xs
xsm
sm
md
lg

ลึกทันใจ : การเมืองพลิก! ปชป.-พท.จับมือถล่มบิ๊กตู่

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


รายงานพิเศษ ลึกทันใจ ตอน การเมืองพลิก! ปชป.-พท.จับมือถล่มบิ๊กตู่ ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียม NEWS1 วันพุธที่ 12 ธันวาคม 2561



ทันทีที่ คสช.เป่านกหวีดประกาศปลดล็อกการเมืองให้สามารถทำกิจกรรมกันได้อย่างเต็มที่แล้ว จากนี้ไปก็จะได้เห็นภาพของการจับขั้วของพรรคการเมืองต่าง ๆ ชัดขึ้นเรื่อย ๆ จากแต่เดิมที่มองกันว่า การเมืองของไทยจะแบ่งเป็น 3 ขั้วคือพวกที่เอากับไม่เอาบิ๊กตู่แล้วก็มีประชาธิปัตย์เป็นขั้วที่ 3 นั้น ดูไปดูมาเริ่มจะรู้สึกแปลกๆ กับ 2 พรรคใหญ่ดั้งเดิมคือพรรคเพื่อไทยกับประชาธิปัตย์ที่เคยเป็นไม้เบื่อไม้เมากันมานานอย่างชนิดที่เรียกว่า ผีไม่เผาเงาไม่เหยียบ แต่พอมาหลัง ๆ 2 พรรคนี้เริ่มจะมาพูดเป็นเสียงเดียวกันมากขึ้น แล้วยังไม่ค่อยได้เห็นการออกมาสาดน้ำลายถล่มใส่กันอย่างดุเดือดเหมือนเมื่อก่อนอีกต่างหาก นอกจากนี้ยังมีแนวทางการเคลื่อนไหวคล้าย ๆ กันอย่างเรื่องการไม่เข้าร่วมประชุมหารือกับแม่น้ำ 5 สายเมื่อวันที่ 7 ธันวาคมที่ผ่านมา 2 พรรคก็มีทิศทางเดียวกัน หรือเรื่องบัตรเลือกตั้ง ก็ยังร่วมกันออกมาประสานเสียงคัดค้านคณะกรรมการการเลือกตั้ง กกต. ไม่ให้ใช้บัตรประเภทที่ไม่มีเบอร์ ไม่มีชื่อ และโลโก้พรรคว่า เป็นการเอื้อประโยชน์ให้อีกฝ่าย หรือทำให้ฝ่ายตนเสียเปรียบ ซึ่งถ้าดูตามข้อเท็จจริงแล้วในการเลือกตั้งแบบ ส.ส. เขตคราวที่แล้วก็ไม่มีชื่อพรรค หรือ โลโก้พรรค มีแต่หมายเลขและช่องกากบาทเท่านั้น และถ้ามองในมุมตรงข้าม หากใช้บัตรเลือกตั้งที่มีทั้งเบอร์ ชื่อพรรค โลโก้พรรค จะเป็นการทำให้พรรคอื่นที่เกิดใหม่เสียเปรียบหรือไม่ เพราะถ้าจะคิดอาศัยความเป็นพรรคเก่า อาศัยความเคยชินที่ประชาชนจดจำได้มากกว่า

ซึ่งเรื่องของบัตรเลือกตั้งนี้ จะได้ข้อสรุปจากกกต.ในวันที่ 19 ธันวาคม ก็จะรู้แล้วว่าจะออกมาหน้าตาอย่างไร แต่เชื่อว่าไม่ว่าจะเป็นแบบใดก็คงไม่ได้ทำให้กระทบต่อผลการเลือกตั้งที่จะออกมาแต่อย่างใด เพราะประชาชนจะเลือกใครเขาก็ต้องดูแล้วดูอีก คงไม่กาผิดไปจากที่ต้องการเลือกอย่างแน่นอน ดังนั้น การออกมาร่วมกันถล่ม “บิ๊กตู่” ในเรื่องนี้น่าจะเป็นการหวังผลทางการเมืองที่จะทำให้มองเห็นว่า กกต.ถูกแทรกแซงการทำงานตั้งแต่ต้นหรือไม่มากกว่า ทั้งนี้ เนื่องจากว่า พรรคพลังประชารัฐและขั้วที่สนับสนุนบิ๊กตู่กำลังมาแรงเหลือเกินในตอนนี้ จึงต้องสกัดดาวรุ่งไว้ก่อนเท่าที่จะทำได้

อย่างไรก็ตาม การออกมาเคลื่อนไหวทางการเมืองที่สอดคล้องกันของพรรคเพื่อไทยกับประชาธิปัตย์ที่ดูเหมือนว่าตอนนี้จะลืมความแค้นเดิม แล้วหันมาจับมือร่วมกันถล่มบิ๊กตู่ จนทำให้การเมืองเหลือเพียง 2 ขั้วคือ”เอา”กับ”ไม่เอา”บิ๊กตู่นั้น ดูเหมือนว่าจะมีความเป็นไปได้มากขึ้น แต่ครั้นจะอนุมานกันแล้วสรุปกันแบบนี้ก็ดูจะมองกันง่ายเกินไป ขั้วการเมืองยังพลิกกลับไปกลับมาได้ตลอด จนถึงผลการเลือกตั้งออกมานั่นแหละ คำว่า “การเมืองไม่มีมิตรแท้และศัตรูที่ถาวร”ยังเป็นสัจธรรมสำหรับการเมืองไทยอยู่เสมอ ตราบใดที่คุยกันรู้เรื่อง ผลประโยชน์ลงตัว อะไรก็เป็นไปได้ทั้งนั้น !!

ทีมข่าว ลึกทันใจ รายงาน
กำลังโหลดความคิดเห็น