รายการ ฅนจริงใจไม่ท้อ วันเสาร์ที่ 11 สิงหาคม 2561 พาคุณผู้ชมไปพบกับเรื่องราวของ “น้องใหม่” หนุ่มเรียนดี กตัญญู แต่ยากจน ต้องพบกับอุบัติเหตุแบบไม่คาดฝัน ทำชีวิตเปลี่ยน จากนักดนตรี เป็นผู้พิการติดเตียง และแม่ที่รักลูกปานดวงใจ พยายามทำทุกอย่างเพื่อให้ลูกหายเป็นปกติ
“คชากานต์ พ่วงเพชร” หรือน้องใหม่ วัย 23 เป็นเด็กหนุ่มเรียนดี อยู่ที่ อ.ปราณบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ ถ้าไม่ใช่เพราะฐานะยากจน น้องใหม่อาจมีอนาคตที่สดใส เมื่อฐานะครอบครัวไม่เอื้ออำนวย เขาจึงต้องยอมหยุดการเรียนไว้แค่ชั้น ม.3 แล้วออกมาหางานทำ เป็นพ่อค้าตระเวนขายของตามตลาด หารายได้เลี้ยงครอบครัว ขณะที่วิกานดา แซ่พัว แม่น้องใหม่ ทำงานเป็น รปภ.อยู่ที่โรงแรมแห่งหนึ่งใน อ.หัวหิน ต้องทำงานวันละ 12 ชม. ตั้งแต่ 1 ทุ่ม ถึง 7 โมงเช้า
นอกจากชอบค้าขายแล้ว น้องใหม่ยังชอบเล่นดนตรี จึงรับงานเล่นดนตรีตามร้านอาหารใน อ.ปราณบุรี แต่ทำได้ไม่นาน ร้านนั้นก็ปิดตัวลง เขาจึงมาช่วยยายขายไก่ย่าง
“ช่วยยายย่างไก่บ้าง พอยายเลิกขายของประมาณ 3-4 โมง ก็เอาไก่ที่ยายหมักไว้ไปขายต่อที่ตลาด ที่หน้าอำเภอก็ไป ถ้าว่างก็หาอะไรมาขาย ขายขนมกะหรี่ปั๊บบ้าง ไอติมบ้าง เขาคิดตลอด แม่จะทำอะไรขายดี (ถาม-ทำไมเขาต้องทำทุกอย่างขนาดนั้น?) เขาอยากได้เงินเยอะๆ ให้แม่ และเขาอยากมีกิจการของตัวเอง” วิกานดา แซ่พัว แม่น้องใหม่ย้อนภาพความขยันทำงานของลูกชาย
ต่อมา น้องใหม่ได้งานทำเป็นร้านผับกึ่งบาร์ใน อ.หัวหิน ด้วยความอยากทำงาน น้องจึงยอมเดินทางไกลด้วยการขี่มอเตอร์ไซค์จากบ้านใน อ.ปราณบุรี เพื่อไปทำงานที่ อ.หัวหิน
“ทางบ้านก็ไม่สนับสนุนให้ไป เพราะอันตราย รถก็ต้องยืมของเพื่อนไป รถก็พัง ไม่ดี เบรคหน้าไม่มี เบรคหลังไม่มี ก็ห้ามแล้ว เขาบอกว่า ถ้าได้ตังค์ค่าเช่าบ้าน ก็จะหางานใกล้ๆ นี่แหละทำ ก็เลยไปสมัครงานที่หัวหิน ไปรับจ้างเสิร์ฟอาหารที่หัวหิน” กัญญา มณีกาศ ยายน้องใหม่ พูดถึงอันตรายในการเดินทางของน้องใหม่ ที่ไม่ใช่แค่เรื่องระยะทาง แต่รวมถึงสภาพมอเตอร์ไซค์ที่ไม่พร้อมใช้งานด้วย
และแล้ว! เรื่องเศร้าที่ไม่มีใครคาดคิดก็เกิดขึ้น หลังน้องใหม่ขี่มอเตอร์ไซค์ไป-กลับระหว่างบ้านและที่ทำงาน ได้แค่ 5 วัน
“ที่จริงต้องเลิกประมาณตี 2-ตี 3 แม่ก็บอกว่ามันอันตราย บอกทุกวันว่า ถ้ากลับตี 2 ตี 3 ถ้าขี่รถมา ระหว่างทาง ถ้ารถเป็นอะไร หรือเกิดเหตุอะไร จะทำอย่างไร ก็บอกว่าให้กลับตอนเช้า หาที่นอนได้ก็นอนไปก่อนแถวร้าน เช้าค่อยกลับ เขาก็กลับตอนเช้าวันนั้นที่เกิดเหตุ” วิกานดา แซ่พัว แม่น้องใหม่ กำชับลูกชายเสมอเรื่องการเดินทาง
แม้กลับบ้านตอนเช้าตามที่รับปากแม่แล้ว แต่ฝนฟ้าไม่เป็นใจ จึงเกิดอุบัติเหตุไม่คาดฝัน!
