รายการ ฅนจริงใจไม่ท้อ วันเสาร์ที่ 18 สิงหาคม 2561 พาคุณผู้ชมไปพบกับเรื่องราวของ “อ.ประยนต์” ครูสอนตัดผมที่โคราช ซึ่งไม่เพียงเป็นตัวอย่างของคนที่รักในวิชาชีพของตนเองอย่างแรงกล้า แต่ยังเป็นตัวอย่างของผู้ที่บำเพ็ญประโยชน์เพื่อสังคม ไม่เท่านั้น การจากไปของอาจารย์ ยังทำให้คนทำงาน ไม่เฉพาะอาชีพช่างทำผม ต้องหันมาคำนึงถึงความปลอดภัยในการทำงานให้มากขึ้น
อาจารย์ประยนต์ เอียการนา ผู้ก่อตั้งสถาบันกัลบกสยาม ซึ่งสอนตัดผมใน จ.นครราชสีมา ไม่เพียงเปิดสอนตัดผมมานานเกือบ 40 ปี แต่ยังมีจิตอาสา พาลูกศิษย์ไปตัดผมให้เด็กตามโรงเรียนต่างๆ และประชาชนทั่วไปฟรีอีกด้วย
ย้อนกลับไป อ.ประยนต์เริ่มสนใจการตัดผมตั้งแต่ปี 2517-2518 จากการเห็นเพื่อนที่อยู่บ้านนอกด้วยกันเป็นช่างตัดผม แม้ อ.ประยนต์ จะใช้วิธีครูพักลักจำจากการดูเพื่อนทำงานนานหลายเดือน แต่ดูจะไม่ตอบโจทย์ความต้องการ จึงตัดสินใจเข้ากรุงเทพฯ เพื่อเรียนตัดผมอย่างจริงจัง เรียนจนกระทั่งได้เป็นครูสอนตัดผม แต่สอนอยู่ได้ไม่กี่ปี ก็ตัดสินใจกลับโคราช
“สอนอยู่ที่ทัศนียา 5-6 ปี เลยมีความคิดว่า ชวนแฟน บอกเธอเอ๊ย เราอยู่กรุงเทพฯ ค่าใช้จ่ายก็สูง บ้านเราก็พออยู่ได้นะ เราเอาวิชาชีพตรงนี้ไปให้คนบ้านเราเถอะ ลูกหลานบ้านเรายังจนอยู่มาก คนบ้านนอกบ้านนายังจนอยู่มาก เรากลับเถอะ เรากลับบ้านเราเถอะ ที่ไหนที่เราคิดว่าจะทำดีได้ เราทำได้ทั้งนั้นแหละ กลับไปบ้านเราเถอะ ไปทำให้คนบ้านเรา” อ.ประยนต์ กับความคิดอยากช่วยคนจนที่บ้านเกิดให้มีอาชีพ
หลังกลับมาโคราช อ.ประยนต์ เริ่มเป็นครูสอนตัดผมที่วิทยาลัยสารพัดช่างนครราชสีมา
“ผมสอนตั้งแต่ 8 โมง ถึง 4 ทุ่ม รอบเช้า รอบบ่าย รอบค่ำ เราจะสอนว่า พอนักศึกษามาใหม่ 1.ขึ้นขวด รองรับน้ำหนักมือ ขึ้นขวด มีดโกน การใช้หวี พอพวกนี้ได้คล่องแล้ว พอใช้หวีได้คล่องแล้ว ก็วางโปรแกรม 16 โรงเรียนในโคราช ตัดให้เด็ก”
นอกจากสอนตัดผมให้นักศึกษาที่วิทยาลัยสารพัดช่างนครราชสีมาตั้งแต่รุ่น 1-99 แล้ว อ.ประยนต์ ยังก่อตั้ง “สถาบันกัลบกสยาม” สถาบันออกแบบทรงผมสุภาพบุรุษ-สุภาพสตรี เพื่อสอนตัดผมให้ประชาชนทั่วไปที่สนใจ นอกจากนี้ยังพาลูกศิษย์ออกตัดผมให้ประชาชนฟรี ภายใต้โครงการ ตัดผมฟรี 4 มุมเมืองด้วย
อ.ประยนต์ ไม่เพียงเป็นบุคคลที่มีจิตวิญญาณของความเป็นครูอยู่อย่างเต็มเปี่ยม แต่ยังรักลูกศิษย์เหมือนลูก ศิษย์มีปัญหาครอบครัว อ.ประยนต์ ก็พร้อมให้มาพักอาศัยที่บ้าน
