อาจารย์นักกิจกรรมบำบัดจิตสังคม หมออาสา...มาหานะเธอ บอกเซลล์กระจก ซึ่งสมองทุกคนมีคล้ายกัน ทั้งด้านบวกและด้านลบเลือกอยู่กับว่าเราจะเลือกรับด้านไหน ผ่านรายการ "สภากาแฟ เวทีชาวบ้าน COFFEE TALK"
วันนี้ ( 6 มิ.ย. ) นับว่าเป็นอีกคดีฆ่าหั่นศพที่โด่งดังของ น.ส.วริศรา กลิ่นจุ้ย หรือน้องแอ๋ม ผู้เสียชีวิต และผู้ที่ลงมือฆ่าคือ น.ส.ปรียานุช โนนวังชัย หรือเปรี้ยว ข่าวเรื่องนี้สอนอะไรกับสังคม แล้วสังคมจะเป็นยังไงกันต่อ ผศ.ดร.ก.บ.ศุภลักษณ์ เข็มทอง กล่าวว่า ในความเห็นของผมฐานะนักบำบัดจิตสังคมเรามองว่าสังคมมีอยุติธรรม ซึ่งอยุติธรรมในทางการแพทย์และองค์การอนามัยโลกได้กล่าวไว้ว่า เราขาดสุขภาวะทางจิตวิญญาณ ความเห็นอกเห็นใจของมนุษย์มันหายไป เกิดการเอารัดเอาเปรียบกัน จากแค่กรณีตรงนี้แล้วมันมีแต่เอาประโยชน์เข้าส่วนตัว แต่ถ้าเรามองลึกๆ ไปในระดับที่เราเรียกว่า "เซลล์กระจกเงา" นามแฝงของมันคือเซลล์คุณธรรม เราเจอเซลล์นี้เมื่อ 5-10 ปีที่แล้ว และเราเกิดโปรแกรมว่าบุคคลต่างๆ ควรจะกระตุ้นให้เซลล์กระจกเงาตื่นตัว นั่นก็หมายความว่าให้มีคุณธรรม และก็พัฒนามาเป็นเชาว์ปัญญา และพัฒนามาอีกว่าความฉลาดทางอารมณ์ เพื่อรับมือเยาวชนรุ่นใหม่ที่เป็นยุคไอที ซึ่งเซลล์กระจกเงาเป็นช่วงวัยไปแล้ว แล้วช่วงวัยอื่นๆ ต้องปรับตัวเข้าหาด้วย เพื่อที่จะอยู่กับมันได้และรู้จักเลือกสิ่งดีๆ เรียนรู้สิ่งดีๆ จากไอทีพวกนี้
"ถ้าเซลล์กระจกเงารับเรื่องดีๆ คิดบวก เห็นสิ่งดีๆ และได้ลงมือทำก็จะเกิดความเห็นอกเห็นใจผู้อื่น เป็นประการแรกเลย แต่ถ้าเสพและมีความคิดลบขึ้นมา ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบไหน มีความคิดลบขึ้นมาในใจ เลล์ตรงนี้จะไปเชื่อมกับเซลล์สมองโดยตรง และสมองส่วนหน้าเราจะย้อนกลับไปดูปมตั้งแต่ 14 ปีแรก และก็ดูว่าเคยโกรธใครไหม เมื่อมันเกิดขึ้นมาจะเป็นบุคลิกด้านลบทันที"อาจารย์นักกิจกรรมบำบัดจิตสังคมกล่าว
ศุภลักษณ์ เข็มทอง กล่าวต่อว่า เราคิดว่ามันเป็นสื่อนิยม แต่ว่ามันเป็นดาบสองคม เพราะฉะนั้นที่เข้ามาเขาคิดลบ ก็จะเสพสิ่งลบๆ ไป ไม่เกิดการเรียนรู้เขาก็จะวิพากษ์วิจารณ์ต่อๆ กันไป ซึ่งบางคนก็อยากเป็นเปรี้ยว ซึ่งก็เป็นไปได้ เนื่องจากว่าความสวยของเคสนี้และมันตรงกับแนวโน้มบุคลิกภาพแปรปรวนแบบหนึ่ง เราเรียกว่า ต่อต้านสังคมหรือไซโคพาธ หมายถึง ใครก็ตามที่คิดลบเยอะๆ สมองส่วนหน้ากับสมองอารมณ์มันไม่เชื่อมกันและบกพร่องลงเรื่อยๆ เมื่อวิจัยเทียบกับคนปกติหรือคนที่คิดบวก มันก็จะเกิดอยู่ 10 คุณลักษณะ ที่ทำให้เรามองว่าเขาเนี่ยจะยั่วยวนในสื่ออนไลน์ เขาตาเฉยๆ เอาความสวยแต่แค่ผิวๆ แต่ความสวยจากภายในไม่ออกมา และตั้งใจรู้ว่ากระทำผิดไม่รู้ผิดชอบชั่วดี ซึ่งตัวสมองมันทำงานอัตโนมัติ เซลล์กระจกเงาก็จะหลับหมด
อาจารย์นักกิจกรรมบำบัดจิตสังคม กล่าวต่อว่า การที่คนเอารูปของผู้เสียชีวิตให้คนได้เห็นได้รับรู้ มันเรื่องของจริยธรรมและจรรยาบรรณทั้งของตัวสื่อเอง ทั้งของกฎหมาย ในขณะที่กระบวนการกฎหมายนี้มีทีมนักจิตเวชเข้าไป ยิ่งต้องเป็นความลับจะเปิดเผยได้เป็นทางการ และพวกพยานหลักฐานต่างๆ สื่อมวลชนน้อยมากที่ได้รับอนุญาตลงภาพเหล่านี้ ซึ่งในประเทศออสเตรเลียไม่มีที่จะได้เห็นภาพแบบนี้ ภาพหนึ่งภาพถือเป็นพยานหลักฐานสำคัญมาก และเขาเบลอไม่ให้เห็นส่วนเลือดหรือส่วนอื่นๆ แม้แต่นิดเดียว และภาพเหล่านี้ต้องผ่านกรรมการ 3 ขั้นตอน ซึ่งทางประเทศออสเตรเลียไม่ต้องมีการแย่งภาพกันเพราะมีแค่ภาพนี้ภาพเดียว ที่สื่อสามารถนำไปทำข่าวได้ และต้องเป็นภาพนิ่งหรือเป็นภาพวาดลายเส้นเท่านั้น
โดย อาจารย์ศุภลักษณ์ เข็มทอง คณะกายภาพบำบัด มหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวทิ้งท้ายในทุกวันนี้เราได้ประโยชน์อย่างไรบ้างจากสังคม จากรัฐบาล ว่า "วิธีง่ายมาก นำกระดาษหนึ่งแผ่นมาวางในแนวนอน แล้วมาคิดว่า 15 ปีต่อจากนี้ไปจะทำอะไร และต้องให้คนยอมรับและมีคุณค่าในตัวเราเอง"