ลึกทันใจ : พรรคเพื่อไทยระส่ำหนักลุ้นถูกตัดสิทธิ์อีกชุดใหญ่!!

รายงานพิเศษ ลึกทันใจ ตอนพรรคเพื่อไทยระส่ำหนักลุ้นถูกตัดสิทธิ์อีกชุดใหญ่!! ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียม NEWS1 วันอังคารที่ 31 กรกฎาคม 2561



ความระส่ำระสายของพรรคเพื่อไทยตอนนี้ ไม่ใช่เพียงแค่อดีตส.ส.กำลังถูกพลังดูดจากพรรคพลังประชารัฐเท่านั้น แต่ยังมีพวกที่ต้องลุ้นถูกตัดสิทธิ์ทางการเมือง ถึงขั้น “ล้างบาง”อดีต ส.ส.ชุดใหญ่อีก 40 คนจากเรื่องที่ร่วมกันเสนอร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรรม เมื่อปี 2556 ซึ่งหาก ป.ป.ช.มีมติชี้มูลความผิดแล้วก็จะส่งเรื่องเข้าสู่การพิจารณาของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาโดยของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองพิจารณาตัดสินต่อไป เท่านั้นยังไม่พอ! ยังมีกรณีที่ ป.ป.ช.ได้แจ้งข้อกล่าวหา น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร และคณะรัฐมนตรีอีกรวม 34 ราย ข้อหาละเว้นการปฏิบัติ ไม่ได้ดำเนินการให้เป็นไปตาม พ.ร.บ.วิธีการงบประมาณ พ.ศ. 2502 ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยสุจริต ทำให้เกิดความเสียหายแก่การเงินการคลังของประเทศเป็นเงินจำนวนกว่า 1,900 ล้านบาท กรณีจ่ายเงินเยียวยาแก่ผู้ได้รับผลกระทบจากการชุมนุมทางการเมือง ปี 2548-2553 โดยไม่มีอำนาจ เนื่องจากไม่มีกฎหมายรองรับ และเป็นการช่วยเหลือพวกพ้องของตนเอง ซึ่งยิ่งลักษณ์จ่ายเกินเกณฑ์ที่รัฐเคยจ่ายมา ผู้เสียชีวิตได้รายละ 7.75 ล้านบาท ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บและทุพพลภาพ ก็จะลดหลั่นกันไป แต่ถ้าเทียบกับทหารที่เสียชีวิตจากการปฎิบัติหน้าที่ปกป้องแผ่นดินจะได้เพียง 1-2 ล้านบาทเท่านั้น ซึ่งต่างกันมาก

เมื่อพูดถึงเรื่องพลังดูด เมื่อปี 2544 ครั้งยังเป็นพรรคไทยรักไทย ทักษิณ ชินวัตร ก็เคยใช้อำนาจรัฐและอำนาจเงินในการดูด ส.ส.ทั้งรูปแบบการย้ายพรรคและยุบรวมพรรคมาแล้ว เริ่มตั้งแต่ ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ 8 คน พรรคชาติไทย 12 คน พรรคความหวังใหม่ 36 คน พรรคชาติพัฒนา 16 คน พรรคกิจสังคม 9 คน พรรคเอกภาพ 4 คน พรรคประชากรไทย 2 คน พรรคเสรีธรรม 14 คน ส่งผลให้พรรคไทยรักไทยชนะเลือกตั้งแบบถล่มทลายได้ ส.ส.มากถึง 325 คน จนกระทั่งพรรคไทยรักไทย ถูกศาลรัฐธรรมนูญสั่งยุบพรรค เมื่อปี 2550 ในคดีจ้างพรรคเล็กลงเลือกตั้ง มีสมาชิก 111 คน ถูกตัดสิทธิ์ทางการเมือง 5 ปี ที่เรียกกันว่า“บ้านเลขที่ 111”นั่นเอง

ต่อมาเมื่อเปลี่ยนเป็นพรรคพลังประชาชน ก็ต้องถูกยุบพรรคอีกครั้ง เมื่อวันที่ 2 ธันวาคม 2551 ทั้งพรรคพลังประชาชน พรรคชาติไทย และพรรคมัชฌิมาธิปไตย และให้เพิกถอนสิทธิทางการเมืองกรรมการบริหารพรรคทั้ง 3 พรรคจำนวน 109 คน เป็นของพลังประชาชน 37 คน พรรคชาติไทย 43 คน และพรรคมัชฌิมาธิปไตย 29 คน คนละ 5 ปี ที่ถูกฟ้องเป็นจำเลยอันเนื่องมาจากกรณีทุจริตการเลือกตั้งส.ส.ปี 2550 ส่วนพรรคพลังประชาชน มาจากกรณีที่นายยงยุทธ ติยะไพรัช อดีตรองหัวหน้าพรรคกระทำการฝ่าฝืนและขัดต่อ พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา พ.ศ. 2550 ที่มีผลทำให้การเลือกตั้งไม่เป็นไปโดยสุจริต และได้มาซึ่งอำนาจในการปกครองที่ไม่เป็นไปตามวิถีทางของรัฐธรรมนูญ

อย่างไรก็ตาม ในปัจจุบันนี้ทุกคนของบ้านเลขที่ 111 และ 109 ต่างก็พ้นโทษแบนกันหมดแล้ว และยังมีสิทธิ์ที่หวนกลับเข้าสู่การเมืองได้ แต่หลายคนก็ถูกดูดไปเรียบร้อยแล้ว หลายคนก็อยู่ในวัยชราเต็มที ส่วนพวกที่ยังภักดีกับ 'ตระกูลชินวัตร และพรรคเพื่อไทย” ก็ถูก สนช.ถอดถอนและตัดสิทธิ์ทางการเมือง 5 ปีไปบ้างแล้ว ที่สำคัญหาก ครม.ชุดยิ่งลักษณ์ 34 คน ที่อนุมัติเงินเยียวยาผู้ชุมนุม บวกกับ 40 อดีต ส.ส.ที่เสนอ พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ต้องมาถูกตัดสินในช่วงที่กำลังจะมีการเลือกตั้งครั้งนี้อีก ซึ่งหากผลออกมาเป็นลบ ก็ถึงเวลาที่พรรคเพื่อไทยต้องเก็บฉากกันจริง ๆ แล้ว ไม่เว้นแม้กระทั่ง นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ สายตรงชินวัตร ที่เคยถูกวางตัวจะให้ก้าวขึ้นเป็นหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ก็ต้องหมดอนาคตเช่นกัน!!

ทีมข่าว ลึกทันใจ รายงาน