xs
xsm
sm
md
lg

"ครูดิน" เตรียมวิ่งเพื่อสร้างสนามกีฬาบ้านเกิด พะเยา "ก้าวทุกก้าว เพื่อมวลชน"

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


พระอาทิตย์ LIVE พาไปพูดคุยกับ "ครูดิน สถาพร จันทร์ผ่องศรี" อดีตนักวิ่งมาราธอนทีมชาติไทย ที่ได้มาเปิดใจเล่าเรื่องราวก่อนจะวิ่งมาราธอนระยะทาง 750 กิโลเมตร จากกรุงเทพมหานคร-พะเยา เพื่อหาทุนสร้างสนามกีฬามาตราฐานให้กับบ้านเกิด




วันนี้ (31 พ.ค.) เรื่องกระแสที่นิยมในขณะนี้อย่างยิ่งสำหรับคนรักสุขภาพ นั้นคือการวิ่งเพื่อสุขภาพ ซึ่งบางคนก็มีการวิ่งมาราธอนตามงานต่างๆ ซึ่งวันนี้ได้มีกูรูวิ่งมาราธอนอย่างแท้จริง ที่จะมาแนะนำพูดถึงวิธีวิ่งที่ถูกต้องในกับผู้ชมได้รับทราบ ซึ่งคนที่อยู่ในวงการวิ่งไม่มีใครรู้จัก "ครูดิน สถาพร จันทร์ผ่องศรี" อดีตนักวิ่งมาราธอนทีมชาติไทย และสร้างชื่อเสียงให้ประเทศไทยมาแล้ว แล้วตอนนี้ครูดินได้อุทิศตนเพื่อให้ประโยชน์กับบุคคลทั่วไป โดยมีการสอนเทคนิคการวิ่ง การออกกำลังกายที่ถูกต้อง รวมถึงเทคนิคต่างๆ ในการวิ่งมาราธอนผ่านช่องทางต่างๆ ไม่ว่าจะยูทูป ในเฟซบุ๊กของครูดิน รวมถึงตอนนี้ครูดินมีเปิดสอนที่สวนลุมอีกด้วย และครูดินยังมีโครงการที่จะสร้างสนามกีฬามาตรฐานที่บ้านเกิดจังหวัดพะเยา โดยจะวิ่งระยะทางจากกรุงเทพมหานคร-พะเยา 750 กิโลเมตร

ครูดิน สถาพร จันทร์ผ่องศรี กล่าวว่า โดยโครงการนี้จะเริ่มจากสนามศุภชลาศัย ซึ่งถือว่าในตอนที่ครูประสบความสำเร็จในการวิ่งมาราธอนเข้าสู่เส้นชัยที่สนามศุภชลาศัย ซึ่งตอนนั้นเป็นงานซีเกมส์ครั่งที่ 13 ปี 2528 สำหรับการวิ่งระยะทาง 750 กิโลเมตร เราจะแบ่งวันวิ่งเฉลี่ยตกวันหนึ่งวิ่งได้ 40-45 กิโลเมตร ซึ่งจะเฉลี่ยระยะทางให้ใกล้เคียงกับการวิ่งมาราธอน ส่วนวันหยุดพักอาจจะมีการวิ่งน้อยลงแต่จะไม่หยุดวิ่ง ที่เลือกวิ่งไปจังหวัดพะเยาเพราะเป็นจังหวัดบ้านเกิด ที่เราต้องกลับไปทดแทนบุญคุณแผ่นดินของเรา และอีกส่วนหนึ่งคือพะเยาเป็นจังหวัดที่พัฒนาบุคคลากรหรือเด็กๆ ในจังหวัด จนเข้าสู่ระดับทีมชาติในหลายๆประเภทกีฬาไม่ว่าจะเป็น ฟุตบอล วอลเลอบอล ยิงปืน จักรยาน หรือวิ่งก็ตาม แต่พะเยาไม่มีสนามที่เป็นสนามกีฬามาตรฐานเลย เวลาซ้อมก็จะซ้อมในลู่ดินไม่ได้เป็นลู่ยางเหมือนสนามมาตรฐานทั่วไป เวลาฝนตกสนามดินก็จะเละเป็นโคลนซึ่งไม่เหมือนลู่ยางที่ฝนตกยังไงก็ไม่เละ ทำให้ซ้อมไม่ได้ต้องไปหาที่ซ้อมใหม่ จึงเป็นตั้งใจที่จะทำสนามกีฬามาตรฐานใหม่ และอีกจุดหนึ่งคือว่าอย่างน้อยเรามีพื้นที่ในบางจังหวัด บางสถานที่อาจจะไม่มีพื้นที่ที่จะให้เด็กเยาวชนได้ออกกำลังกาย หรือพื้นที่ที่ประชาชนได้มาออกกำลังกายอย่างปลอดภัย จึงเล็งเห็นว่าเราไม่ต้องรองบประมาณอะไร ที่จะต้องมารอคอยอีกไม่รู้กี่ปี ซึ่งเราไม่ทราบว่าจะได้รับเมื่อไร หรือพื้นที่จังหวัดอื่นในประเทศไทยถ้ามีโอกาสและก็สร้างโอกาสตัวเองในการหาทุนมาทำพื้นที่เหมือนที่ครูจะทำขึ้นมา และอยากให้ทุกคนเป็นเจ้าภาพร่วมกัน แล้วมองงานนี้ให้ว่าสังคมนักวิ่ง หรือประชาชนต่างได้มีส่วนร่วมในการสร้างสุขภาพหรือแบ่งปันเรื่องสุขภาพ ให้กับพื้นที่ชุมชนที่ด้อยโอกาสที่จะได้รับการสนับสนุน

