xs
xsm
sm
md
lg

อีสท์สปริงแนะสะสมตราสารหนี้โลก ชู 4 กองทุนเด่นคุณภาพดีเข้าพอร์ต

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



นางสาวดารบุษป์ ปภาพจน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน อีสท์สปริง (ประเทศไทย) จำกัด หรือ บลจ.อีสท์สปริง เปิดเผยว่า สัญญาณการลงทุนในตราสารหนี้เริ่มกลับมาน่าสนใจ เนื่องจากที่ผ่านมาตลาดตราสารหนี้ได้สะท้อนถึงการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) แล้ว ขณะเดียวกันคาดว่าเฟดจะเริ่มชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยภายในปีนี้ ทำให้ความเสี่ยงจากการลงทุนในตลาดตราสารหนี้ลดลงไปมาก จึงมองว่าเป็นช่วงที่เหมาะในการกระจายพอร์ตการลงทุนในตราสารหนี้เพิ่มมากขึ้น
 
ปัจจุบัน บลจ.อีสท์สปริงมี 4 กองทุนเด่นที่ลงทุนในกองทุนตราสารหนี้ของ PIMCO ประกอบด้วย กองทุนเปิดทหารไทย Global Income กองทุนเปิดทีเอ็มบี Global Income เพื่อการเลี้ยงชีพ กองทุนเปิดธนชาต อีสท์สปริง GIS Global Bond Fund และกองทุนเปิดทหารไทย Global Bond Fund ซึ่งลงทุนใน 2 กองทุนหลักของ Pacific Investment Management Company (PIMCO) คือ กองทุน PIMCO GIS GLOBAL INCOME FUND และกองทุน PIMCO GIS Global Bond Fund ซึ่งได้รับการจัดอันดับ Morningstar ในระดับ 5 ดาว ณ วันที่ 31 ธ.ค. 65 อย่างไรก็ตาม เนื่องจากกองทุนหลักทั้ง 2 กองทุนมีวัตถุประสงค์การลงทุนที่ต่างกัน ผู้ลงทุนสามารถกระจายสัดส่วนการลงทุนอย่างละครึ่ง เพื่อสร้างสมดุลให้พอร์ตการลงทุนและเพิ่มอัตราผลตอบแทนต่อความเสี่ยงให้ดีขึ้น

โดยกองทุนเปิดทหารไทย Global Income และกองทุนเปิดทีเอ็มบี Global Income เพื่อการเลี้ยงชีพ เน้นลงทุนในกองทุนหลัก PIMCO GIS INCOME FUND มีนโยบายลงทุนในตราสารหนี้หลากหลายประเภททั่วโลก อันดับความน่าเชื่อถือเฉลี่ยอยู่ที่ A+ และอายุเฉลี่ยของตราสารอยู่ที่ 3.6 ปี โดยมีอัตราผลตอบแทน yield to maturity ของตราสารในพอร์ต ณ วันที่ 31 ธ.ค. 65 อยู่ที่ 7.4% (ข้อมูล PIMCO) เหมาะสำหรับผู้ลงทุนที่มีมุมมองเชิงบวกต่อตลาดและสามารถรับความเสี่ยงการลงทุนได้ปานกลาง

ส่วนอีก 2 กองทุน คือกองทุนเปิดธนชาต อีสท์สปริง GIS Global Bond Fund และกองทุนเปิดทหารไทย Global Bond Fund เน้นลงทุนในกองทุนหลัก PIMCO GIS GLOBAL BOND FUND โดยมีนโยบายลงทุนในตราสารหนี้ทั่วโลก เน้นอยู่ในกลุ่มที่เกี่ยวข้องกับภาครัฐและหุ้นกู้ที่ได้รับการจัดอันดับน่าลงทุน investment grade credit เป็นหลัก มีอันดับความน่าเชื่อถือเฉลี่ยอยู่ที่ AA และอายุเฉลี่ยของตราสารอยู่ที่ 5.7 ปี โดยมีอัตราผลตอบแทน yield to maturity ของตราสารในพอร์ต ณ วันที่ 31 ธ.ค. 65 อยู่ที่ 5.8% (ข้อมูล PIMCO) เหมาะสำหรับผู้ลงทุนที่มีความกังวลต่อภาวะตลาดและสามารถรับความเสี่ยงการลงทุนได้ต่ำ

ด้านนาย Naveen Gulati, Senior Vice President and Credit Product Strategist, Pacific Investment Management Company (PIMCO) (ผู้อำนวยการอาวุโสและนักกลยุทธ์ผลิตภัณฑ์ประเภทเครดิต) กล่าวว่า ระดับราคาตราสารหนี้ที่ปรับตัวลดลงถึง 20% ในช่วงปีที่ผ่านมาทำให้มูลค่าของตราสารหนี้ต่างๆ กลับมาอยู่ในระดับที่น่าสนใจมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มตราสารหนี้ระดับลงทุน (Investment Grade) ที่มีอัตราผลตอบแทน (Yield) สูงถึง 5.3% ซึ่งใกล้เคียงกับตราสารหนี้ที่มีความเสี่ยงสูง (High Yield) และตราสารหนี้ตลาดเกิดใหม่ในช่วงก่อนเกิดวิกฤตโควิด-19

“กลยุทธ์การลงทุนของ PIMCO ให้ความสนใจตราสารหุ้นกู้ในกลุ่มธนาคารพาณิชย์ที่ได้รับประโยชน์จากกฎระเบียบที่เข้มงวดบังคับธนาคารต่างๆ มีการปรับความเสี่ยงและปรับเพิ่มอัตราส่วนเงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยง ประกอบกับการที่ดอกเบี้ยปรับขึ้นในช่วงที่ผ่านมา ทำให้ฐานะการเงินของธนาคารพาณิชย์มีความแข็งแกร่งด้วยอัตราส่วนเงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยงในปัจจุบันสูงถึง 13.5% เมื่อเทียบกับ 4.7% ในช่วงปี 2550 ที่เกิดวิกฤตซับไพรม์ ตลอดจนตราสารกลุ่มที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยวและสันทนาการที่ได้รับประโยชน์จากการเปิดเมืองและมีมูลค่าอยู่ในระดับที่น่าสนใจ” นาย Naveen Gulati กล่าว
กำลังโหลดความคิดเห็น