รายงานพิเศษ ลึกทันใจ ตอน เปิดกลโกงขายสินค้าปลอมบนออนไลน์ ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียม NEWS1 วันพฤหัสบดีที่ 23 สิงหาคม 2561
ในสังคมยุคปัจจุบันอยู่กันยากขึ้นทุกวัน การจะใช้เงินแต่ละบาทที่หามาได้ จะต้องคิดให้ดีว่าคุ้มค่าหรือไม่ ที่สำคัญการจะซื้อสินค้าวันนี้มีความสะดวกสบายมาก โดยเฉพาะระบบออนไลน์ที่ทำให้ชอปปิงกันได้อย่างเพลิดเพลินบนหน้าจอโทรศัพท์ แต่อะไรที่สะดวกเกินไปและราคาถูกเกินไป ก็ต้องระวังให้มาก ๆ เพราะตอนนี้มีพวกพ่อค้า-แม่ค้าชาวจีนหัวใสแต่ใจไม่ใส อาศัยช่องทางการค้าเสรีบนหน้าเพจเฟซบุ๊กมาใช้ในการโปรโมตสินค้า หลอกคนไทยให้หลงเชื่อ เมื่อตกเป็นเหยื่อแล้วก็ยากที่จะได้เงินคืน วิธีการของคนพวกนี้สังเกตได้ง่าย ๆ คือ จะเปิดเพจในแฟซบุ๊กโปรโมตสินค้าของตัวเองว่า เป็นสินค้าแบรนด์เนม เกรดพรีเมียม นำมาขายในราคาต่ำกว่าท้องตลาดหลายเท่าตัว และมักอ้างเหตุผลต่างๆ นานาเพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ เช่น ลด 80% ฉลองยอดขาย ตอบแทนลูกค้า, ลดล้างสต๊อก เนื่องจากผู้ผลิตปิดโรงงาน พร้อมกระตุ้นด้วยจำนวนและระยะเวลาที่จำกัด เช่น จำนวนจำกัด 100 ชิ้นเท่านั้น หรือ เท่านั้นยังไม่พอสามารถ “เก็บเงินปลายทาง” อีกทั้งยังมี Shopping Guarantee เช่น สามารถคืนสินค้าได้ภายใน 7 วัน รับประกันการโอนเงินคืน พร้อมระบุชื่อบริษัทและช่องทางการติดต่อ เช่น อีเมล เบอร์โทรศัพท์ของศูนย์ลูกค้าสัมพันธ์ และวัน-เวลาในการให้บริการ เพื่อให้ลูกค้ารู้สึกมั่นใจว่าไม่ถูกหลอกแน่ แต่ช่องโหว่สำคัญคือเมื่อลูกค้าได้รับสินค้าแล้ว ส่วนใหญ่ไม่ได้ตรวจสอบสินค้าก่อนเซ็นรับและชำระเงิน พอเปิดดูก็พบว่าสินค้าไม่ได้คุณภาพ ไม่ตรงกับคุณสมบัติที่โฆษณา และไม่ใช่สินค้าแบรนด์เนมที่สั่งซื้อไป พอติดต่อกลับไปก็หายจ้อยปิดเพจหนี ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่าพ่อค้า-แม่ค้าพวกนี้ส่วนใหญ่จะเป็นชาวจีน เนื่องจากจะสังเกตได้ว่ารูปภาพหรือลักษณะของเว็บต้นทางมักมีภาษาจีนปรากฏอยู่ หรือบางเพจก็ใช้ชื่อภาษาจีนแต่ใช้ตัวสะกดภาษาอังกฤษ
สำหรับลูกค้าที่รู้ตัวว่าโดนหลอกเข้าให้แล้วก็ไม่ต้องตกใจจนเกินไป พันตำรวจเอก ศิริวัฒน์ ดีพอ ในฐานะรองโฆษกกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยีโฆษก หรือ บก.ปอท. บอกว่า หากสินค้าที่ซื้อมาไม่ตรงกับคำโฆษณา ก็ปฏิเสธการรับสินค้าได้โดยไม่มีเงื่อนไข และไม่ต้องชำระค่าปรับใดๆ ให้เจ้าของสินค้าหรือบริษัทจัดส่งทั้งสิ้น หรือถ้าเซ็นรับสินค้ามาแล้วเพิ่งทราบภายหลัง ก็สามารถแจ้งความดำเนินคดีกับผู้ขาย พร้อมทั้งส่งคืนสินค้าและขอรับเงินคืนได้เช่นกัน ส่วนในกรณีที่ติดต่อผู้นำเข้าและจำหน่ายสินค้าไม่ได้ก็ให้แจ้งความดำเนินคดีได้ที่สถานีตำรวจทุกพื้นที่ หรือจะแจ้งมายัง ปอท.เพื่อให้ดำเนินการเอาผิดตามกฎหมายก็ได้ แต่ทางที่ดีที่สุดคือ จะซื้ออะไรต้องคิดให้รอบคอบ ดูให้ดี จะไม่เสียเงินฟรีในภายหลัง
ทีมข่าว ลึกทันใจ รายงาน