รายงานพิเศษ ลึกทันใจ ตอน คว่ำบาตร ผอ.พศ.หวังกระทบชิ่งรัฐบาล ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียม NEWS1 วันจันทร์ที่ 24 กรกฎาคม 2560
เรื่องการตรวจสอบทุจริตเงินอุดหนุนวัด หรือเงินทอนวัด ที่กองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ หรือ ปปป.กำลังเร่งสืบสวนสอบสวนหาผู้กระทำผิด ที่มีทั้งพระสงฆ์บางรูปและเจ้าหน้าที่ของสำนักพระพุทธศาสนาแห่งชาติ หรือ พศ.บางคนร่วมทำกันอย่างเป็นขบวนการ ได้สร้างความไม่พอใจให้กับพระชั้นผู้ใหญ่อย่าง พระเทพปฏิภาณวาที หรือเจ้าคุณพิพิธ ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสุทัศน์เทพวรารามราชวรมหาวิหาร จนต้องออกโรงมาตอบโต้ว่าเป็นเรื่องของระบบข้าราชการไม่ใช่มาโทษพระ ซึ่งฟังดูแปลก ๆ เพราะหากทั้งพระและฆราวาสไม่ร่วมมือกัน การทุจริตจะเกิดขึ้นได้หรือไม่ ตรงนี้เจ้าคุณพิพิธคงต้องชี้แจงแถลงไขให้ชัดเจนขึ้นอีกหน่อย อีกทั้งการตรวจสอบการทุจริตเพื่อนำตัวผู้กระทำผิดมาลงโทษตามกฎหมายก็เป็นสิ่งที่ถูกต้องไม่ใช่หรือ เหตุใดจึงต้องไม่พอใจ สาธุชนกำลังสงสัย?!! นอกจากนี้ก็ยังมีพระมหาอภิชาติ ปุณฺณจนฺโท แห่งวัดเบญจมบพิตร ได้เข้าแจ้งความดำเนินคดีต่อพันตำรวจโทพงศ์พร พราหมณ์เสน่ห์ ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ หรือ พศ. ในข้อหาหมิ่นประมาท ทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียง ถูกเกลียดชัง ตามมาด้วยวัดพระธรรมกาย ที่ออกมาประสานเสียงตอบโต้ว่า พศ.ไม่มีอำนาจตรวจสอบบัญชีวัดทั่วประเทศอีก
เท่านั้นยังไม่พอยังมีแถลงการณ์ขององค์กรพระสังฆาธิการแห่งคณะสงฆ์ไทย ตำหนิการทำงานของพันตำรวจโทพงศ์พร ถึงขั้นเสนอให้มีการเปลี่ยนตัวผู้อำนวยการพศ.กันเลยทีเดียว ซึ่งถ้าจะว่าไปแล้ว คงอยากให้เปลี่ยนรัฐบาลมากกว่า เพราะผู้อำนวยการพศ.เป็นแค่ด่านหน้าที่ยกขึ้นมาอ้างเท่านั้น หากรัฐบาลทำตามข้อเรียกร้องของพระสังฆาธิการจริง ก็เท่ากับลดความศักดิ์สิทธิ์ของมาตรา 44 ลง เนื่องจากการแต่งตั้งผู้อำนวยการพศ.เป็นไปตามคำสั่งตามม.44 ซึ่งกลยุทธ์นี้วัดพระธรรมกาย ทำสำเร็จมาแล้วที่ไม่สามารถนำตัวธัมมชโย มาเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมได้ แรงกดดันต่อผอ.พศ.มีเพิ่มมากขึ้น ด้วยการออกใบปลิวโจมตีจากวัดสามพระยาและมาตรการคว่ำบาตรจากวัดเทพศิรินทร์ เรียกได้ว่างานนี้พันตำรวจโทพงศ์พร ต้องเป็นผู้ทนแบกรับแรงกดดันกันสุด ๆ แต่คงไม่ต้องห่วงมากนักเพราะได้กองหลังดีจากนายออมสิน ชีวะพฤกษ์ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี รวมทั้งพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ถึงกับออกปากชมให้กำลังใจในการทำงานออกสื่อมาแล้ว
จากท่าทีของพระชั้นผู้ใหญ่หลายรูปที่พากันออกมาตอบโต้ต่อผอ.พศ.ครั้งนี้ถือเป็นการเปิดหน้าเปิดตัวกันอย่างชัดเจนไม่มีกระมิดกระเมี้ยนกันอีกต่อไป เมื่อพิจารณาดูดีๆ จะเห็นว่า ทั้งหมดล้วนมีความเกี่ยวข้องเชื่อมโยงกันระหว่างกลุ่มคนเสื้อแดง วัดพระธรรมกายและพรรคการเมืองบางพรรค อย่างเจ้าคุณพิพิธ ที่อยู่ในสายสนับสนุนสมเด็จช่วง เจ้าอาวาสวัดปากน้ำ พระพรหมดิลก หรือเจ้าคุณเอื้อน เจ้าอาวาสวัดสามพระยา ที่มีตำแหน่งในมหาเถรสมาคมซึ่งพระรูปนี้เคยถูกหลวงปู่พุทธะอิสระ ระบุว่า เป็นผู้ที่สนับสนุนคนเสื้อแดง และเป็นสายเดียวกับธัมมชโย และยังมีอีกหลายวัดใหญ่ที่เจ้าอาวาสมีตำแหน่งในมหาเถรสมาคม อยู่ในสายสัมพันธ์เดียวกับวัดที่กล่าวถึงมาข้างต้น รวมไปถึงองค์กรพระสังฆาธิการแห่งคณะสงฆ์ไทยด้วย
ทีมข่าวลึกทันใจ ขอให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ทุกคนและทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเดินหน้ากวาดชำระล้างความสกปรกในวงการสงฆ์ให้หมดไป เพื่อที่พุทธศาสนิกชนจะได้กราบไหว้พระที่ปฎิบัติดีปฎิบัติชอบได้อย่างสนิทใจ และเวลาจะควักเงินทำบุญจะได้ไม่ต้องตะขิดตะขวงใจอีกต่อไป
ทีมข่าวลึกทันใจ รายงาน