รายงานพิเศษ ลึกทันใจ ตอน CP ลุ้นสุดตัวไฮสปีดเทรนเชื่อม 3 สนามบิน ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียม NEWS1 วันศุกร์ที่ 4 มกราคม 2562
เรื่องของโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบินดอนเมือง-สุวรรณภูมิ-อู่ตะเภา ระยะทาง 220 กิโลเมตร มูลค่ากว่า 2 แสนล้านบาทที่กลุ่มกิจการร่วมค้าของซีพี เป็นผู้เสนอราคาต่ำสุดยังต้องลุ้นว่าจะสามารถเจรจาต่อรองราคาตามขั้นตอนของการประกวดราคาจนได้ข้อยุติหรือไม่ เพราะโครงการนี้มีรายละเอียด มีเงื่อนไข ทั้งในด้านกฎหมาย ด้านการเงิน และด้านเทคนิคมาก คณะกรรมการฯ จึงต้องดูให้รอบคอบ โดยจะเริ่มเจรจาต่อรองกันในวันที่ 10 มกราคมนี้ คาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 2 สัปดาห์ หากได้ข้อยุติก็จะเสนอให้คณะรัฐมนตรีอนุมัติและลงนามในสัญญาไม่เกินวันที่ 31 ม.ค.นี้ แต่หากไม่ได้ข้อสรุป ก็จะมีการเชิญกิจการร่วมค้าบีเอสอาร์ หรือกลุ่มบีทีเอส มาเจรจาต่อไป
อย่างไรก็ตาม แม้ยังไม่ได้ข้อสรุป แต่การเดินหน้าพัฒนาเมืองใหม่ที่จังหวัดฉะเชิงเทราของซีพีก็ได้ประกาศออกมาแล้ว ตามที่นายธนินท์ เจียรวนนท์ ประธานอาวุโส เครือซีพี บอกว่ามีแผนลงทุนสร้างเมืองใหม่บนพื้นที่ 10,000 ไร่ คอนเซ็ปต์เป็น “Smart City” ที่มีการวางผังเมือง และระบบสาธารณูปโภคเพียบพร้อม รวมถึงการบริการอื่นๆ ของเมืองให้รวมอยู่ในจุดเดียวกัน เช่น โรงพยาบาล มหาวิทยาลัย ศูนย์การค้า ด้วยงบประมาณหลายแสนล้านบาท เพื่อเป็นโครงการทดลองในการเชื่อมต่อกับโครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก หรือEEC ต่อไป สำหรับทำเลที่เล็งเอาไว้คือ อ.บางคล้า ที่จะออกไปทางอ.พนมสารคาม ซึ่งเป็นที่ดินเก่าที่บริษัทในเครือซีพีได้ซื้อไว้เพื่อทำธุรกิจด้านการเกษตร ที่ยังมีเหลืออยู่ แต่ดูเหมือนว่าที่ดินบริเวณ อ.บางน้ำเปรี้ยว จะมีความเป็นไปได้มากที่สุดโดยเฉพาะตรงบ้านสะแกโดด ตำบลสิงโตทอง ซึ่งอยู่ติดกับตำบลโยธะกา เพราะที่ดินบริเวณนี้ยังเป็นพื้นที่ชนบท เป็นที่โล่ง ทำการเกษตร และราคาที่ดินก็ยังไม่สูงนัก โดยเส้นทางนี้จะมีการพัฒนาใช้ในการขนส่งสินค้าเส้นทางมาบตาพุด-แหลมฉบัง-ฉะเชิงเทรา-แก่งคอย-บัวใหญ่ จ.นครราชสีมา และหนองคายต่อไป
โครงการ “Smart city “นี้ต้องบอกว่า หากเกิดขึ้นได้จริงก็จะถือเป็นการพัฒนาเมืองฉะเชิงเทราให้เจริญขึ้นถึงระดับเป็นเมืองฝาแฝดกับกรุงเทพฯเลยทีเดียว เพราะจะมีทั้งการพัฒนาระบบคมนาคมและพัฒนาเมืองไปพร้อมๆกัน และสิ่งที่เกิดขึ้นแล้วในตอนนี้ก็คือราคาที่ดินที่เคยเป็นพื้นที่การเกษตรได้ถูกปั่นขึ้นไปจนสูงมากถึงไร่ละ5แสน-2ล้านบาทแล้ว ทำให้บรรดานักเก็งกำไรที่ดินต่างมีความหวังที่จะเป็นเศรษฐีกันถ้วนหน้าในอนาคตอันใกล้นี้ แต่ถ้าโครงการไม่เกิด หรือมีอันต้องสะดุดลง ไม่ว่าจากสาเหตุใดก็แล้วแต่ ก็ต้องตัวใครตัวมันล่ะทีนี้!!
ทีมข่าวลึกทันใจรายงาน