รายงานพิเศษ ตอน หยุด! ฟอกผิดที่ดินอัลไพน์ โดย ทีมข่าว NEWS1 ออกอากาศ วันที่ 6 กันยายน 2560
ก่อนอื่นต้องย้ำว่า “สนามกอล์ฟอัลไพน์” ที่อำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี จำนวน 924 ไร่ ที่ศาลเพิ่งชี้ขาดว่าเป็น”ธรณีสงฆ์” ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงเจตนารมณ์ของยายเนื่อม ชำนาญชาติศักดา ที่ทำพินัยกรรมยกให้กับวัดธรรมิการามวรวิหาร จะยกให้หรือจำหน่ายจ่ายแจกไปยังบุคคลอื่นไม่ได้ แต่ยังไม่ทันจะสิ้นเสียงคำพิพากษาของศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง จำคุก 2 ปีโดยไม่รอลงอาญา “ยงยุทธ วิชัยดิษฐ์” ในขณะที่เป็นรักษาการปลัดกระทรวงมหาดไทย ใช้อำนาจสั่งเพิกถอยสั่งของกรมที่ดินที่ให้เพิกถอนการออกโฉนดให้เอกชนโดยมิชอบ กลับมีกลิ่นแปลก ๆ จากรัฐบาลที่กำลังพยายามออกกฏหมายโอนกรรมสิทธิ์ที่ธรณีสงฆ์วัดธรมิกาามวรวิหารผืนนี้ ให้มูลนิธิมหามกุฏราชวิทยาลัยในพระบรมราชูปถัมภ์ ในฐานะมรดกของยายเนื่อม ชำนาญชาติศักดา ให้สภานิติบัญญัติแห่งชาติ หรือ สนช. ให้มองว่านี่คือ “การนิรโทษกรรม” ให้กับคนทำผิด โดยเฉพาะนายยงยุทธ วิชัยดิษฐที่กำลังคดีในชั้นอุทธรณ์อยู่ หากกฎหมายนี้ออกมาจริง ๆ ก็ย่อมนำมาใช้อ้างอิงเพื่อประโยชน์ของตัวเองได้
เมื่อดูกันตามตัวบทกฎหมาย ตามที่อธิบดีกรมที่ดินบอกไว้ว่า สามารถเปลี่ยนแปลงได้ แต่จะต้องออกเป็นพระราชบัญญัติเท่านั้น ก็ไม่ผิด แต่ก็ต้องพิจารณา”เจตนารมณ์”ของยายเนื่อมด้วย เพราะในพินัยกรรมที่ต้องการถวายที่ดินให้วัด ก็ชัดเจนว่ายายเนื่อมมีความเลื่อมใสศรัทธาในพระศาสนา ซึ่งที่ผ่านมาทางวัดเองก็ปล่อยให้เช่าทำนานำเงินมาทำนุบำรุงวัดให้พระเณรเถรชีได้ทำกิจกรรมในพระศาสนาได้สะดวกตามอัตภาพ แต่ไม่ใช่ให้นำไปขายแล้วนำมาทำเป็นสนามกอล์ฟแบบนี้
แม้ว่าตอนนี้ร่างกฎหมายที่จะออกมายังไม่มีใครรู้ว่าจะมีหน้าตาอย่างไร และรองนายกรัฐมนตรีด้านกฎหมาย นายวิษณุ เครืองาม จะยืนยันว่า ยังไม่ได้ออกกฎหมาย แต่ก็ไม่ได้หมายความว่า รัฐบาลจะหยุดดำเนินการในเรื่องนี้ เพราะขณะนี้กำลังอยู่ในขั้นตอนการยกร่างร่วมกันระหว่างกระทรวงมหาดไทยและสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ดังนั้น จึงขอเตือนดัง ๆ ตรงนี้ว่า หากยังแข็งขืนเดินหน้าต่อไป ไม่ฟังคำท้วงติงของสังคม ก็เชื่อว่าเสียงวิจารณ์ในทางลบจะต้องดังขึ้นเรื่อย ๆ และก็เป็นเรื่องช่วยไม่ได้ หากจะทำให้ถูกมองว่ารัฐบาลกำลัง “สมคบกันช่วยเหลือคนโกง” การจะอ้างว่า ต้องการออกกฎหมายเพื่อเยียวยาให้กับผู้ที่ซื้อที่ดินมาอย่างสุจริต ฟังดูเผิน ๆ ก็เหมือนจะดี แต่ก็ทำให้อดคิดไม่ได้ว่า การมาเพื่อช่วยเหลือคนเพียงกลุ่มเดียวมันถูกต้องหรือไม่ ถ้าจะหาทางออกในเรื่องนี้จริง ๆ ก็ควรให้ผู้ซื้อที่ดินไปฟ้องศาลไล่เบี้ยจาก บริษัท อัลไพน์ เรียลเอสเตท จำกัด และบริษัท อัลไพน์ กอล์ฟแอนด์สปอร์ตคลับ จำกัด จากนั้นอัลไพน์จะไปไล่เบี้ยต่อจาก มูลนิธิมหามกุฏราชวิทยาลัย ก็สู้กันไปตามกฎหมายไม่ดีกว่าหรือ
ทีมข่าว NEWS 1 รายงาน