รายงานพิเศษ ลึกทันใจ ตอน ลุงกำนัน-สมคิด ลุงตู่จะเลือกใคร? ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียม NEWS1 วันพฤหัสบดีที่ 12 เมษายน 2561
การที่นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ ออกมาพูดถึงการตั้งพรรคการเมืองเพื่อหนุนให้พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หรือลุงตู่ ได้เป็นนายกรัฐมนตรีอีกสมัย โดยให้ดร.อุตตม สาวนายน เป็นหัวหน้าพรรค และให้นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เป็นเลขาธิการพรรค ทำให้เกิดเสียงครหาขึ้นมาทันทีว่า เป็นเรื่องไม่เหมาะสมที่ใช้ทำเนียบรัฐบาลเป็นแหล่งพบปะอดีต ส.ส.รวมไปถึงการใช้นโยบายและงบประมาณของรัฐในการหาเสียงให้กับพรรคประชารัฐ ถือเป็นการเอาเปรียบพรรคการเมืองอื่น ๆ ที่ยังขยับตัวอะไรไม่ได้ อีกทั้งก่อนหน้านี้ นายสมคิด ก็ยังไปรวบรวมสมัครพรรคพวกกลุ่มเดิม ๆ อย่างเช่น กลุ่ม 16 กลุ่มชลบุรี ของนายสนธยา คุณปลื้ม กลุ่มสะสมทรัพย์ จากนครปฐม กลุ่มบ้านริมน้ำของนายสุชาติ ตันเจริญ และจะมีบางส่วนจากพรรคภูมิใจไทย เป็นต้น
ความพยายามเดินหน้าทางการเมืองของนายสมคิด กลายเป็นแรงกดดันให้ 2 พรรคการเมืองใหญ่อย่างประชาธิปัตย์และเพื่อไทย รวมไปถึง ลุงกำนัน นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ต้องออกมาเคลื่อนไหวเพื่อชี้ให้สังคมได้เห็นถึงความไม่ถูกต้องและเหมาะสมของนายสมคิด
ซึ่งแม้ว่าลุงกำนัน จะมีเป้าหมายเดียวกับนายสมคิด คือต้องการหนุนลุงตู่กลับมาเป็นนายกฯอีกสมัย แต่ก็จำเป็นต้องสกัดดาวรุ่งตามแนวทางของนายสมคิด เพราะมองว่า การดึงก๊วนพวกนี้เข้ามาเป็นแรงหนุนเพื่อให้ตัวเองได้เข้ามาเป็นรัฐบาล และชูลุงตู่เป็นนายกฯ ความจริงแล้วนายสมคิดทำเพื่อใครกันแน่? เพราะนอกจากจะไม่สามารถปฏิรูปการเมืองได้สำเร็จแล้ว ยังจะเป็นการปลุกการเมืองน้ำเน่าแบบเก่า ๆ กลับคืนมาด้วย ดังนั้น แทนที่จะเป็นการหนุน กลับจะเป็นการ”ฆ่า”ลุงตู่มากกว่า
สำหรับลุงกำนัน เรื่องความเชี่ยวกรากทางการเมือง ไม่ต้องเป็นห่วง ถือว่าไม่เป็นสองรองใคร รู้ว่าจะดีลยังไงกับบรรดานักการเมืองต่าง ๆ ให้ลุงตู่ได้กลับมานั่งเก้าอี้นายกฯได้อย่างสบาย ๆ ซึ่งถือเป็นข้อได้เปรียบมากกว่านายสมคิดที่เก่งในเรื่องการตลาด แต่ทางการเมือง ยังถือว่าห่างชั้นกับลุงกำนัน ซึ่งลุงตู่ก็ต้องคิดแล้ว ว่าจะเลือกใครและไปทางไหนดี
แต่ไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม เรื่องของการเมืองเป็นเรื่องที่ไม่มีอะไรแน่นอน สามารถพลิกกลับไปกลับมาได้เสมอ ก็ขนาดที่ลุงกำนันประกาศเสียงดังฟังชัดว่าจะไม่ยุ่งกับการเมืองอีก วันนี้กลับจะมาตั้งพรรคการเมืองหน้าตาเฉย และหากในอนาคตลุงกำนันสามารถดันลุงตู่ได้กลับมานั่งเก้าอี้ในทำเนียบได้อีกสมัยจริง ๆ ก็ต้องอย่าลืมว่า ตอนนั้นจะไม่มีม.44 มาเป็นเกราะกำบังให้อีกต่อไป แล้วจะทนแรงเสียดทานจากพรรคประชาธิปัตย์ กับพรรคเพื่อไทยได้แค่ไหน เพราะตอนนี้ก็แว่ว ๆ มาว่า กำลังมีการส่งมือดีไปสืบเสาะหาข้อมูลในเรื่องการทำงานส่อไปในทางไม่โปร่งใสและมีการเอื้อประโยชน์ให้บางกลุ่มเพื่อนำมาใช้ในการจัดตั้งพรรคประชารัฐที่ว่ากันว่ามีเกือบ 5 พันล้านบาท รวมไปถึงโครงการการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก หรือ EEC ที่กำลังถูกจับตาอย่างไม่กระพริบ เชื่อว่า ข้อมูลพวกนี้จะถูกปล่อยมาเป็นชุด ๆ แน่ เมื่อถึงเวลาที่เหมาะสม
ทีมข่าว ลึกทันใจ รายงาน