“พอ 6 โมงครึ่งก็ประสบอุบัติเหตุ ถึงสว่างแล้ว แต่ฝนมันตกหนักมาก น้องคงจะแซง แต่แซงไม่พ้น พ้นคันหนึ่ง แต่มาโดนอีกคันหนึ่ง” กัญญา มณีกาศ ยายน้องใหม่ เล่าเหตุการณ์ที่เกิดกับหลานชายเมื่อเช้าวันที่ 29 เม.ย.2561
“ตรงเส้นทางหนองหอย จะไปหัวหิน มันเป็น 2 เลน แล้วน้องก็แซง น้องก็แซงรถยนต์คันหนึ่งขึ้นไป น่าจะเกิดจากอุบัติเหตุ ถนนลื่นหรืออะไรสักอย่าง เขาก็ไปอีกเลนหนึ่ง ไปตัดหน้ารถยนต์อีกคันหนึ่ง ทีนี้ก็เลยหนัก เราเป็นฝ่ายผิด เพราะเราตัดหน้าเขา แต่รถคู่กรณีก็มาเยี่ยม” เขมิกา พุ่มซ้อน น้าสะใภ้น้องใหม่ ช่วยเล่าเหตุการณ์วันเกิดเหตุ
หมอให้ทำใจ แม่ขอแค่ลูกรอด!
“หมอบอกตั้งแต่วันแรกแล้วว่า ให้ทำใจ เผื่อใจด้วย ไม่รู้ว่าจะฟื้นหรือไม่ฟื้น ฟื้นขึ้นมาก็ไม่รู้ว่าฟื้นแบบไหน แต่ ณ ตอนนั้นก็ขอให้รอดไว้ก่อน อย่างไรก็ขอให้รอดไว้ก่อน”
ยายขอให้หลานรอด ลำบากแค่ไหนก็ยอม!
“หมอบอกไม่รอด ให้ทำใจ ยายก็ทำใจไม่ได้ เลี้ยงมาแล้ว 23 ปีแล้ว คิดว่าน้องตายแน่ๆ เลย แต่ไม่อยากให้ตาย ถ้าเขาอยู่ เราจะลำบาก เราก็ยอม”
แม่ยอมเสี่ยงตายขี่มอเตอร์ไซค์ไป-กลับระหว่างบ้านใน อ.ปราณบุรี กับโรงพยาบาลใน อ.เมืองประจวบฯ วันละ 2 รอบเพื่อเยี่ยมลูกชาย
“ใหม่อยู่ประจวบฯ แม่ใหม่ขี่มอเตอร์ไซค์จากนี่ไป รพ.ประจวบฯ วันละ 2 รอบ ไกลนะไปประจวบฯ ไกลกว่าจากปราณฯ ไปหัวหินนะ ไปดูลูก เพราะเขาให้เยี่ยมเป็นเวลา แม่ก็จำได้ว่าเวลาไหนหมอให้เยี่ยม เขาก็ขี่มอเตอร์ไซค์ไปดูลูกเขา พอหมดเวลา เขาก็ขี่มอเตอร์ไซค์กลับ พอเปิดให้เยี่ยมอีก เขาก็ขี่ไปอีก วันหนึ่งเขาไป 2 รอบ แล้วขี่มอเตอร์ไซค์ไป ก็อันตรายนะ” กนิษฐา เลี่ยมนาค เพื่อนบ้าน สะท้อนความรักที่แม่น้องใหม่มีต่อลูก
หลังลูกชายออกจากโรงพยาบาลมาอยู่บ้านในสภาพนอนติดเตียง ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ แม่ต้องตัดสินใจออกจากงาน เพื่อมาดูแลลูก
