นางสาวดารบุษป์ ปภาพจน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน อีสท์สปริง (ประเทศไทย) จำกัด หรือ บลจ.อีสท์สปริง เปิดเผยว่า บริษัทฯ อยู่ระหว่างการเสนอขายกองทุนเปิดอีสท์สปริง China Complex Return 1YB (ES-CHINACR1YB) จัดเป็นกองทุนผสมที่มีความซับซ้อนและมีความเสี่ยงสูง มีระยะเวลาลงทุนประมาณ 1 ปี ซึ่งเป็นกองทุนที่ช่วยลดความเสี่ยงการขาดทุนของเงินต้นจากการลงทุนตราสารหนี้ภาครัฐ พร้อมเพิ่มโอกาสสร้างผลตอบแทนที่ดีจากการลงทุนในสัญญาวอร์แรนต์ที่อ้างอิงกับดัชนี FTSE CHINA A50 โดยเปิดขายหน่วยลงทุนครั้งเดียวระหว่างวันที่ 24-31 กรกฎาคม 2566 ด้วยเงินลงทุนขั้นต่ำ 1,000 บาท มูลค่าโครงการ 1,500 ล้านบาท
สำหรับกองทุนเปิดอีสท์สปริง China Complex Return 1YB (ES-CHINACR1YB) มีกลยุทธ์การลงทุนแบ่งเป็น 2 ส่วน คือ ส่วนที่ 1 มีนโยบายลงทุนในตราสารหนี้และ/หรือเงินฝากและ/หรือตราสารเทียบเท่าเงินฝากทั้งในประเทศและ/หรือต่างประเทศที่มีอันดับความน่าเชื่อถืออยู่ในอันดับที่สามารถลงทุนได้ (Investment Grade) ประมาณ 98.00-99.00% ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน โดยมีเป้าหมายเพื่อให้เงินลงทุนเติบโตเป็น 100% ของเงินลงทุนทั้งหมดเมื่อครบอายุโครงการ (หากไม่มีเหตุการณ์ผิดนัดชำระหนี้ของตราสารหนี้ที่ลงทุนและค่าเงินดอลลาร์บาทไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงระหว่างวันเริ่มต้นสัญญาวอร์แรนท์และวันพิจารณาดัชนีอ้างอิง) ซึ่งหากมีการลงทุนต่างประเทศในส่วนนี้จะมีการป้องกันความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยน (Hedging) เต็มจำนวน
ส่วนที่ 2 กองทุนจะลงทุนในสัญญาซื้อขายล่วงหน้า ซึ่งเป็นสัญญาวอร์แรนต์ (Warrant) ที่มีการจ่ายผลตอบแทนอ้างอิงกับดัชนี FTSE CHINA A50 ซึ่งไม่ได้ป้องกันความเสี่ยงค่าเงิน ในสัดส่วนประมาณ 1-2% ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน เพื่อเปิดโอกาสให้กองทุนสามารถแสวงหาผลตอบแทนส่วนเพิ่มที่เป็นบวกจากอัตราการมีส่วนร่วม (Participation Rate) 35% ของการเปลี่ยนแปลงของดัชนี หากดัชนีดังกล่าว ณ วันพิจารณา ปรับตัวเพิ่มขึ้นและปิดตั้งแต่ 0% ถึง 25% เมื่อเทียบกับ ณ วันเริ่มต้นสัญญาวอร์แรนต์ รวมถึงไม่มีเหตุการณ์ที่ดัชนีดังกล่าวมีการปิดสูงกว่า 25% ณ สิ้นวันใดวันหนึ่งก่อนถึงวันพิจารณาดัชนีอ้างอิง
“จุดเด่นของกองทุนนี้คือความเสี่ยงต่อเงินต้นต่ำมากเพราะส่วนของเงินลงทุนที่มุ่งให้เติบโตเป็น 100% เน้นลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลไทยและ/หรือพันธบัตรต่างประเทศที่มีอันดับความน่าเชื่อถือ 2 อันดับแรก (International Rating) รวมถึงโอกาสสร้างผลตอบแทนที่ดีจากวอร์แรนต์ หากดัชนี FTSE CHINA A50 ปรับตัวเพิ่มขึ้นแต่ไม่เกิน +25% เมื่อเปรียบเทียบกับวันเริ่มต้นสัญญา เหมาะกับผู้ลงทุนที่ต้องการสร้างโอกาสรับผลตอบแทนสูงกว่าเงินฝากโดยทั่วไป” นางสาวดารบุษป์กล่าว พร้อมให้มุมมองการลงทุนว่า
หลังจากที่ข้อมูลทางเศรษฐกิจของจีนออกมาอ่อนแอกว่าคาด รวมถึงการประกาศ GDP ไตรมาส 2/23 ขยายตัวเพียง 6.3% เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าอาจจะขยายตัว 7.3% ซึ่งในการประชุมคณะกรรมการเพื่อการพัฒนาและปฏิรูปแห่งชาติจีนล่าสุด หลังการทราบข้อมูลเศรษฐกิจที่ประกาศออกมา ทางการจีนได้ให้คำมั่นว่าจะเร่งออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่ครอบคลุมถึงการฟื้นฟูการอุปโภคบริโภคภายในประเทศ โดยคาดว่าจีนอาจจะออกมาตรการกระตุ้นในวงจำกัดและเจาะจงเป้าหมายเพิ่มเติม ขณะเดียวกันก็มีการเพิ่มสภาพคล่องในระบบอย่างต่อเนื่อง รวมถึงระดับมูลค่าของหุ้นจีน FTSE CHINA A50 (ข้อมูล ณ 20 ก.ค. 66) ขณะที่กำไรคาดการณ์ 12 เดือนคาดว่าเติบโตได้ 7.9% ทำให้ภาพรวมเราประเมินว่าตลาดหุ้นจีนในดัชนี FTSE CHINA A50 มี Downside ที่ค่อนข้างจำกัด และมีความน่าสนใจในการลงทุน