หากท่านที่สนใจอยากร่วมเป็นส่วนหนึ่งของโครงการวิ่ง จากกรุงเทพมหานคร-พะเยา ในระยะทาง 750 กิโลเมตร จะมีการเริ่มวิ่งวันที่ 30 ก.ค. ถึง 19 ส.ค. นี้ ชื่อโครงการว่า "ก้าวทุกก้าว เหงื่อทุกหยด สู่มาตุภูมิ สร้างสนามกีฬา เพื่อมวลชน" สามารถบริจาคสมทบทุนเข้าบัญชีสะสมทรัพย์ เลขที่บัญชี 865-0-70299-9 ธนาคารกรุงเทพ สาขาแฟชั่นไอส์แลนด์ หรือสอบถามเพิ่มเติมทางเฟซบุ๊ก "KaoKruDIN" หรือ "ก้าวครูดิน"

ครูดิน สถาพร จันทร์ผ่องศรี กล่าวต่อว่า รูปที่ลงในเฟซบุ๊ก เป็นรูปคุณครูที่สอนครูดินมาตั้งแต่เด็ก และท่านกำลังใช้จามในการเกลี่ยพื้นที่สนามให้เรียบ เพื่อจะปรับพื้นที่ให้กับเด็กของท่านได้ซ้อม และตัวครูดินเองชีวิตการวิ่งก็เริ่มจากสนามแห่งนี้ สำหรับเสียตอบรับแรกของโครงการนี้ก็รู้สึกใจหายกับเสียงตอบรับในเรื่องการบริจาค ส่วนเทรนวิ่งมาราธอนที่กลับมาอีกครั้ง ก็รู้สึกดีใจมาก ซึ่งเราก็มีกิจกรรมหนึ่งในการสร้างเสริมสุขภาพให้คนทั่วไป และเป็นกิจกรรมที่ทำได้ง่ายๆ นั่นคือ ใครที่เดินได้ก็วิ่งได้ ไม่จำเป็นเลยที่เราจะหาอุปกรณ์อะไรแพงๆ ไม่จำเป็นต้องหาสนามแค่ถ้าเรามีพื้นที่ในบ้านก็พอ กระแสที่น่ายินดีเพราะเรามีคนจำนวนเยอะที่เติบโตในเรื่องของสุขภาพ ช่วงระยะ 3 ปีที่แล้ว อยู่ที่ประมาณ 5 ล้านคน แต่เมื่อ 2 เดือนที่ผ่านมามีการเก็บข้อมูลพบว่าเพิ่มเป็น 8,500,000 คน ที่หันมานิยมวิ่งกัน

ครูดิน สถาพร จันทร์ผ่องศรี กล่าวเสริมว่า การวิ่งมาราธอนที่ถูกต้องมีระยะทาง 42.195 กิโลเมตร จึงจะเรียกว่า วิ่งมาราธอน ซึ่งมาราธอนมันเป็นตำนานตั้งแต่สมัยกรีกโบราณ หรือการวิ่งข้ามทุ่งที่เรียกกันว่า ทุ่งมาราธอน และกรีกเริ่มจัดการแข่งขันโอลิมปิกครั้งแรกจึงนำมาราธอนเข้ามาบรรจุ ซึ่งการวิ่งมาราธอนเป็นตำนานหนึ่งในโอลิมปิก

ครูดิน สถาพร จันทร์ผ่องศรี กล่าวต่อว่า สำหรับการเลือกซื้อรองเท้าอยู่ที่การวิ่งของแต่ละคน เพราะแต่ละคนวิ่งไม่เหมือนกัน บางคนอาจจะมีความคุ้นชินกับการลงหน้าเท้า ลงกลางเท้า หรือลงปลายเท้า ซึ่งทุกแบบลงได้หมด ลงแล้วต้องรู้สึกว่าเราวิ่งแล้วสบายที่สุด พริ้วที่สุด เบาที่สุด ไม่ให้ผลกระทบต่อร่างกายมากที่สุด สำหรับคนที่มีน้ำหนักเยอะและส่วนใหญ่จะมีปัญหาเรื่องข้อเข่า ควรเดินก่อนในแบบปกติและค่อยเริ่มเดินเร็วขึ้นให้ตัวเองมีอากาศเหนื่อยหอบนิดๆ

โดยครูดินได้ฝากทิ้งทายสำหรับคนที่สนใจในการวิ่งสามารถมาเรียนรู้การวิ่งได้ที่สวนลุมพินี โดยครูดินจะอยู่ตั้งแต่ 07.00 น. ตรงบริเวณลานจามจุรี ฝั่งตรงข้ามสน.ลุมพินี ถนนวิทยุ

กำลังโหลดความคิดเห็น