ศาลอาญาคดีทุจริตรับไต่สวนมูลฟ้องคดี ’ชาญชัย’ ยื่นฟ้อง ทอท.-คิงเพาเวอร์ กรณีเก็บรายได้ต่ำกว่าสัญญาบริหารจัดการร้านค้าปลอดภาษีในสนามบิน ทำรัฐเสียรายได้ 1.4 หมื่นล้าน นัดตรวจสอบพยานหลักฐาน 12 ก.พ.ปีหน้า
วันนี้(13 พ.ย.) เมื่อเวลา 10.00 น. ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ได้มีคำสั่งรับฟ้องคดีหมายเลขดำที่ อท. 352/2560 ที่นายชาญชัย อิสระเสนารักษ์ อดีตรองประธานคณะกรรมาธิการ ด้านกลไกการปราบปรามการทุจริต คณะกรรมาธิการวิสามัญป้องกันและปราบปรามการทุจริต สภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) เป็นโจทก์ ยื่นฟ้องนายประสงค์ พูนธเนศ ประธานคณะกรรมการ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) รวม 14 คน เอกชนกลุ่มบริษัทคิงเพาเวอร์ 3 บริษัท และกรรมการผู้มีอำนาจ เป็นจำเลยที่ 1-18 ฐานเป็นพนักงาน ปฏิบัติ หรือละเว้นปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือ ปฏิบัติ หรือละเว้นปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต, เป็นกรรมการ หรือผู้บริหารไม่ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความรับผิดชอบ ความระมัดระวัง และความซื่อสัตย์สุจริต จนเป็นเหตุให้บริษัทได้รับความเสียหายฯ เป็นผู้รับผิดชอบในการดำเนินงานของบริษัท กระทำการ หรือไม่กระทำการ เพื่อแสวงหาประโยชน์ที่มิควรได้ กรณีร่วมกันกระทำผิดกฎหมายและข้อสัญญาที่ก่อหรือเอื้อประโยชน์ให้เอกชนได้รับประโยชน์เกินกว่าสัญญาที่ระบุไว้
ทั้งนี้ ศาลมีความเห็นว่า คดีนี้เป็นคดีที่อยู่ในอำนาจของศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ตามมาตรา 15 แห่งพระราชบัญญัติวิธีพิจารณาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ พ.ศ.2559 ดังนั้น ศาลอาญาคดีทุจริตฯ จึงมีคำสั่งให้รับคำฟ้องของนายชาญชัยไว้พิจารณา และนัดรวบรวมพยานเอกสาร หลักฐาน บัญชีพยานบุคคลวันที่ 16 มกราคม 2561 เวลา 9.00 น. และตรวจสอบพยานหลักฐานวันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2561 เวลา 9.00 น.
โดยศาลอาญาคดีทุจริตฯ กล่าวย้ำว่า วันนี้ ศาลมีคำสั่งรับฟ้องคดีของนายชาญชัย อิสระเสนารักษ์ไว้พิจารณา ยังไม่ได้ตัดสิน หรือ ไต่สวนคดีมีมูลความผิดแต่อย่างใด ขอให้สื่อมวลชนนำเสนอข่าวให้ถูกต้อง และเนื่องจากคดีนี้เป็นคดีที่อยู่ในความสนใจของประชาชน ศาลอาญาทุจริตฯ จึงมีคำสั่ง ห้ามคู่ความไม่ให้เผยแพร่ข้อมูล และพยานหลักฐาน ที่อาจจะกระทบต่อกระบวนการพิจารณาของศาล จนกว่าคดีจะถึงที่สุด หรือ ศาลมีคำสั่งเป็นอย่างอื่น
สำหรับความเป็นมา คดีนี้เป็น 1 ใน 5 เรื่องที่คณะกรรมาธิการด้านกลไกการปราบปรามการทุจริต คณะกรรมาธิการวิสามัญป้องกันและปราบปรามการทุจริต สปท. ตรวจสอบการบริหารสัญญาสัมปทานจำหน่ายสินค้าปลอดอากร และสัมปทานบริหารจัดการพื้นที่เชิงพาณิชย์ของบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท.ซึ่งพบประเด็นข้อสงสัยของการได้มา ซึ่งสัญญาสัมปทานทั้งในส่วนของธุรกิจร้านค้าปลอดอากรและบริหารจัดการพื้นที่เชิงพาณิชย์ อาจไม่ได้ปฏิบัติตามขั้นตอนและกระบวนการที่ พ.ร.บ.ว่าด้วยการให้เอกชนเข้าร่วมงาน หรือดำเนินการในกิจการของรัฐ พ.ศ.2535
ต่อมา นายชาญชัย ได้มอบหมายให้ทนายความนำคำฟ้องพร้อมพยานหลักฐาน ไปยื่นคำฟ้องต่อศาลอาญาคดีทุจริตฯ โดยนายชาญชัยเป็นโจทก์ ยื่นฟ้องขอให้ดำเนินคดีกับผู้บริหาร ทอท. 14 คน และกลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์พร้อมผู้บริหาร 4 ราย กระทำความผิดฐานละเว้นปฏิบัติหน้าที่ ไม่เรียกเก็บเงินค่าผลประโยชน์ตอบแทนให้ครบถ้วน ตามสัญญาบริหารจัดการพื้นที่เชิงพาณิชย์ ซึ่งกำหนดให้ผู้รับสัมปทานจ่ายค่าตอบแทนให้ ทอท.15% ของยอดขายก่อนหักค่าใช้จ่ายและค่าภาษี ปรากฏว่า ทอท.เรียกเก็บเงินจากผู้รับสัมปทานแค่ 3% ทำให้รัฐเสียหาย 14,290 ล้านบาท
สำหรับ จำเลยของคดีนี้มีทั้งหมด 18 ราย ประกอบด้วย นายประสงค์ พูนธเนศ เป็นจำเลยที่ 1, นายนิรันดร์ ธีรนาทสิน จำเลยที่ 2, น.ส.สุทธิรัตน์ รัตนโชติ จำเลยที่ 3, นายราฆพ ศรีศุภอรรถ จำเลยที่ 4, นายนันทศักดิ์ พูลสุข จำเลยที่ 5, นาวาอากาศตรี ประจักษ์ สัจจโสภณ จำเลยที่ 6, พลอากาศโท จอม รุ่งสว่าง จำเลยที่ 7, นายวราห์ ทองประสินธุ์ จำเลยที่ 8, พลอากาศโท ประกิต ศกุณสิงห์ จำเลยที่ 9, นายมานิต นิธิประทีป จำเลยที่ 10, นายธานินทร์ ผะเอม จำเลยที่ 11, นายธวัชชัย อรัญญิก จำเลยที่ 12, นางระวีวรรณ เนตระคเวสนะ จำเลยที่ 13, นายนิตินัย ศิริสมรรถการ จำเลยที่ 14, บริษัท คิง เพาเวอร์ สุวรรณภูมิ จำกัด จำเลยที่ 15, บริษัท คิง เพาเวอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด จำเลยที่ 16, บริษัท คิง เพาเวอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด จำเลยที่ 17 และนายสมบัตร เดชาพานิชกุล เป็นจำเลยที่ 18