xs
xsm
sm
md
lg

ไทยประกันชีวิตโชว์กำไรโตเฉลี่ยทุกปีเกือบ 12% เคาะ IPO 16 บาทลุยดิจิทัล-เสริมแกร่งเงินทุน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ไทยประกันชีวิตเคาะไอพีโอ 16 บาท ระดมทุนกว่า 3.7 หมื่นล้านลุยดิจิทัลเสริมแกร่งเงินทุน "ไชย" รับต้องปรับตัวสู้ดิจิทัล และการเติบโตแบบยั่งยืน พร้อมโชว์ผลงานหรูกำไรโตเฉลี่ยทุกปีเกือบ 12% ปี 64 เบี้ยรวมอันดับ 2 ของอุตสาหกรรมประกันชีวิต

นายไชย ไชยวรรณ กรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) หรือ Thai Life Insurance: TLI เปิดเผยว่า ดิจิทัลดิสรัปชัน และพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไปทำให้เกิดความเปลี่ยนแปลงต่อธุรกิจประกันชีวิต สังคมสูงวัย และช่องทางการจัดจำหน่ายที่หลากหลาย ทำให้บริษัทต้องปรับตัวเพื่อให้คงอยู่ในปัจจุบันและเติบโตอย่างยั่งยืนในอนาคต บริษัทจึงต้องเป็นมากกว่าประกันชีวิต และมุ่งสู่การเป็นทุกคำตอบของการประกันชีวิต การประกันสุขภาพ และการวางแผนการเงินในทุกช่วงชีวิต โดยคนไทยทุกคนจะต้องเข้าถึงไทยประกันชีวิตได้สะดวกยิ่งขึ้น

บริษัทอยากเชิญชวนคนไทยร่วมเป็นส่วนหนึ่งกับไทยประกันชีวิต โดยการนำเสนอขายหุ้นต่อประชาชนทั่วไป ซึ่งเงินทุนที่บริษัทระดมได้จะนำไปพัฒนาเทคโนโลยีด้านดิจิทัล และเสริมความแข็งแกร่งด้านเงินทุนของบริษัทที่มีเงินกองทุนอยู่ที่ 360.75% สูงกว่าที่กำหนดไว้ 140% ให้สามารถขยายธุรกิจและเติบโตได้แบบยั่งยืนในอนาคต โดยเชื่อมั่นว่าความแข็งแกร่งในปัจจุบันจะทำให้นักลงทุนมั่นใจว่าเราเป็นบริษัทจะสร้างผลตอบแทนที่ยั่งยืนให้แก่นักลงทุนทุกท่านได้

สำหรับการเสนอขายหุ้นในครั้งนี้ถือว่ามีมูลค่าเสนอขายสูงที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้นับจากปี 2543 พร้อมกระแสการตอบรับอย่างดีจากนักลงทุนสถาบันชั้นนำทั่วโลก โดยมีนักลงทุนสถาบันคุณภาพที่มีชื่อเสียงทั้งในประเทศและต่างประเทศจำนวนรวม 18 ราย ลงนามในสัญญาลงทุนในหุ้น TLI เพื่อเป็น Cornerstone Investors คิดเป็นจำนวนหุ้นรวม 1,158.4 ล้านหุ้น หรือประมาณร้อยละ 50.0 ของจำนวนหุ้นที่เสนอขายในครั้งนี้ (รวมการจัดสรรหุ้นส่วนเกิน)

ทั้งนี้ บริษัทได้กำหนดราคาเสนอขายหุ้นต่อประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) ที่ 16 บาทต่อหุ้น จำนวนไม่เกิน 2,384.31 ล้านหุ้น โดยเงินที่ได้จากการระดมทุนครั้งนี้ไม่เกิน 34,481.10 ล้านบาท หรือไม่เกิน 37,067.18 ล้านบาทในกรณีรวมหุ้นส่วนเกินหากมีการจัดสรรหุ้นส่วนเกินทั้งจำนวน โดยนักลงทุนสามารถจองซื้อได้ระหว่างวันที่ 29 มิถุนายน-6 กรกฎาคม 2565 นี้ และคาดว่าจะสามารถเข้าจดทะเบียนซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเป็นวันแรกภายในเดือนกรกฎาคมนี้

ด้าน นางวรางค์ ไชยวรรณ กรรมการและรองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า บริษัทไทยประกันชีวิตเป็นแบรนด์ที่มีความเป็นเอกลักษณ์ น่าเชื่อถือ และได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางทั้งในประเทศและต่างประเทศ กลายเป็นจุดแข็งสำคัญที่ทำให้เราได้รับความไว้วางใจ และรักษาความสัมพันธ์กับลูกค้ามาได้อย่างยาวนาน โดย ณ วันที่ 31 มีนาคม 2565 ไทยประกันชีวิตมีกรมธรรม์ที่มีผลบังคับกว่า 4.4 ล้านกรมธรรม์อยู่ในอันดับท็อป 3-4 ติดต่อกันหลายปี ซึ่งปัจจุบันธุรกิจประกันชีวิตมีแนวโน้มการเติบโตที่ดีขึ้นเนื่องจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจและความต้องการของคนไทยด้านความคุ้มครองสุขภาพที่เพิ่มมากขึ้นจากการแพร่ระบาดของโควิด-19

"เศรษฐกิจไทยมีการฟื้นตัว ประชาชกรผู้สูงอายุเพิ่มขึ้นเป็นปัจจัยบวกต่ออุตสาหกรรมประกันชีวิตของไทย ซึ่งยังมีความต้องการความคุ้มครองด้านประกันชีวิตอยู่สูง และมีอัตราการซื้อกรมธรรม์แค่ 3.8% เมื่อเทียบกับประเทศพัฒนาแล้วอย่าง สิงคโปร์ที่มีอยู่ 10.3% ทำให้ยังมีช่องว่างทางการขยายตัวอยู่"

สำหรับผลการดำเนินงานในปี 2564 ไทยประกันชีวิตมีส่วนแบ่งทางการตลาดเมื่อพิจารณาจากเบี้ยประกันภัยรับรวมอยู่ที่ประมาณ 15% เป็นอันดับที่ 2 ในอุตสาหกรรมประกันชีวิต โดยมีรายได้รวม 109,246 ล้านบาท สามารถสร้างกำไรสุทธิ 8,394 ล้านบาท สูงที่สุดเป็นประวัติการณ์ คิดเป็นอัตราการเติบโตเฉลี่ยสะสมต่อปีที่ 11.3% ระหว่างปี 2562-2564 ขณะที่ในไตรมาส 1 ปี 2565 ไทยประกันชีวิตมีรายได้รวม 25,955 ล้านบาท มีกำไรสุทธิ 3,793 ล้านบาท คิดเป็นอัตราการเติบโต 14.7% เทียบกับช่วงไตรมาสเดียวกันของปีก่อนหน้า
กำลังโหลดความคิดเห็น