รายงานพิเศษ ลึกทันใจ ตอน หลึกทันใจ : 6 คำถามเปิดศึกเดินหน้าชนนักการเมือง ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียม NEWS1 วันศูกร์ที่ 10 พฤศจิกายน 2560
6 คำถามที่พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา โยนออกมาให้สังคมตอบ แท้จริงแล้วมันก็คือการสำรวจความคิดเห็นหรือวัดอารมณ์ความรู้สึกของประชาชน ก่อนที่จะเดินหน้าเต็มตัวปูทางไปสู่ตำแหน่งนายกรัฐมนตรีรอบ 2 ในสมัยหน้านั่นเอง แม้ว่าทุกคนจะเห็นคำถามทั้งหมดไปแล้ว แต่ต้องขอทบทวนกันอีกครั้ง ข้อ 1 เราจำเป็นต้องมีพรรคการเมืองใหม่ๆขึ้นมาหรือไม่ในวันนี้ หรือนักการเมืองหน้าใหม่ๆที่มีคุณภาพ ให้ประชาชนได้พิจารณาในการเลือกตั้งครั้งต่อไป ข้อ 2 การที่ คสช.จะสนับสนุนพรรคการเมืองใด หรือตนเองจะสนับสนุนใครเป็นสิทธิของตนหรือไม่ ข้อ 3 สิ่งที่ คสช.และรัฐบาลนี้ดำเนินการ ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา ประชาชนมองเห็นอนาคตที่ดีของประเทศชาติบ้างหรือไม่ ข้อ 4 การเอาแนวทางจัดตั้งรัฐบาลวันนี้ เห็นพูดว่าเอารัฐบาลในอดีต สมัยโน้นสมัยนี้มา มันเหมือนกันไหม ข้อ 5 รัฐบาลและการเมืองที่มาจากการเลือกตั้งแบบประชาธิปไตยที่ผ่านมาของไทย ได้แสดงให้เห็นถึงประสิทธิภาพ มีธรรมาภิบาล และมีการพัฒนาประเทศที่มีความต่อเนื่องชัดเจนเพียงพอหรือไม่ ข้อ 6 ข้อสังเกตเพื่อพิจารณา เหตุใดพรรคการเมือง นักการเมือง จึงออกมาเคลื่อนไหว ด้อยค่า คสช. รัฐบาล รัฐมนตรี นายกรัฐมนตรี มีการบิดเบือนข้อเท็จจริงในช่วงนี้มากผิดปกติ เพราะอะไร
คำถามทั้ง 6 ข้อนี้คงไม่ต้องแปลไทยเป็นไทยอีก สรุปง่าย ๆ ก็คือว่า พลเอกประยุทธ์ ต้องการพุ่งเป้าถล่มพวกนักการเมืองแบบเต็ม ๆ เพราะเห็นว่า คนไทยยังรู้สึกเข็ดขยาดและรังเกียจพฤติกรรมเดิม ๆ ของนักการเมืองในอดีตที่ผ่านมา เท่านั้นยังไม่พอ ยังมีการ”โยนหินถามทาง” เพื่อเตรียมตั้งพรรคการเมืองมาเป็นฐานเสียงรองรับสนับสนุนการเป็นนายกรัฐมนตรีอีกสมัยหนึ่ง ซึ่งแน่นอนว่างานนี้พลเอกประยุทธ์ ไม่ต้องเหนื่อยมาเดินถนนแจกใบปลิวหรือขึ้นไปยืนอยู่บนรถกระบะหาเสียงด้วยตัวเอง
หรือหากจะลงสมัครรับเลือกตั้งก็ไม่ทันอยู่ดี เพราะจะต้องลาออกหลังจากรัฐธรรมนูญมีผลบังคับใช้ 90 วัน ตอนนี้ก็ถือว่าเลยกำหนดไปแล้ว จึงเหลือทางเดียวก็คือต้องมาตามเส้นทางในบทเฉพาะกาล มีพรรคการเมืองสนับสนุนในสภาผู้แทนฯ บวกกับเสียงข้างมากในวุฒิสภาที่แต่งตั้งโดย คสช.อีก 250 คนด้วย
เมื่อหนทางเดินหน้าสู่ตำแหน่งนายกรัฐมนตรีรอบ 2 ของพลเอกประยุทธ์เป็นอย่างนี้แล้ว พรรคการเมืองต่าง ๆ คงต้องเหนื่อยไม่น้อย เพราะนอกจากจะต้องหาเสียงอย่างเอาเป็นเอาตายเพื่อให้ได้แต่ละเก้าอี้เข้ามานั่งในสภาแล้ว การจะได้เสียงข้างมากในพรรคใดพรรคหนึ่งเรียกว่าลืมไปได้เลย หรือหาก 2 พรรคใหญ่อย่างประชาธิปัตย์กับเพื่อไทย จะหันมาจับมือกันจัดตั้งรัฐบาลก็แสนจะยากเย็นหรือแทบเป็นไปไม่ได้ ซึ่งในที่สุดแล้วพรรคไหนที่อยากเป็นรัฐบาลก็ต้องกลับหลังหันมาสนับสนุนพรรคคสช.อยู่ดี เพราะคงไม่มีใครอยากเป็นฝ่ายค้านไปอีกอย่างน้อยก็ต้อง 5 ปี ก็รู้ๆกันอยู่ว่า เป็นฝ่ายค้านมัน”อดอยากปากแห้ง” ก่อนจบรายงานวันนี้ นายวัชระ เพชรทอง อดีตส.ส.ประชาธิปัตย์ฝากมาว่า
มีนายกฯ ว่างงาน ชอบมาถาม เสียงคำราม ถามปัญหา โน่นนี่นั่น
เมื่อก่อนสี่ ตอนนี้หก คนงงงัน อัศจรรย์ ท้องไส้กิ่ว ไม่มีแรง
เหล่าไพร่ฟ้า หน้าหม่น คนจนทั่ว ได้ยินตัว นายกฯ ถามแอบแฝง
ใครเสพติด อำนาจ แทบลงแดง ใครตะแบง ขึ้นภาษี ขมขี่คน
ใครตวาด ประชาชน เฮ้ย,รำคาญ ใครสั่งงาน ม.44 น่าฉงน
ออกกฎหมาย ให้นายทุน ดูสัปดน ใครดิ้นรน เสพอำนาจ คล้ายติดยา
บัดนี้... ฤาต้องถาม ประชาชี ให้กังขา ส่องกระจก ถามตนเอง นะท่านนา
จะเดินหน้า เป็นนายกฯ พอหรือยัง...
ทีมข่าว ลึกทันใจ รายงาน