สมาคม บลจ.ย้ำมาตรฐานลงทุนตามเกณฑ์ ก.ล.ต. ลุยถกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องปกป้องนักลงทุนเพิ่มในอนาคต เพิ่มระบบแจ้งเตือนนักลงทุนป้องกันการทุจริต จับตางบการเงิน 16 มิ.ย.นี้ จ่อเป็นตัวแทนนักลงทุนฟ้องเรียกร้องความเสียหาย
นางชวินดา หาญรัตนกูล นายกสมาคมบริษัทจัดการลงทุน (Association of Investment Management Companies - AIMC) ในฐานะตัวแทนบริษัทจัดการลงทุนในประเทศไทย กล่าวถึงการลงทุนในบริษัทสตาร์ค คอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) (STARK) ว่า ที่ผ่านมากระบวนการลงทุนของทุก บลจ.มีความรัดกุม โปร่งใส ตามเกณฑ์ข้อบังคับทุกอย่าง โดยข้อมูลที่ได้รับผ่านการตรวจสอบมาแล้วในขณะนั้นทำให้การตัดสินใจอยู่บนพื้นฐานข้อมูลและข้อบังคับจาก ก.ล.ต.อย่างครบถ้วน
นอกจากนี้ สมาคมฯ กำลังหารือกับตลาดหลักทรัพย์ และ ก.ล.ต.เพื่อเสนอแนวทางในการป้องกันเพื่อเพิ่มความเชื่อมั่นและปกป้องอุตสาหกรรมกองทุนรวมรวมถึงนักลงทุนในอนาคต โดยเสนอแนวทางดังนี้ 1 . การพัฒนาเครื่องมือใหม่ๆ ที่จะแจ้งสัญญาณเตือนในการป้องกันเคสทุจริตโกงให้กับนักลงทุนทราบอย่างทั่วกัน 2. การนำเทคโนโลยีมาช่วยประสิทธิภาพในการใช้ข้อมูลจากตลาดทุนในการตรวจสอบได้รัดกุมมากขึ้น
3. การเพิ่มความเข้มข้นในการใช้ประโยชน์จากข้อมูล ESG มาช่วยในการตัดสินใจลงทุนมากขึ้น 4 . ผู้ที่ได้รับใบอนุญาตประกอบธุรกิจหรือการลงทุนต่างๆ จากหน่วยงานกำกับดูแล (ก.ล.ต.) ควรจะต้องมีเกณฑ์การตรวจสอบมากขึ้นหรือไม่อย่างไร แต่การเพิ่มกระบวนการตรวจสอบต่างๆ ต้องไม่เป็นการเพิ่มภาระต้นทุนให้กับรายอื่นๆ ที่ปฏิบัติ 5 . การใช้เครื่องมือในการสกัดข้อมูลไม่เป็นความจริงในโซเชียล
ทั้งนี้ สมาคมฯ ยังมีการติดตามความคืบหน้าการตรวจสอบบัญชีในวันที่ 16 มิ.ย.นี้ด้วย ก่อนจะมีการพิจารณาอีกครั้งว่าจะเป็นตัวแทนฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายแก่นักลงทุนในกรณีเหมือนในต่างประเทศหรือไม่
"เราเป็นนักลงทุนที่ใช้ข้อมูล ซึ่งเรามีการกลั่นกรองข้อมูลของบริษัทจดทะเบียนที่เปิดเผยต่อสาธารณะทั้งตามที่ปรากฏในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยและแหล่งอื่นๆ มีการวิเคราะห์ข้อมูลงบการเงินที่ผ่านการสอบทานจากผู้สอบบัญชีที่
ได้รับอนุญาต ข้อมูลอันดับเครดิตของหุ้นกู้ที่ผ่านการจัดอันดับเครดิตโดยสถาบันจัดอันดับเครดิตที่ได้รับอนุญาต บทวิเคราะห์หลักทรัพย์ และการเข้าร่วมประชุมสามัญและวิสามัญของบริษัทจดทะเบียนเพื่อประกอบการตัดสินใจลงทุนและการบริหารพอร์ตลงทุนของกองทุนรวม"
นางชวินดากล่าวอีกว่า การลงทุนของ บลจ.มีขั้นตอนที่จะต้องผ่านคณะกรรมการจัดการลงทุน (Investment Committee) การกระจายความเสี่ยงในการลงทุน รวมถึงมีคณะกรรมการกำกับดูแลและบริหารความเสี่ยงคอยควบคุมดูแลและตรวจสอบ
นอกจากนี้ อุตสาหกรรมให้ความสำคัญในเรื่องความน่าเชื่อถือและความไว้วางใจที่ได้รับจากผู้ถือหน่วยลงทุนเป็นหลัก มีการปฏิบัติหน้าที่ร่วมกันอย่างมีความรับผิดชอบ
“การลงทุนใน STARK ก็มีกระบวนการทำงานในลักษณะเดียวกัน เมื่อเกิดเหตุการณ์นอกเหนือจากความสามารถในการควบคุม ผู้จัดการกองทุนจะปรับสัดส่วนการลงทุนตามจังหวะที่เหมาะสม ในระดับสมาคม บลจ.มีการรวมตัวกันทำงานร่วมกันเพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูล ความเห็น ติดตามการทำงานของบริษัท ได้มีการส่งหนังสือขอเข้าพบประธานกรรมการ/ผู้บริหารของ STARK ซึ่งเป็นกระบวนการปกติที่ บลจ.ร่วมกันทำ” นางชวินดากล่าว
