อเบอร์ดีนชี้เงินเฟ้อใกล้จบราคาพลังงานเริ่มลด เชื่อหุ้นปันผลสหรัฐฯ-ยุโรปน่าสนใจ ช่วยสร้างผลตอบแทนฝ่ากระแสเงินเฟ้อได้ เน้นหุ้นกลุ่มโครงสร้างพื้นฐานพลังงานไฟฟ้า และอุปโภคบริโภคที่มีกระแสเงินสดดี พร้อมชูกองทุนเปิด สแตนดาร์ด โกลบอลไดนามิค ดีวิเด็น ฟันด์ ผลงานดี
มร.จอช ดิวทซ์ รองหัวหน้าทีมโกลบอลเอคควิตี้ อเบอร์ดีน เปิดเผยว่า สถานการณ์เงินเฟ้อน่าจะใกล้จุดสูงสุดแล้ว ซึ่งเมื่อดูจากราคาพลังงานโลกที่เริ่มปรับตัวลดลง และในแง่ของการจ้างงานจะเห็นแรงงานกลับเข้ามาทำงานมากขึ้น แต่ต้นทุนการจ้างงานก็ไม่น่าจะสูงขึ้นไปกว่านี้แล้ว โดยทั้งหมดน่าจะส่งผลให้สามารถลดความร้อนแรงของเงินเฟ้อได้ นอกจากนี้ ในช่วงเดือนพฤศจิกายนจะมีการเลือกตั้งกลางเทอมของสหรัฐฯ ซึ่งถ้าดูสถิติย้อนหลังตั้งแต่ปี 1946 จะพบว่าช่วงเวลา 12 เดือนหลังจากนั้นไม่เคยเห็นตลาดปรับตัวลดเลยทำให้แนวโน้มของตลาดหุ้นต่อจากนี้จะปรับขึ้นต่อไปและเป็นผลดีต่อการลงทุน
นอกจากนี้ ความกังวลที่ว่าเงินเฟ้ออาจส่งผลกระทบต่อการชะลอตัวของเศรษฐกิจนั้น คาดว่าเศรษฐกิจจะถดถอยจากการขึ้นอัตราดอกเบี้ยหรือไม่มีโอกาส 50/50 เพราะส่วนใหญ่มองในภาพรวมแบบนั้น แต่สำหรับตนแล้วเชื่อว่าสุดท้ายเงินเฟ้อ กับอัตราจ้างงานที่เพิ่มขึ้นจะทำให้กลับเข้าสู่สภาวะปกติ เมื่อรวมกับราคาพลังงานปรับตัวลงบ้างแล้วก็อาจทำให้ไม่เกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอยได้
ทั้งนี้ จากสถานการณ์ลงทุนในปัจจุบัน การลงทุนที่สามารถสร้างผลตอบแทนสม่ำเสมอโดยเฉพาะในช่วงเงินเฟ้อ น่าจะเป็นกองทุนที่เน้นลงทุนในหุ้นปันผล โดยที่ผ่านมาอเบอร์ดีนมีกองทุนเปิด อเบอร์ดีน โกลบอลไดนามิค ดีวิเด็น ฟันด์ ซึ่งลงทุนในหุ้นเติบโตและหุ้นคุณค่าทั่วโลก ด้วยกลยุทธ์การลงทุนที่แตกต่าง โดยกองทุนหลักมุ่งหวังที่จะมอบโอกาสในการรับผลตอบแทนจากกระแสรายรับเป็นประจำทุกเดือน รวมถึงโอกาสที่จะได้รับผลตอบแทนจากกำไรจากมูลค่าของหุ้นที่เพิ่มขึ้นอีกด้วย
นอกจากนี้ กองทุนสามารถสร้างผลตอบแทนได้อย่างต่อเนื่องแม้จะอยู่ในช่วงการแพร่ระบาดของโควิด การลงทุนในหุ้นที่ปันผลที่ต้ั้งไว้ 5% ถือว่าเป็นระดับที่เหมาะสมแล้ว ขณะที่การลงทุนจะเลือกดูตลาด ซึ่งตอนนี้สหรัฐฯ และยูโรปถือเป็นตลาดที่น่าสนใจ โดยในยุโรปเราจะให้น้ำหนักมากกับตลาดหุ้นเยอรมัน และในกลุ่มธุรกิจที่เกี่ยวข้องสาธารณูปโภคด้านพลังงานหรือโรงไฟฟ้า และกลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภคที่มีกระแสเงินสดดีเป็นหลัก
การลงทุนในกองทุนนี้ถือเป็นทางเลือกที่ดี เนื่องจากบริษัทที่ลงทุนสามารถสร้างรายได้ที่ดีอย่างต่อเนื่องแม้ในภาวะเงินเฟ้อ โดยบริษัทเหล่านี้มีความสามารในการขึ้นราคาสินค้าและจ่ายเงินปันผลได้ในช่วงภาวะเงินเฟ้อ โดยทีมงานกว่า 120 คนทั่วโลกสามาถวิเคราะห์เลือกตัวหุ้นที่ดีที่สุดในการลงทุน ซึ่งจังหวะนี้หากดูภาพการลงทุนปรับตัวดีขึ้นมาเป็นเวลา 10 ปีต่อเนื่อง และการลงทุนจะเป็นการลงทุนระยะยาวเป็นหลัก
หุ้นเติบโตสูง กับหุ้นที่เป็นหุ้นปันผล ซึ่งหุ้นปันผลจะเป็นหุ้นมูลค่ามากกว่า แต่ในตัวพอร์ตของกองทุนนี้เราจะเน้นเรื่องกระแสเงินสดมากกว่าโดยเฉพาะในช่วงโควิด แต่เราก็ไม่ได้มองแม็กโครมากนักจะเน้นในส่วนของบริษัทมากกว่า