xs
xsm
sm
md
lg

ลึกทันใจ : แฉขบวนการฟอกเงินทำชาติฉิบหายปีละแสนล้าน!!

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

รายงานพิเศษ ลึกทันใจ ตอน แฉขบวนการฟอกเงินทำชาติฉิบหายปีละแสนล้าน!! ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียม NEWS1 วันพุธที่ 7 มิถุนายน 2560



การฟอกเงินก็คือการนำเงินที่ได้จากธุรกิจมืด ที่เราเรียกว่าเงินสกปรกมาทำให้เป็นเงินสะอาดนั่นเอง ซึ่งธุรกิจมืดที่ว่าก็หนีไม่พ้นพวกค้ายาเสพติด ไม้เถื่อน อาวุธเถื่อน ค้ามนุษย์ ธุรกิจการพนัน รวมทั้งเงินทุจริตคอร์รัปชัน แต่ปัจจุบันการฟอกเงินไม่ได้จำกัดอยู่กับกลุ่มธุรกิจมืดเสมอไป ดูได้จากพวก 'โจรใส่สูท' ที่มักใช้วิธีการที่ซับซ้อนเพื่อปกปิดได้เนียนกว่า

พันตำรวจเอก ทรงศักดิ์ รักศักดิ์สกุล รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ ได้เปิดเผยข้อมูลที่น่าสนใจว่า มี 4 กลุ่มธุรกิจที่มักเกี่ยวข้องกับการฟอกเงินคือ พวกละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา ธุรกิจแชร์ลูกโซ่ ธุรกิจนำเข้าและจำหน่ายรถหรู และธุรกิจที่ดิน มาตามดูกันทีละกลุ่มดังนี้ ​ธุรกิจละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา จะเป็นการผลิตและขายสินค้าก๊อบปี้ที่คนส่วนใหญ่นิยมใช้กัน เมื่อได้เงินจากการขายสินค้า ก็ต้องรีบผ่องถ่ายเงินไปเก็บไว้ในรูปแบบอื่น ธุรกิจแชร์ลูกโซ่ เป็นการฉ้อโกงในลักษณะของการระดมทุนที่หลอกให้ผู้หลงเชื่อนำเงินมาร่วมลงทุนเพื่อแลกกับผลตอบแทนสูงๆ เมื่อได้เงินมาแล้วผู้ระดมทุนจะนำเงินส่วนหนึ่งไปจ่ายผลตอบแทนให้แก่ผู้ร่วมลงทุนรายแรกๆ และผ่องถ่ายเงินอีกส่วนหนึ่งเข้าบัญชีตนเองหรือคนใกล้ชิด เช่น กรณีแชร์ล็อตเตอรี่ แชร์น้ำหอม แชร์น้ำมัน เป็นต้น

ขณะที่ธุรกิจนำเข้าและจำหน่ายรถหรูซุปเปอร์คาร์นั้น ต้องทำธุรกรรมอำพรางเพื่อหลีกเลี่ยงภาษี เช่น สวมทะเบียนว่าเป็นรถมือสองก่อนนำเข้ามา หรือแยกชิ้นส่วนแล้วนำเข้ามาประกอบในประเทศไทย ซึ่งทั้ง 2 วิธีทำให้จ่ายภาษีน้อยกว่าปกติถึง 300% ผู้ที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจนี้ทั้งผู้นำเข้า คนขาย หรือผู้ที่ช่วยอำนวยความสะดวก จึงต้องมีการยักย้ายถ่ายเททรัพย์สินที่ได้มาเพื่อป้องกันการตรวจสอบในภายหลัง ส่วนธุรกิจที่ดินที่เข้าข่ายการฟอกเงินจะมีลักษณะของการลักลอบนำที่ดินของรัฐมาออกโฉนดแล้วนำไปหลอกขาย ซึ่งผู้กระทำผิดในธุรกิจนี้มีทั้งเอกชนและเจ้าหน้าที่รัฐ
ส่วนวิธีการฟอกเงินก็มีหลายวิธี วิธีที่1.จะโอนเงินเข้าบัญชีผู้ใกล้ชิดหรือบุคคลอื่นก่อนที่จะโอนกลับเข้ามายังบัญชีตัวเอง บางคนอาจโอนเงินสดไปฝากไว้ในธนาคารต่างประเทศที่ไม่มีการควบคุมระบบธนาคารอย่างเข้มงวด แล้วค่อยโอนเงินกลับเข้ามา 2. แปรสภาพเป็นสินทรัพย์ เช่น ซื้อที่ดิน ซื้อบ้าน ซื้อรถยนต์ ซื้อทอง หรือบางรายอาจตกแต่งตัวเลขการซื้อขายที่ได้กำไรเกินจริงเพื่ออ้างที่มาของรายได้
3. เปิดธุรกิจบังหน้า โดยนำเงินที่ได้จากธุรกิจผิดกฎหมายมาลงทุนเพื่อตกแต่งตัวเลขที่มาของรายได้ว่ามาจากการทำธุรกิจ หรืออาจซื้อกิจการในต่างประเทศซึ่งเป็นเขตปลอดภาษีแล้วให้กิจการของตนเองที่อยู่ในประเทศกู้ยืมเงินหรือสั่งซื้อสินค้าจากบริษัทในต่างประเทศในราคาที่สูงเกินจริง เพื่อให้เงินที่ได้มาอย่างผิดกฎหมายกลายเป็นเงินที่ถูกกฎหมาย และ 4. ซุกซ่อนเงินที่ได้ไว้ในห้องหรือสถานที่ลับ แล้วค่อย ๆ ทยอยนำเงินออกมาใช้
ส่วนวิธีการปราบปรามของดีเอสไอ.ก็ต้องตรวจสอบที่มาของเงิน และเส้นทางการเงินว่ามีการสั่งจ่ายให้ใคร โอนให้ใคร ไล่ดูบัญชี โดยขอข้อมูลจากธนาคารหรือตลาดหลักทรัพย์ได้ เมื่อมีหลักฐานเป็นที่แน่ชัดก็จะอายัดและยึดทรัพย์ให้ตกเป็นของแผ่นดินต่อไป
ส่วนตัวอย่างของการฟอกเงินก็มีให้เห็นหลายคดี เช่น ธัมมชโย กับนายอนันต์ อัศวโภคิน ที่ถูกกล่าวหาว่าพัวพันกับการทุจริตสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น รวมไปถึงคดีรถหรูที่ดีเอสไอออกมากวาดล้างขบวนการนำเข้ารถหรูเถื่อน-เลี่ยงภาษี และอาจมีการขยายผลไปถึงกระบวนการฟอกเงิน เครือข่ายค้ายา "ไซซะนะ" ผู้ค้ายาเสพติดรายใหญ่ชาวลาว ซึ่งขบวนการนี้จะใช้วิธีเปิดธุรกิจ 'ซื้อขายรถหรู' บังหน้า และหนึ่งในผู้ต้องหาร่วมกันฟอกเงินคือ เบนซ์ เรซซิ่ง สามีของ แพท ณปภา เป็นต้น
ต้องย้ำกันตรงนี้อีกครั้งว่า ธุรกิจผิดกฎหมายเหล่านี้สร้างความหายนะให้กับเศรษฐกิจ รวมถึงความมั่นคงของชาติอย่างมหาศาล จึงหมดเวลาที่คนเหล่านี้จะได้เสพสุขบนความฉิบหายของชาติอีกต่อไปแล้ว
ทีมข่าวลึกทันใจ รายงาน ​
กำลังโหลดความคิดเห็น