รายงานพิเศษ ลึกทันใจ ตอน หนทางข้างหน้าของบิ๊กตู่ช่างมืดมนนัก ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียม NEWS1 วันพุธที่ 24 มกราคม 2561
เรื่องที่สภานิติบัญญัติแห่งชาติ หรือ สนช.จะยืดเวลาการเลือกตั้งออกไปอีกระยะหนึ่งอาจจะเป็น 1 เดือน 3 เดือน หรือ 4 เดือน โดยอ้างว่าต้องทำกฎหมายลูกเรื่องพรรคการเมืองให้เรียบร้อยก่อน ว่ากันจริงๆ ก็ไม่ใช่เรื่องจะเป็นจะตายกัน หากไม่มีอะไรซ่อนเร้นแอบแฝงทางการเมือง แต่ที่น่าสนใจคือมันดูช่างสอดคล้องกับคำสั่ง คสช.ที่ 53/2560 ที่กำลังถูกพรรคประชาธิปัตย์กล่าวหาว่าเป็นความตั้งใจ"รีเซ็ต"พรรคเก่า เอื้อประโยชน์กับพรรคการเมืองใหม่ที่จะตั้งขึ้นมาสนับสนุนบิ๊กตู่เข้ามาเป็นนายกฯในสมัยหน้าตามโควต้า"คนนอก" อย่างพรรคของนายไพบูลย์ นิติตะวัน และสุเทพ เทือกสุบรรณ ซึ่งก่อนหน้านี้บิ๊กตู่แสดงความมั่นอกมั่นใจว่า ยังไงๆก็ไปถึงฝั่งฝันได้แน่ ถึงกับลั่นวาจากับชาวโลกไว้ว่าจะให้เลือกตั้งกันในเดือนพฤศจิกายนปีนี้
แต่แล้วเรื่องที่คาดไม่ถึงก็เกิดขึ้น เมื่อสถานการณ์เปลี่ยนแปรไปกลายเป็น”ขาลง”แรงหนุนที่เคยได้รับจากประชาชนเริ่มหดหาย ความหวังความศรัทธาที่เคยมีให้ก็เริ่มจืดจางลง จนเริ่มมีเสียงยี้ดังขึ้น ๆ โดยเฉพาะเรื่องของบิ๊กป้อมที่ถูกสังคมตั้งข้อรังเกียจในเรื่องการครอบครองนาฬิกาหรูที่ยังไม่สามารถชี้แจงได้ ขณะที่ป.ป.ช.ก็พยายามลดแรงเสียดทานจากสังคมลงด้วยการออกมาแถลงความคืบหน้าว่าจะเรียกบิ๊กป้อมมาชี้แจงเพิ่มเติมอีกเป็นครั้งที่ 3 คำถามก็คือ ทำไมต้องชี้แจงกันหลายครั้ง ถ้าบริสุทธิ์ผุดผ่องกันจริง ๆ ไม่มีอะไรที่เป็นเบื้องหน้าเบื้องหลังแล้ว ชายชาติทหารอย่างบิ๊กป้อมชี้แจงครั้งเดียวก็ต้องเคลียร์กันแล้ว จริงหรือไม่? แต่ที่ยังไม่เคลียร์เป็นเพราะอะไร โปรดติดตาม... ซึ่งป.ป.ช.เองก็ขีดเส้นไว้แล้วว่า ต้องเสร็จภายในเดือนกุมภาพันธ์นี้
ทีนี้มาพูดถึงเรื่องถนนสู่ฝันทางการเมืองของบิ๊กตู่ในอนาคต ซึ่งก็ต้องทวนความไปถึงอดีตในกรณีของลุงกำนัน สุเทพ เทือกสุบรรณ ที่ออกตัวแรงว่าสนับสนุนบิ๊กตู่มาตลอด โดยหวังจะยึดพรรคประชาธิปัตย์ให้เป็นฐานทางการเมือง จากการเปิดโปงของวัชระ เพชรทอง อดีตส.ส.ประชาธิปัตย์ ด้วยกัน แต่ทำไม่สำเร็จ เพราะถูกขวางลำโดยขาใหญ่นายชวน หลีกภัย เมื่อไม่สำเร็จก็ต้องออกมาตั้งพรรคใหม่ แต่ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะดันกันไป เพราะต้องมีหลายปัจจัยมาหนุนนำจึงจะสำเร็จ
สรุปว่า นาทีนี้ ถนนแห่งความฝันของบิ๊กตู่ที่จะเดินไปสู่ตำแหน่งนายกรัฐมนตรีอีกสมัยในครั้งหน้า ไม่ใช่เรื่อง”หมูๆ” เพราะอะไร ๆ ก็ดูไม่เป็นใจไปเสียหมด ยิ่งต้องกระเตงบิ๊กป้อมที่กำลังโดนเรื่องครอบครองนาฬิกาหรูจนเมาหมัดไปไม่เป็นในเวลานี้ ล่าสุด ประธานป.ป.ช. พลตำรวจเอกวัชรพล ประสารราชกิจ ก็ได้ขอถอนตัวจากคณะกรรมการสอบสวนเรื่องนี้ เพื่อไม่ต้องรับเผือกร้อนและฟังเสียงนินทาอีกต่อไป แม้ว่าจะช้าไปหน่อยแต่ก็ถือว่าช่วยลดแรงเสียดทานไปได้ระดับหนึ่ง ส่วนผลกระทบที่เกิดขึ้นจนกลายเป็นแรงกระทบชิ่งไปถึงบิ๊กตู่และรัฐบาลในตอนนี้ อย่าว่าแต่จะมาเป็นนายกฯอีกรอบในสมัยหน้า จะอยู่ให้รอดในปีนี้ยังลำบากเลย อย่าดูถูกอำนาจประชาชนเป็นอันขาด...
ทีมข่าวลึกทันใจ รายงาน