“เพราะว่าต้องคอยพลิกตัวเขาทุก 2 ชม. จะไปทำงานไม่ได้เลย (ถาม-แม่ลาออกจากงาน เอารายได้ที่ไหนใช้?) ตอนนี้ก็ไม่มี อาศัยยายน้องใหม่ที่เขาขายของ (ถาม-ยายน้องใหม่ ที่น้องไปช่วยขายไก่ย่าง?) ค่ะ (ถาม-ตอนนี้แม่มองอนาคตอย่างไรบ้าง?) ตอนนี้ยังมืดแปดด้าน ยังมองไม่เห็นอะไร ต้องหาอะไรทำ หาอาชีพทำ เช่น ขายของในเฟซบุ๊ก แต่ก็ได้แต่คิด เพราะตอนนี้ก็ต้องดูแลลูกให้ดีที่สุดก่อน วันหนึ่งก็ต้องดูแล ตื่นเช้ามา ก็แปรงฟัน อาบน้ำ เช็ดตัว ให้อาหาร ทำกายภาพบำบัด ระหว่างวันก็พลิกตัวเขาทุก 2 ชม. แทบไม่มีเวลาทำอะไรอย่างอื่นเลย”
แม่ไม่เพียงดูแลน้องใหม่อย่างใกล้ชิด แต่ยังพยายามฟื้นความทรงจำของลูก ด้วยการเปิดคลิปที่ลูกชายเคยร้องเพลงตอนเป็นนักดนตรี ให้ลูกชายดู ไม่เท่านั้น แม่ยังลงทุนนำกีตาร์ของลูกชายมาดีดให้ลูกฟัง ทั้งที่ตนเองก็ดีดไม่เป็น และยังร้องเพลงที่ลูกเคยร้องให้ลูกฟังอีกด้วย
“....เพราะโลกนี้มีเธอเพียงคนเดียว ฉันจึงเสียเธอไม่ได้...” แม่ร้องเพลงทั้งน้ำตาให้ลูกฟัง
“ใหม่กลับมาอยู่บ้านไม่กี่วัน ดีขึ้นเยอะ ...ทีแรกใหม่ยกขาเองไม่ได้เลย พอหนูไปเยี่ยมเขาอีกรอบ เขายกขาเอง แล้วนิ้วขยับ แม่เขาเล่นกีตาร์ให้ฟัง เปิดคลิปที่เขาร้องให้ฟัง เหมือนเขารับรู้ เขาอยากจะร้อง อยากจะลุก ขาเขาเหมือนอยากจะลุก จากมาอยู่แรกๆ ไม่มีพัฒนาการอย่างนี้เลยนะ” กนิษฐา เลี่ยมนาค เพื่อนบ้าน เชื่อว่าสิ่งที่แม่ทำ ช่วยให้ใหม่อาการดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
ความหวังอย่างเดียวของแม่ คือ อยากให้ลูกหายเป็นปกติเหมือนดิม
“ตอนนี้ อย่างเดียวเลยคืออยากให้ลูกหาย เราติดอยู่ตรงที่เราฐานะไม่ดี ฐานะยากจน ถ้าเกิดเรามีฐานะที่ดีกว่านี้ ก็อยากไปหาหมอที่เก่งๆ พาลูกไปรักษาให้หาย อยากให้ลูกหาย เป็นปกติเหมือนเดิม เป็นใหม่คนเดิม”
หากท่านใดต้องการแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายของคุณวิกานดาและลูก หรือสนับสนุนค่ารักษาให้น้องใหม่ สามารถโอนเงินไปได้ที่ ธนาคาร กสิกรไทย สาขาปราณบุรี ชื่อบัญชี นางวิกานดา แซ่พัว เลขที่บัญชี 379-2-43331-5 หรือหากต้องการส่งสิ่งของช่วยเหลือ เช่น อุปกรณ์ปฐมพยาบาลผู้ป่วย, อาหารเสริม (ENSURE), ถุงมือสเตอร์ไรด์ สามารถโทรสอบถามได้ที่ 085-941-6594 (คุณวิกานดา)
ติดตามชมรายการ “ฅนจริง ใจไม่ท้อ” ได้ ทุกวันเสาร์ เวลา 09.00-10.00 น. ทางสถานีโทรทัศน์ NEWS1 (IPM ช่อง 64 / PSI ช่อง 211)


