รายงานพิเศษ ลึกทันใจ ตอน บิ๊กป้อม “เก๋าขั้นเทพ” ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียม NEWS1 วันพุธที่ 27 ธันวาคม 2560
.นับตั้งแต่ต้นเดือนธันวาคมที่ผ่านมาเรื่องแหวนเพชร-นาฬิกาหรูของของพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ หรือ บิ๊กป้อม ยังได้รับความสนใจจากสังคมมาจนถึงวันนี้ และยังคงเป็นประเด็นที่วิพากษ์วิจารณ์กันได้อย่างสนุกปาก โดยที่ยังไม่ได้รับคำตอบใด ๆ ให้เกิดความกระจ่างแม้แต่น้อย ขณะที่สื่อสำนักต่าง ๆ ก็ยังนำเสนอข่าวกันอย่างต่อเนื่อง มีการขุดคุ้ยนาฬิกาเรือนนั้นเรือนนี้ของบิ๊กป้อมมาให้ได้อ่านกันอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน แต่ใครหลายคนอาจจะลืมไปว่า เรื่องราวของบิ๊กป้อมไม่ได้มีแต่แหวนเพชรกับนาฬิกาเท่านั้น ยังมีเรื่องอื่น ๆ ที่น่าสนใจอีกหลายเรื่อง อย่างการเช่าเครื่องบินเหมาลำเที่ยวบิน TG8886 ไปร่วมการประชุมรัฐมนตรีกลาโหมอาเซียน-สหรัฐอเมริกา ที่ฮาวาย ที่ได้มีการพาครอบครัวและบุคคลใกล้ชิดของคนในคณะทำงานร่วมเดินทางไปด้วย ว่ากันว่าค่าเหมาลำคิดเป็นเงินถึง 20.9 ล้านบาท และค่าอาหารบนเครื่องอีก 600,000 บาท ซึ่งเรื่องนี้ถูกวิจารณ์อย่างหนักถึงความเหมาะสม และแล้วเรื่องก็เงียบหายไปกับสายลมเมื่อบิ๊กป้อมชี้แจงสั้นๆว่า
“คิดว่าเขาตั้งใจจะเล่นงาน แต่ยืนยันว่าไม่มีผลประโยชน์ เงินทุกบาทไม่ได้รับ ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องว่ากันเอง”
เรื่องต่อมา บิ๊กป้อมถูกกล่าวหาซุ่มเงียบอนุมัติซื้อเรือดำน้ำจากจีนYuan Class S26T รุ่นS-26T และมีผลประโยชน์เข้ามาเกี่ยวข้อง โดยการจัดซื้อนั้นเขายืนยันว่าเป็นการซื้อในราคาที่ไม่แพงและมีการแถมขีปนาวุธให้ด้วย เบื้องต้นจำนวน 1 ลำมูลค่า 13,500 ล้านบาท จากทั้งหมด 3 ลำ มูลค่ากว่า 36,000 ล้านบาท เรื่องนี้มีข้อสงสัยเกี่ยวกับกระบวนการจัดซื้อจัดจ้าง และการกำหนดกรอบการทำ TOR รวมทั้งจะเกิดปัญหากับการใช้งานจริง เพราะอ่าวไทยมีระดับน้ำลึกเพียง 45-80 เมตรเท่านั้น ส่วนที่ลึกที่สุด 80 เมตร ถ้าเอาเรือดำน้ำไปดำที่อ่าวไทย ท้องเรือก็แทบจะติดพื้นทะเลอ่าวไทยแล้ว อาจเป็นการซ้ำรอยเดิมกับการซื้อบอลลูนเรือเหาะตรวจการณ์และไม้ชี้ป่าช้า GT200 อีกก็เป็นได้ แต่แล้วในที่สุดการจัดซื้อก็เรียบร้อยไม่มีปัญหา
เรื่องต่อไป เรื่องผลประโยชน์จากการซื้อขายตำแหน่งในวงการสีกากี ซึ่งบิ๊กป้อมออกมาปฏิเสธว่าไม่มีอย่างเด็ดขาด และให้นำหลักฐานมายืนยัน ก็ต้องบอกว่าเวลาซื้อขายตำแหน่งกันใครจะออกใบเสร็จรับเงินให้ล่ะ เรื่องนี้ถือว่าคนวงในรู้ๆ กันอยู่ ถึงไม่มีหลักฐานแต่คนก็นินทากันทั่ว
ส่วนอีกเรื่องคือการปล่อยให้ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร หลบหนีไปรักษาโรคน้ำในหูไม่เท่ากันอย่างลอยนวล ที่ป่านนี้ยังไม่รู้ว่าไปรักษาอยู่ที่ไหน ในฐานะที่บิ๊กป้อมเป็นรองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง ที่คุมทั้งหน่วยงานทหาร ตำรวจ จะปฏิเสธว่าไม่เกี่ยวไม่ได้ แล้วก็ยังมีเสียงนินทาจากสังคมอีกว่า เรื่องนี้อาจเป็นการจงใจ ที่จะให้ยิ่งลักษณ์หลบหนีเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาความขัดแย้งของกลุ่มคนที่มีความคิดต่างจนนำไปสู่เหตุการณ์บานปลายได้
และอีกเรื่องจากกรณีของน้องเมย ที่บิ๊กป้อม ถูกโจมตีเพราะพลั้งปากพูดออกมาว่า การซ่อมเป็นเรื่องปกติและสมัยที่ตัวเองเป็นนักเรียนเตรียมทหารก็เคยถูกซ่อม แต่ไม่ตาย คำพูดนี้ไม่เพียงแต่จะสร้างความเจ็บช้ำให้กับครอบครัวน้องเมยแล้ว ยังทำให้สังคมไม่พอใจด้วยเพราะผิดวิสัยของผู้ที่เป็นผู้บังคับบัญชาระดับสูงจะออกมาพูดเช่นนี้
ต้องบอกว่าแต่ละเรื่องที่ว่ามานี้ บิ๊กป้อมยังสามารถผ่านมาได้อย่างสบาย ๆ เรียกได้ว่าถ้าไม่ ”เก๋าขั้นเทพ” จริง ๆ ก็ร่วงไปแล้ว แต่เชื่อว่ายังไม่ได้จบเพียงเท่านี้ ปีหน้าฟ้าใหม่ยังมีคนจ้องจองกฐินอีกมาก จึงต้องติดตามกันในตอนต่อไป