xs
xsm
sm
md
lg

หุ้นไทยและแนวโน้มการลงทุนปี 2023

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



โดย ทีมจัดการลงทุน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ทิสโก้ จำกัด
แม้ว่าการรายงานตัวเลขเงินเฟ้อรายเดือนเริ่มมีแนวโน้มชะลอการปรับขึ้นและถูกคาดการณ์โดยตลาดได้มากขึ้นในช่วงหลัง ส่วนหนึ่งมาจากผลของฐานราคาสินค้าและบริการที่เริ่มสูงขึ้นเมื่อเวลาผ่านไป และอีกส่วนหนึ่งมาจากผลของการเร่งขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารกลางทั้งหลายในช่วงก่อนหน้านี้เพื่อชะลอความร้อนแรงของเศรษฐกิจ โดยเริ่มเห็นการอ่อนตัวลงของตัวเลขเศรษฐกิจชี้นำแล้วส่วนหนึ่งและมีการทยอยปรับลดคาดการณ์การเติบโตของเศรษฐกิจโลกลง อย่างไรก็ตาม ตัวเลขเงินเฟ้อคาดการณ์กลับถูกปรับประมาณการให้สูงขึ้นสวนทางกับเป้าหมายเงินเฟ้อระยะยาวของธนาคารกลางฯ ซึ่งเป็นการสะท้อนถึงภาวะความหนืด (Stickiness) ของเงินเฟ้อในปัจจุบัน

IMF ล่าสุดออกมาปรับลดตัวเลขคาดการณ์การเติบโตของเศรษฐกิจโลกปี 2022 ลงจาก 4.4% ที่ประเมินไว้ในช่วงต้นปี 2022 เหลือ 3.2% เทียบกับอัตราการเติบโตในปีก่อนหน้าที่ราว 6% ก่อนที่จะเติบโตชะลอลงต่อในปี 2023 เหลืออยู่ที่ 2.7% จากเดิมคาดการณ์ที่ 3.8% ขณะที่ในส่วนของเงินเฟ้อนั้นธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) ในเดือนธันวาคมที่ผ่านมาออกมาปรับเพิ่มคาดการณ์ตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐฯ ปีนี้จาก 5.4% ที่ประเมินไว้ในเดือนกันยายนเป็น 5.6% ขณะที่ปรับเงินเฟ้อคาดการณ์ปี 2023 ขึ้นจาก 2.8% เป็น 3.1%

ด้วยสถานการณ์ดังกล่าวแล้วนั้น การดำเนินนโยบายทางการเงินจึงมีแนวโน้มที่จะอยู่ในลักษณะของการแข็งกร้าวต่อไปเพื่อเป็นการสร้างเสถียรภาพของราคาสินค้าและบริการ (Price Stability) ให้เกิดขึ้นในระบบเศรษฐกิจในท้ายที่สุด ซึ่งเป็นหน้าที่สำคัญของธนาคารกลาง บนสมมติฐานเป้าหมายเงินเฟ้อระยะยาวของทั้งธนาคารกลางสหรัฐฯ และธนาคารกลางยุโรป (ECB) ที่ระดับ 2% และคาดว่าการใช้นโยบายดอกเบี้ยในตลาดการเงินจะอยู่ในระดับสูงจนถึงปีหน้าเป็นอย่างน้อย เพื่อเปรียบเทียบกับฐานราคาสินค้าและบริการที่ขึ้นมาสูงแล้วในปีนี้ และส่วนหนึ่งเพื่อกดเงินเฟ้อในสถานการณ์ที่ปัจจัยแวดล้อมหลายอย่างมีความท้าทายในเชิงโครงสร้างต่อเงินเฟ้อ โดยเฉพาะปัญหาภูมิรัฐศาสตร์ระหว่างประเทศและปัญหาห่วงโซ่อุปทานโลกในปัจจุบัน

แม้จะมีความไม่แน่นอนจากปัจจัยนอกประเทศต่างๆ ที่กล่าวมาข้างต้น แต่ตลาดหุ้นไทยนั้นยังมีแรงสนับสนุนที่สำคัญจากการฟื้นตัวหลังภาวะ COVID-19 ของกิจกรรมทางเศรษฐกิจในประเทศที่ยังคงอยู่ในทิศทางเร่งตัวขึ้นในปี 2023 เนื่องจากเป็นวัฏจักรทางเศรษฐกิจที่แตกต่างจากประเทศพัฒนาแล้ว

ธนาคารแห่งประเทศไทยประเมินการเติบโตของ GDP ไทยในปีนี้ที่ระดับ 3.2% และคาดจะเร่งการเติบโตขึ้นสวนทางเศรษฐกิจโลกในปีหน้าเป็น 3.7% สนับสนุนจากผลของการเปิดเมืองเปิดประเทศ โดยเฉพาะจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่อยู่บนสมมติฐานอย่างระมัดระวังว่าจะเพิ่มขึ้นเท่าตัวจากปีนี้ แต่ยังคงต่ำกว่าระดับก่อนเกิดโควิดอยู่ราวครึ่งหนึ่ง นอกจากนี้เศรษฐกิจไทยยังมี Upside จากการเริ่มส่งสัญญาณเปิดประเทศของจีนอย่างเป็นลำดับ อีกหนึ่งจุดแข็งของเศรษฐกิจไทย นั่นคือฐานะทางการเงินที่เข้มแข็งทั้งในระดับบริษัทจดทะเบียนฯ และในเชิงของประเทศที่มีหนี้สินอยู่ในระดับต่ำโดยเปรียบเทียบ ทำให้สามารถจำกัดความเสี่ยงขาลงได้ในภาวะดอกเบี้ยขาขึ้นและเงินเฟ้อ ส่งผลให้ต้นทุนการทำธุรกิจต่ำกว่าคู่แข่งในหลายประเทศและสร้างข้อได้เปรียบในการค้าขายในตลาดโลก

ภาพรวมโดยสรุปแล้วยังคงมีมุมมองในเชิงบวกต่อการลงทุนในหุ้นไทย แม้ว่าเราประเมินเป้าหมายของ SET Index ที่ระดับค่อนข้างจำกัดที่ 1,700 จุดในปี 2023 จากผลของดอกเบี้ยที่ค้างสูงและสภาพคล่องในระบบที่ลดลง แต่ยังมีแรงสนับสนุนที่สำคัญในปีหน้าจากการเติบโตของเศรษฐกิจไทยและผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนที่ยังสดใส ประกอบกับแรงกดดันของเงินเฟ้อที่จะลดลงเมื่อเวลาผ่านไป โดยเน้นลงทุนในกลุ่มที่ได้ประโยชน์จากการเปิดประเทศ รวมถึงกลุ่มที่ได้ประโยชน์ทางอ้อมจากปัญหาห่วงโซ่อุปทานโลก มีความสามารถบริหารจัดการต้นทุนได้ดีและมีความสามารถในการต่อรองกับคู่ค้า โดยให้น้ำหนักการลงทุนมากกว่าตลาดในกลุ่มการท่องเที่ยวและสันทนาการ กลุ่มการแพทย์ กลุ่มพลังงาน กลุ่มธนาคารและสถาบันการเงิน
กำลังโหลดความคิดเห็น