ของนายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ เรื่องยุบพรรคไทยรักษาชาตินั้นเป็นเรื่องของการอธิบายแนวนโยบายของพรรคเท่านั้น
ส่วนอีก 3 กรณีที่เหลือดูจะไม่น่าห่วงนัก โดยกรณีการใส่ข้อมูลประวัติของนายธนาธรที่ไม่ตรงกับข้อเท็จจริง ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการพิจารณาและยังไม่มีความคืบหน้า สำหรับกรณีที่นายธนาธรและพวกระบุว่า คสช.ใช้พลังดูดนั้น อัยการจะนัดฟังคำสั่งคดีในวันที่ 26 มีนาคมนี้ และสุดท้ายกรณีที่ พล.ท.พงศกร รองหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ และพวก แชร์ข่าวเท็จเรื่อง พล.อ.ประวิตรใช้งบสวัสดิการดื่มกาแฟแก้วละ 12,000 บาทนั้น ล่าสุด พล.ท.พงศกรและพวกได้เข้ารายงานตัวต่อ ปอท.แล้ว และคดีอยู่ระหว่างชั้นการสอบสวน ซึ่งเรื่องทั้งหมดนี้ก็ต้องติดตามกันต่อไปว่า “พรรคอนาคตใหม่”จะเป็น”อนาคตไหม้” หรือเปล่า อีกไม่นานจะได้รู้กัน!!
ทีมข่าวลึกทันใจ รายงาน