รายงานพิเศษ ลึกทันใจ ตอน มาร์คไม่เอาลุงตู่ คอยดูแล้วกัน! ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียม NEWS1 วันพฤหัสบดีที่ 5 เมษายน 2561
ในช่วงที่ผ่านมาได้เกิดวิวาทะทางการเมืองระหว่างนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ที่ประกาศไม่สนับสนุนนายกรัฐมนตรีที่มาจากคนนอก และหากใครอยากสนับสนุนคนนอกก็ให้ไปอยู่พรรคอื่น วลีเด็ดนี้ทำให้พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ถึงกับออกอาการหงุดหงิดต้องออกมาเตือนว่า จะพูดอะไรมาก็ระมัดระวังและควรให้เกียรติกันด้วย ไว้ด้วย พร้อมสำทับตามอีกว่า ให้ประชาชนรอดูว่า ในอนาคตนายอภิสิทธิ์จะเปลี่ยนท่าทีหรือไม่ แสดงให้เห็นว่า ความสัมพันธ์ของทั้ง 2 ฝ่ายได้ “ขาดสะบั้น” อย่างชนิดที่ว่า ในการเลือกตั้งครั้งหน้า “ใครดีใครอยู่”กันเลยทีเดียว ซึ่งหากดูสถานการณ์ในตอนนี้ ถือว่าทั้งคู่ได้เดินมาถึงจุดที่ต้องเบียดกันเดินในทางแคบ หากใครหลักไม่ดีพอ ก็ต้องตกข้างทางไป และหากเอาเฉพาะประโยคที่ว่า”ใครจะสนับสนุนคนนอกก็ให้ไปอยู่พรรคอื่น”นั้น ก็ถือเป็นการสื่อสารโดยตรงถึงพรรคกปปส.ด้วย
สำหรับพรรคประชาธิปัตย์ ตอนนี้มีการแบ่งเป็นสองขั้วใหญ่อย่างชัดเจนคือขั้วที่นำโดย “ชวน - บัญญัติ - อภิสิทธิ์” กับขั้วกลุ่ม กปปส. ที่นำโดยกำนันสุเทพ ที่ต่างฝ่ายก็ล้วนแต่มีฐานเสียงหลักมาจากภาคใต้ด้วยกัน ซึ่งแม้ว่าขั้วของนายชวนจะดูดีกว่ากำนันสุเทพอยู่บ้าง แต่จุดพลิกผันต้องดูกันที่ราคาพืชผลการเกษตร หากรัฐบาลลุงตู่สามารถทำให้ราคายางกับปาล์มดีขึ้นมาจนชาวสวนพอใจ ความนิยมก็น่าจะเทกลับมาทางฝ่ายของกำนันสุเทพได้ไม่ยาก
ทีนี้ลองมาพิจารณาถึงคำพูดของลุงตู่ ที่ฝากมาว่า “ดูด้วยวันหน้าเขาจะทำตัวกันอย่างไรที่ออกมาพูดกันวันนี้ คอยดูวันหน้าก็แล้วกัน เลือกตั้งแล้วมันจะเกิดอะไรขึ้น แล้วเขาจะเปลี่ยนท่าทีอะไรกันอย่างไร ก็ไปคอยดูตรงนู้นแล้วกัน แล้วค่อยไปถามเขาอีกที” ชี้ให้เห็นว่า ลุงตู่เองก็มั่นใจไม่น้อยว่าสมัยหน้าจะได้กลับมาแน่ แล้วจะรอดูน้ำหน้าในตอนนั้น ซึ่งตอนนี้ก็เริ่มมีความเคลื่อนไหวแล้ว เมื่อมีข่าวว่า นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ กำลังเร่งตั้งพรรคใหม่ เพื่อสนับสนุนลุงตู่ โดยมีการทาบทามกลุ่มการเมือง อดีต ส.ส. จากหลายพรรคเข้ามาร่วม ซึ่งในจำนวนนั้นมีอดีต ส.ส. พรรคประชาธิปัตย์ ที่เป็น กปปส. บางคนเข้าร่วม โดยข่าวบอกถึงขนาดที่ว่ามีการเชิญเข้าไปหารือกันในทำเนียบรัฐบาล เมื่อวันที่ 3 เมษายน ที่ผ่านมาด้วยซ้ำไป
โดยช่วงแรกจะให้นายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เป็นหัวหน้าพรรค และมีนายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เป็นเลขาธิการพรรค มีลุงตู่เป็นที่ปรึกษาพรรค โดยจะเปิดตัวพรรคใหม่ในเดือนมิถุนายนนี้ ซึ่งหากทุกอย่างเป็นจริงตามนี้ ลุงตู่ก็จะพ้นข้อครหากระแนะกระแหนเรื่องคนนอกไปได้ เพราะตัวเองก็จะมีฐานะเป็น”คนใน”เป็นนักการเมืองอย่างเต็มตัว ทำให้ไม่มีใครจะมาว่าได้อีก ดังนั้นภารกิจตอนนี้ของลุงตู่ก็มีแค่ว่า ต้องประคองตัวให้ดีจนกว่าจะไปถึงเลือกตั้ง แล้วก็ทำอย่างไรให้ชนะเลือกตั้ง ซึ่งก็ไม่น่าจะยากเกินไป เพราะมีเสียงสว.250 เสียง ตุนไว้แล้ว หาให้ได้อีกอย่างน้อย 125 เสียงขึ้นไป จากการรวมพรรคเล็กพรรคน้อยและกลุ่มก๊วนต่าง ๆ ดีไม่ดีพรรคเพื่อไทยมาโหวตให้ด้วย แค่นี้ก็จะได้นั่งเก้าอี้นายกฯอีกสมัยอย่างสบายใจเฉิบ! แต่ต้องทิ้งท้ายไว้หน่อยว่า หากได้นั่งเก้าอี้นายกฯอีกสมัยขึ้นมาจริง ๆ แล้ว มันจะไม่ราบรื่นเหมือนตอนนี้ เพราะจะต้องมีแรงเสียดสีจากบรรดาส.ส.เขี้ยวลากดินทั้งหลายคอยตามไล่เช็คบิลในเรื่องต่าง ๆ ซึ่งตรงนี้ถือเป็นจุดอ่อนที่ลุงตู่มักจะทนไม่ค่อยได้ซะด้วย
ทีมข่าว ลึกทันใจ รายงาน