“ได้เรียนกับ อ.ประยนต์เมื่อประมาณ 30 ปีที่แล้ว จบ ม.6 แล้วก็ไปเรียนที่โรงเรียนสารพัดช่างนครราชสีมา ได้รู้จัก อ.ประยนต์ ผมมีปัญหาเรื่องครอบครัวนิดหน่อย จะเรียนไม่จบ ก็ไปปรึกษาอาจารย์ว่า ผมคงไม่ได้เรียนต่อหรอก อาจารย์เลยช่วย ให้ผมมานอนกินอยู่ที่บ้าน จนได้เรียนจบ พูดง่ายๆ เหมือนลูกบุญธรรม เพราะกินอยู่กับแก สุดยอด ผมไม่เคยเจอ ลูกศิษย์ที่แกสร้างมา เป็นแสนคน ระยะเวลา 30 ปีที่แกสร้างคนให้มีวิชาชีพ และเลี้ยงตัวเองได้ ส่งลูกเรียนจบได้” สิทธิชัย จันตรี ลูกศิษย์ที่เปรียบเหมือนลูกบุญธรรมย้อนความประทับใจที่มีต่อ อ.ประยนต์
อ.ประยนต์ ไม่ใช่ครูที่สอนวิชาชีพตัดผมให้ลูกศิษย์เท่านั้น แต่ยังสอนให้ศิษย์มีคุณธรรมจริยธรรม ทั้งยังช่วยการันตีพฤติกรรมเพื่อให้ศิษย์มีงานทำอีกด้วย
“เราเป็นครู เราสอนหนูไป พอจบแล้ว จะปล่อยหนูไปลอยๆ โดยไม่รู้เลยว่า หนูจะสะเปะสะปะไปอย่างไร จบแล้ว ไม่รู้ว่าไปเปิดร้าน ไปสมัครร้าน เขาจะรับหรือเปล่า แต่ถ้ามีครูไปการันตี คนนี้ฝีมือดีนะ มารยาทดีนะ ชีวิตรักการทำงานนะ ตรงต่อเวลา ซื่อสัตย์ต่อตัวเอง ซื่อสัตย์ต่อเจ้าของร้าน ซื่อสัตย์ต่อลูกค้า เราไปการันตีปุ๊บ เขารับเลยทันที แต่ก่อนที่เราจะการันตี เราต้องสอนให้เด็กก่อน”
ตั้งปณิธานจะเป็นครูสอนตัดผมจนวาระสุดท้ายของชีวิต แม้ต้องตายคาเก้าอี้ ก็ยอม!
“อ.ประยนต์ตั้งปณิธานไว้ว่า จะขอเป็นข้ารองพระบาทของพระเจ้าอยู่หัวในรัชกาลที่ 9 ท่านบอกว่า ขอทำอาชีพตรงนี้ เป็นครูสอนตรงนี้ จนกว่าตัวเองจะตาย ถึงต้องตายคาเก้าอี้ตัดผมเลย ก็ยอม แกตั้งมั่นว่าจะทำจนถึงที่สุด” อ.เรณู เอียการนา ภรรยา อ.ประยนต์ ซึ่งเป็นครูสอนตัดผมของสถาบันกัลบกสยามเช่นกัน เผยปฏิธานของสามีด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ
เหตุที่ทำให้ อ.เรณู เสียงสั่นเครือ คงเป็นเพราะช่วงที่รายการ ฅนจริงใจไม่ท้อ ไปสัมภาษณ์และถ่ายทำชีวิต อ.ประยนต์เมื่อเดือน ก.ค.ที่ผ่านมา อ.ประยนต์ อยู่ระหว่างป่วยด้วยโรคร้ายและรักษาตัวอยู่ที่บ้าน ไม่สามารถสอนลูกศิษย์ตัดผมมานานกว่า 1 ปีแล้ว
“เราเพิ่งทราบอาการ หลังจากน้ำหนักแกลดประมาณ 10 กว่าโล สังหรณ์ใจ เลยพาไปตรวจเช็คร่างกายประจำปี พอตรวจพบว่ามีก้อนเนื้อ ก็ทำซีทีสแกนดู หมอให้ส่องกล้องดู พบว่าเป็นมะเร็งปอด ประมาณสักเดือน เม.ย.ปีที่แล้ว พอทราบ ทีแรกก็เริ่มทำคีโม ทำได้ประมาณ 5 เข็ม จะเริ่มเข็มที่ 6 หมอบอกภูมิคุ้มกันตกมาก ไม่สามารถดำเนินการได้ เลยให้หยุดพักประมาณเดือนกว่าๆ หลังจากนั้นคุณหมอนัดใหม่ แล้วก็เอ็กซเรย์ปอด ผลออกมาว่า มะเร็งที่เคยยุบไป 70% เหลืออยู่ประมาณ 30% ตอนนี้มันโตกลับมาเท่าเดิม” อ.เรณู เล่าด้วยความสงสารสามี
