ลึกทันใจ : เหตุที่บิ๊กตู่ต้องอยู่คู่บิ๊กป้อม

รายงานพิเศษ ลึกทันใจ ตอน เหตุที่บิ๊กตู่ต้องอยู่คู่บิ๊กป้อม ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียม NEWS1 วันพุธที่ 6 ธันวาคม 2560



ไม่ว่าพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ หรือ บิ๊กป้อม จะขยับตัวไปทางไหนก็จะต้องถูกจับจ้องจับผิดไปซะทุกอย่าง ล่าสุดก็มีเรื่องแหวนเพชรกับนาฬิกาหรูบนข้อมือราคานับ 10 ล้านบาทที่ถูกสังคมตั้งคำถามว่า”ท่านได้แต่ใดมา” แต่ครั้งนี้บิ๊กป้อมมาแปลก ไม่แสดงอาการหงุดหงิดเมื่อถูกนักข่าวตั้งคำถาม เพียงแต่บอกว่าพร้อมที่จะชี้แจงต่อป.ป.ช.และยืนยันว่าไม่เคยยุ่งเกี่ยวกับเรื่องทุจริตใด ๆในชีวิต ซึ่งก็เป็นเรื่องที่ต้องพิสูจน์กันไปในวันข้างหน้า

ว่ากันที่จริงแล้ว บิ๊กป้อม ก็คือ 'พี่ใหญ่'ของน้อง ๆ ที่ทุกคนยังเชื่อมั่นและฝากความหวังไว้ โดยเฉพาะบิ๊กตู่ ถึงขนาดที่ต้องออกมาการันตีด้วยตัวเองว่าบิ๊กป้อมเป็นคนดี หากไม่ดีจริงก็เลิกคบกันไปนานแล้ว ​เหตุผลสำคัญที่บิ๊กตู่ต้องอยู่คู่บิ๊กป้อม ก็เนื่องมาจากว่า สิ่งสำคัญที่สุดของรัฐบาลก็คือเรื่องของ”ความมั่นคง”ที่จำเป็นต้องมีคนที่มีทั้งอำนาจและบารมีกับทั้งในกองทัพ นักการเมือง นักธุรกิจ และต้องเป็นคนที่กล้าได้กล้าเสีย หรือพูดง่าย ๆ มี 'ใจนักเลง' จึงจะเอาอยู่ท่ามกลางสถานการณ์ในปัจจุบันนี้ ​

ต้องอย่าลืมว่า บิ๊กป้อม เป็นผู้ที่สามารถยึดกุมอำนาจของกองทัพไว้ได้นาน เป็นทั้งผู้บัญชาการทหารบกในยุครัฐบาลทักษิณ ได้นั่งเก้าอี้ รมว.กลาโหมในยุครัฐบาลอภิสิทธิ์ เป็นคนดูแลด้านความมั่นคงของรัฐบาล คสช. ซึ่งหาคนที่จะมาเทียบบารมีแบบนี้ได้ยาก บรรดาแม่ทัพนายกองในตำแหน่งสำคัญ ๆ ล้วนแต่เป็นคนของบิ๊กป้อมทั้งสิ้น ดังนั้น จึงมั่นใจได้ว่า ตราบใดที่บิ๊กป้อมยังคุมกระทรวงกลาโหม จะไม่มีคลื่นแทรกอย่างเด็ดขาด

ส่วนเรื่องของการเมือง เมื่อรัฐธรรมนูญปี 2560 เปิดช่องให้มีนายกรัฐมนตรีคนนอกได้ ก็เป็นที่เกือบจะแน่นอนว่า ยังไงๆ บิ๊กตู่ก็ต้องอยู่ต่อไป โดยมีต้นทุนที่ตุนไว้แล้วคือ สว.250 เสียง ที่จะเป็นกำลังสำคัญของรัฐบาลใหม่หลังการเลือกตั้ง เมื่อเป็นเช่นนี้ จึงเป็นที่มาของข่าวการจะจับมือร่วมกันของ 2 พรรคการเมืองใหญ่คือเพื่อไทยกับประชาธิปัตย์ เพื่อสกัดดาวรุ่งพรรคทหาร(หรือพรรคสนับสนุนทหาร)ที่กำลังจะเกิดขึ้นเร็ว ๆ นี้ ซึ่งก็ต้องบอกว่า เข็นครกขึ้นภูเขายังง่ายกว่า แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้ เพราะการเมืองไทย อะไรๆก็เป็นไปได้ทั้งนั้น

ที่พูดมา 2 เรื่องคือ ความมั่นคงกับการเมือง หากเป็นไปตามนี้ก็ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วงนัก ยังเหลืออีกเรื่องเดียวก็คือเรื่องของ”ปากท้อง”ประชาชน ที่ถือเป็นเรื่องใหญ่ที่สุด ที่รัฐบาลจะต้องทำให้คนรากหญ้ากินดีอยู่ดีให้ได้ จากนี้ไปเราก็จะได้เห็นโครงการประชารัฐ ที่จะมีการทุ่มงบประมาณในโครงการต่าง ๆ ลงไปทั่วประเทศ เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจฐานราก ซึ่งก็มีเวลาเหลืออีกปีเดียวเท่านั้น ที่จะเป็นตัวชี้ขาดว่า รัฐบาลนี้จะได้ไปต่อหรือไม่

ทีมข่าวลึกทันใจ รายงา