ลึกทันใจ : เปิดโปงเครือข่ายโยงใยทุจริตสร้างรัฐสภาใหม่ (ตอนจบ)

รายงานพิเศษ ลึกทันใจ ตอน เปิดโปงเครือข่ายโยงใยทุจริตสร้างรัฐสภาใหม่ (ตอนจบ) ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียม NEWS1 วันศุกร์ที่ 23 มีนาคม 2561



จากรายงานพิเศษลึกทันใจตอนที่แล้วที่ทิ้งท้ายไว้ว่า ยังมีตัวละครอื่น ๆ ในเรื่องความไม่ชอบมาพากลของโครงการก่อสร้างรัฐสภาใหม่ ตอนนี้ก็มาถึงกรณีน.ส.สุนทร รักเมือง ซึ่งได้รับแต่งตั้งเป็นประธานคณะกรรมการจัดจ้างผู้ออกแบบระบบไอซีทีโครงการก่อสร้างรัฐสภาแห่งใหม่ ซึ่งกำลังถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักจากกรณีที่มีการปรับเพิ่มงบประมาณจาก 3,000 ล้านบาท เป็น 8,000 ล้านบาท และ น.ส.สุนทรยังได้รับแต่งตั้งให้เป็น 1 ใน 9 รองเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรอีกด้วย ตรงนี้เองทำให้เกิดความเคลือบแคลงเรื่องความโปร่งใสเนื่องจากเมื่อครั้งที่ น.ส.สุนทร ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการกองคลัง สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนฯ เธอและนายวัชระชัยย์ นาควัชระชัยท์ เลขาธิการสภาผู้แทนฯ ในขณะนั้น ถูกสอบเรื่องการทุจริตในหลายโครงการ เช่น โครงการจัดซื้อนาฬิกาดิจิตอล โครงการปรับปรุงภูมิทัศน์ลานอนุสาวรีย์ ร.7 จึงไม่เหมาะที่จะมาทำหน้าที่ประธานคณะกรรมการจัดจ้างฯ อีก โดยนายวิลาศ จันทร์พิทักษ์ อดีต ส.ส. พรรคประชาธิปัตย์ ผู้ที่ติดตามตรวจสอบการก่อสร้างรัฐสภาแห่งใหม่อย่างต่อเนื่อง ตั้งข้อสังเกตว่าสาเหตุที่มีการผลักดันให้น.ส.สุนทรมาทำหน้าที่ตรงนี้ น่าจะมีความเชื่อมโยงกับการเบิกจ่ายเงินในโครงการก่อสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ ภายใต้อิทธิพลของกลุ่ม สนช.และตัวแทนบริษัทผู้รับเหมาก่อสร้างโครงการนี้หรือไม่?

ต่อไปคือนายนำพล เงินนำโชค ที่ปรึกษาประธานรัฐสภา ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นหนึ่งในคณะกรรมการบริหารโครงการก่อสร้างรัฐสภาแห่งใหม่ และประธานการประชุมคณะอนุกรรมการตรวจสอบเกี่ยวกับความคลาดเคลื่อนของปริมาณมูลดินที่เหลือทั้งหมดจากการขุดเพื่อก่อสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ ในคณะกรรมการเร่งรัดและติดตามโครงการก่อสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ ถือเป็นนักธุรกิจรุ่นใหม่ที่ก้าวเข้ามาทำงานการเมืองในยุครัฐบาล คสช. มีประวัติเป็นกรรมการในหลายบริษัท และมีเสียงเล่าลือกันว่าเป็นคนที่บริษัทซิโน-ไทยส่งมาประสานงาน ส่วนจะจริงหรือไม่นั้นไม่มีใครยืนยันได้ แต่เมื่อปลายปี 2560 นายนำพลเคยมีกรณีแฝงตัวเข้าไปถ่ายคลิปในการแถลงข่าวเรื่องความไม่ชอบมาพากลในการสร้างรัฐสภาแห่งใหม่ ของนายวัชะ เพชรทอง จนเกิดการกระทบกระทั่งกับนายวัชระมาแล้ว

นอกจากนี้ยังมีนายศิรัส ตามสกุล เลขานุการประธานสนช.หรือหน้าห้องของนายพรเพชร วิชิตชลชัย ซึ่งนายศิรัสมีชื่อถูกพาดพิงกับปัญหาการก่อสร้างรัฐสภาแห่งใหม่เนื่องจากมีข่าวเล่าลือว่าเขาเป็นลูกเขยนายพรเพชร ที่ผันตัวจากงานภาคเอกชนมาทำงานการเมือง เคยดำรงตำแหน่งกรรมการ บริษัท อกริเพียว โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) โดยนายศิรัสถูกตั้งข้อสังเกตถึงการเร่งรัดโครงการนี้อย่างมาก อีกทั้งยังถูกมองว่าเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้สภานิติบัญญัติแห่งชาติกลายเป็นสภาครอบครัวอีกด้วย

ทีนี้มาพูดถึงฝั่งเอกชนบ้างอย่างบริษัทซิโน-ไทย ซึ่งเป็นผู้รับเหมาก่อสร้างก็ถูกจับตาไม่แพ้กัน เนื่องจาก นายอนุทิน ชาญวีรกูล ทายาทรุ่นที่สองของ บริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ STEC ที่ยังสวมหมวกอีกใบในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ซึ่งมีท่าทียอมรับนายกฯคนนอกและพร้อมสนับสนุนให้ พล.อ.ประยุทธ์ กลับมาเป็นนายกฯ ในสมัยหน้า ดังนั้นเมื่อบริษัทซิโน-ไทยชนะการประมูล ได้รับเลือกให้ก่อสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ อีกทั้งยังมีการขยายเวลาการก่อสร้างให้ถึง 4 ครั้ง จึงถูกมองว่าได้รับสิทธิพิเศษเพราะความสัมพันธ์ทางการเมืองหรือไม่?

ซึ่งนายวิลาศ จันทร์พิทักษ์ ออกมาเปิดเผยว่า ที่ผ่านมานายอนุทิน ได้ฝากข้อความผ่านนักการเมืองพรรคประชาธิปัตย์มาบอกให้เลิกแฉเรื่องการก่อสร้างอาคารรัฐสภา มิฉะนั้นจะแฉกลับ จึงบอกฝากกลับไปว่าขอให้แฉเลย เพราะตนไม่มีแผล ไม่เคยรับเงินใครแม้แต่บาทเดียว

และนี่คือ 1 ในอีกหลายโครงการที่มีเรื่องการทุจริตคอรัปชั่น ที่ต้องได้รับการตรวจสอบอย่างเข้มข้น หลังจากนี้คงมีอะไรดี ๆ ออกมาให้เห็นกันอีกเรื่อย ๆ อย่างแน่นอน

ทีมข่าวลึกทันใจ รายงาน