แม้ อ.ประยนต์ จะป่วยและต้องหยุดสอนตัดผม แต่สถาบันกัลบกสยามไม่ได้หยุดดำเนินการ เพราะอาจารย์ขอให้ภรรยาและลูกสานต่อภารกิจแทน
“หลังจากที่แกป่วย แกพูดกับเราว่า ไม่ไหวแล้วนะ ช่วยสอนต่อให้หน่อยนะ ยังอยากให้สถาบันนี้ยืนหยัดอยู่ต่อไป เหมือนกับว่าถ้าเรายังทำต่อไป แกก็มีกำลังใจที่จะสู้โรคนี้ต่อไป เพราะมันเป็นหัวจิตหัวใจของแกจริงๆ พี่ก็เลยรับปาก จะทำทุกอย่างให้ดีที่สุดเท่าที่ตัวเองจะทำได้” อ.เรณู พูดด้วยน้ำเสียงเศร้าสร้อย
“มีลูกศิษย์ของพ่อหลายคนบอกว่า พ่อนี่สุดยอด ผมก็ดีใจที่เขาคิดกับพ่อเราแบบนั้น ...อยากบอกพ่อว่า เมื่อก่อนที่พ่อเคยพูดว่า พ่อปูทางไว้ให้แล้ว ผมเข้าใจนะว่าแกปูทางมาให้แล้วในสายอาชีพแบบนี้ ที่เหลืออยู่ที่เราว่า เราจะเดินตามแบบพ่อได้ไหม” กนกศักดิ์ เอียการนา ลูกชาย อ.ประยนต์ พร้อมเดินตามที่พ่อปูทางไว้
อ.ประยนต์ ยอมรับ ไม่ระวัง-ใจกล้าเกิน ทำให้ถูกโรคร้ายคุกคาม!
“ผมเองไปตัดผมให้ผู้ป่วยตึกโรคมะเร็ง ก็ไม่เคยคิดว่าจะขึ้นไปใช้บริการ ...เราไม่ระมัดระวังในการปฏิบัติงาน ในการป้องกันตัวเอง จริงๆ แล้ว การปฏิบัติงาน การปฏิบัติหน้าที่ ไม่ว่างานอะไรก็แล้วแต่ เราควรจะมี Mask เพราะแต่ละคน เราไม่รู้ว่าเขาเป็นอะไร ผมติดมาจากประชาชน ผมสงสัยว่า หัวนี้ที่ตัด นักศึกษาใส่สบู่แล้วกันให้เขาหรือเปล่า ผมก็ดมที่ท้ายทอยเขา โอเคเลย ใจเรากล้าเกินไป”
แม้ อ.ประยนต์ จะป่วยด้วยโรคมะเร็งปอด แต่ทีมงาน ฅนจริงใจไม่ท้อ ไม่รู้สึกเลยว่ากำลังคุยอยู่กับคนป่วย เพราะทั้งคำพูดและแววตาที่อาจารย์สื่อออกมา ล้วนแล้วแต่เปี่ยมไปด้วยความสุขทุกนาทีที่ได้พูดถึงสิ่งที่อาจารย์รักและทำมาเกือบ 40 ปี
“อันนี้เป็นกระเป๋าส่วนตัว(เต็มไปด้วยอุปกรณ์สำหรับตัดผม) ผู้หญิงมาเราตัดได้ ผู้ชายมาเราตัดได้ (ถาม-อาจารย์เปิดบ่อยไหมกระเป๋าใบนี้) เปิดทุกวัน จนแป้งเลอะเลย (ถาม-เปิดแล้ว ตัดไม่ได้ อาจารย์รู้สึกอย่างไร?) ไม่ได้แล้ว เข่าอ่อนหมด เหนื่อย ล้า (ถาม-อาจารย์ท้อไหม?) ไม่ท้อ ท้อทำไม ลมหายใจยังมีอยู่ มันเป็นความสุขนะ (ถาม-ถ้ามีคนมาขอกระเป๋าเครื่องมือนี้?) ไม่ได้ มันเป็นหัวใจของเรา ถ้าเอาไป ก็หมดความสุขเลย (ถาม-ความสุขที่แท้จริงของอาจารย์คืออะไร?) คือ การได้มีโอกาสให้ผู้อื่น ให้ความสุขผู้อื่นได้ยืนอยู่บนขาของตัวเองให้ได้”
แม้ป่วย แต่ อ.ประยนต์ ก็ยังหวังว่า จะหาย เพื่อกลับมาสอนตัดผมและออกตัดผมฟรีให้ประชาชนเหมือนเดิม!
