ลึกทันใจ : ลุงกำนันอุ้มบิ๊กตู่ แค่คิดก็เหนื่อยแทน!!

รายงานพิเศษ ลึกทันใจ ตอน ลุงกำนันอุ้มบิ๊กตู่ แค่คิดก็เหนื่อยแทน!! ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียม NEWS1 วันพุธที่ 28 กุมภาพันธ์ 2561



ที่ผ่านมา ใคร ๆ ก็รู้กันอยู่ว่ากำนันสุเทพ เทือกสุบรรณ เป็นคนที่สนับสนุนพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา หรือบิ๊กตู่ มาโดยตลอด และล่าสุดก็ออกมาพูดย้ำอีกครั้งว่า จะไม่ทิ้งความรับผิดชอบภาระหน้าที่ในฐานะที่เป็นประชาชนคนไทยที่ต้องรับผิดชอบบ้านเมือง ซึ่งเห็นว่าเป็นหน้าที่ของประชาชนทุกคน ที่ต้องช่วยกันดูแลบ้านเมืองให้อยู่รอดปลอดภัย ส่วนจะสนับสนุนให้มีการจดทะเบียนพรรคกปปส. หรือไม่นั้น ยังไม่ได้ดำเนินการ ส่วนตัวยัง สนับสนุน พลเอกประยุทธ์ ให้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี แต่ในอนาคตขึ้นอยู่กับประชาชนว่าจะเป็นผู้ตัดสินใจว่าจะให้ตัวเองคิดอ่านกับสถานการณ์บ้านเมืองในอนาคตอย่างไร ซึ่งก็ไม่ต้องแปลความอะไรกันมาก ความหมายตรง ๆ ก็คือ ยังไงก็ต้องตั้งพรรคการเมืองเพื่อทั้งหนุนทั้งดันให้บิ๊กตู่ได้อยู่ต่อแน่ ๆ เพียงแต่ต้องรอจังหวะที่เหมาะสม อย่างน้อยก็ต้องรอให้มีการจดจองชื่อพรรคกันก่อน ซึ่งทางคณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช.เตรียมเปิดทางให้เริ่มดำเนินการตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคมเป็นต้นไป หรือหากจะเริ่มกันจริงๆในวันเปิดทำการวันที่ 2 มีนาคมนี้

เหตุที่กำนันสุเทพ ต้องออกมาตั้งพรรคการเมืองเอง ก็เพราะว่า ก่อนหน้านี้ความพยายามที่จะเข้าไปฮุบพรรคประชาธิปัตย์ประสบความล้มเหลว เพราะถูกขวางลำจากนายชวน หลีกภัย ขาใหญ่ตัวจริงของพรรค ที่นอกจากจะไม่ให้ใครเข้ามาแหยมในพรรคแล้ว ยังซัดกลับตามสไตล์ “มีดโกนอาบน้ำผึ้ง”ด้วยการส่งจดหมายเปิดผนึกถึง นายกฯประยุทธ์ จันทร์โอชา ว่าตั้งแต่เข้ามามีแต่ทำให้ชาวบ้านจนลงทั่วประเทศ ตามมาด้วยการเปิดโปงของนายวัชระ เพชรทอง ที่แฉว่า "มีกำนันคนหนึ่งทางภาคใต้"ต้องการเช้ามายึดพรรคประชาธิปัตย์ เพื่อหนุนหลัง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และ ล่าสุดนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์คนปัจจุบัน ก็ย้ำตามไปอีกดอกว่า "คุณสุเทพ ตั้งพรรคเพื่อสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกฯแต่พรรคประชาธิปัตย์ต้องสนับสนุนหัวหน้าพรรคของตัวเองเท่านั้น"

เมื่อรูปการณ์เป็นเช่นนี้ก็ค่อนข้างแน่นอนว่า ประชาธิปัตย์กับพรรคการเมืองของนายสุเทพ ที่กำลังจะตั้งขึ้นมาใหม่ กำลังเดินไปแบบเส้นขนาน ที่ยังหาทางบรรจบกันไม่เจอ(ในตอนนี้) ซึ่งจะว่าไปแล้วก็ไม่น่าจะเป็นผลดีด้วยกันทั้ง 2 ฝ่าย เพราะยังไง ๆ ก็มีฐานคะแนนเสียงมาจากกลุ่มเดียวกัน ก็เหมือนกับตัดคะแนนหรือแย่งคะแนนกันเอง แล้วในที่สุด “ส้มหล่น”ก็จะไปอยู่กับฝ่ายตรงข้ามคือพรรคเพื่อไทยของนายทักษิณ ชินวัตร ซึ่งหากเป็นเช่นนี้จริง การเมืองไทยก็ไม่มีอะไรใหม่ ทุกอย่างก็จะวนเวียนกลับไปเหมือนเดิม ซึ่งต้องบอกว่า นี่ยังเป็นเพียงการคาดการณ์เท่านั้น เพราะอนาคตจะเกิดอะไรขึ้นก็ยังไม่มีใครรู้ แต่ถ้าจะพูดถึงเรื่องในตอนนี้อาการ “ขาลง”ของรัฐบาลบิ๊กตู่ก็ดูจะหนักข้อขึ้นเรื่อย ๆ ด้วยภาวะกองหนุนหดหาย จะอยู่รอดปลอดภัยไปตามโรดแม๊ปที่วางไว้ได้หรือไม่ ก็ยังไม่รู้เลย จึงไม่ต้องพูดถึงเรื่องนายกฯคนนอกให้เสียเวลา แค่คิดก็เหนื่อยแทน....

ทีมข่าว ลึกทันใจ รายงาน