“วันใดที่หายป่วย อย่าคิดว่าผมจะยืนอยู่แค่นี้ ผมจะต้องลงลุยจนกว่าผมจะยืนไม่ได้ (ถาม-อาจารย์มีอะไรยึดเหนี่ยวหรือเป็นแรงบันดาลใจให้ตัวเองเข้มแข็ง?) ก็หวังว่าสักวันหนึ่งจะหายป่วย ทำใจให้เข้มแข็ง หวังว่าวันหนึ่งจะหายป่วย และจะนำการบริการสู่พี่น้องประชาชน ประชาชนยังรอผมอีกเยอะ ชาวบ้านชาวเมืองยังรอบริการตัดผมอีกเยอะ อยากเห็นหน้าผม ไม่ได้เห็นหน้าผมปีกว่าเกือบ 2 ปีแล้ว (ถาม-คิดถึงไหม?) คิดถึง”
เสียดาย! ที่ อ.ประยนต์ ไม่มีโอกาสได้ทำตามที่หวัง เพราะอาจารย์ได้จากไปอย่างสงบด้วยโรคมะเร็งปอดเมื่อวันที่ 8 ส.ค.ที่ผ่านมา หลังรายการฯ ไปสัมภาษณ์และถ่ายทำชีวิตของอาจารย์ได้เพียง 1 เดือน
คำพูดสุดท้ายที่ อ.ประยนต์ ได้ฝากถึงลูกศิษย์และช่างทำผมทุกคนผ่านทางรายการฯ ก็คือ
“ขอฝากถึงลูกศิษย์ของ อ.ประยนต์ และของกัลบกสยาม และของสารพัดช่าง และเพื่อนๆ สมาชิกชาวช่างตัดผมบาร์เบอร์ทุกคน หรือชาวช่างเสริมสวยทุกคน มีหลายคนที่มาประกอบอาชีพด้านนี้ และไม่รู้จักป้องกันตัวเอง เพราะทุกอย่างที่เราฉีดออกมาจากกระป๋อง มันเป็นสารเคมีทั้งนั้น มันไปทำลายปอด ให้รู้จักป้องกันตัวเอง มันเป็นสุขภาพของตัวเอง 2.เป็นช่างตัดผม เป็นช่างเสริมสวย ก็ขอว่า อย่าเล่นการพนัน เพราะเล่นการพนัน มันไม่มีให้เราได้เพิ่มขึ้น มันมีแต่ให้เราลดลง ขอให้ตั้งใจทำงาน ทำจริงทำจัง และเป็นคนใจเย็น ผมขอฝากความคิดถึงจากใจของผม ผมรักลูกศิษย์ทุกคน รักเหมือนลูกทุกคน ขอให้ลูกๆ จงเจริญร่ำรวย ด้วยอายุ วรรณะ สุขะ พละ และขอให้เก็บเงินเก็บทอง มีเงินมีทอง”
คำพูดสุดท้ายของ อ.ประยนต์ ไม่เพียงช่วยกระตุ้นเตือนให้ผู้ประกอบอาชีพช่างทำผมต้องรู้จักป้องกันตนเองในการทำงาน แต่ยังทำให้คนทำงานทุกคน ไม่ว่าจะอาชีพใด ต้องตระหนักถึงความปลอดภัยในการทำงานด้วยเช่นกัน ...ขอไว้อาลัยกับการจากไปของ อ.ประยนต์ เอียการนา อีกครั้ง
ติดตามรับชมรายการ “ฅนจริง ใจไม่ท้อ” ได้ ทุกวันเสาร์ เวลา 09.00-10.00 น. ทางสถานีโทรทัศน์ NEWS1 (IPM ช่อง 64 / PSI ช่อง 211)