นางสาวพัชรา ทวีชัยวัฒนะ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานบริหารงานลูกค้า บมจ. อลิอันซ์ อยุธยา ประกันชีวิต กล่าวว่า “ปัจจุบันค่ารักษาพยาบาลสูงขึ้นมากทุกปี และจากรายงานพบว่าสูงจึ้นอีกประมาณ7% โดยไม่เพียงเกิดจากอัตราเงินเฟ้อที่มีผลจากสภาวะเศรษฐกิจ แต่เป็นผลมาจากการพัฒนายาและเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่มีประสิทธิผลในการรักษาสูงขึ้นด้วย โดยเฉพาะโรคร้าย เช่น โรคมะเร็ง โรคเกี่ยวกับหัวใจ และโรคเกี่ยวกับหลอดเลือดสมอง ซึ่งมีค่ารักษาพยาบาลหลักล้าน
ทั้งนี้ อลิอันซ์ อยุธยา ประกันชีวิต ตระหนักถึงแนวโน้มของค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นจากโรคเหล่านี้เป็นอย่างดี และมองเห็นว่าแบบประกันสุขภาพเหมาจ่ายในแบบเดิมๆ อาจจะไม่ครอบคลุมการรักษาพยาบาลที่มีคุณภาพสูงในปัจจุบันอีกต่อไป เราจึงได้ออกแบบประกันสุขภาพเหมาจ่ายล่าสุด “ดับเบิลแคร์” ที่ให้ความคุ้มครองที่สูงกว่า และยังให้ความคุ้มครองถึงสองเท่าหากเป็น 1 ใน 10 โรคร้ายแรงตามที่กรมธรรม์กำหนด”
สำหรับประกันสุขภาพ ปลดล็อค “ดับเบิลแคร์” เป็นผลิตภัณฑ์ประกันสุขภาพเหมาจ่ายตัวใหม่ล่าสุดที่ให้สิทธิประโยชน์แก่ลูกค้ามากกว่าเดิม ให้ความคุ้มครองนานถึงอายุ 90 ปี มีทั้งหมด 3 แผน ประกอบด้วย แผน 1 วงเงินผลประโยชน์ ต่อรอบปีกรมธรรม์ 8 ล้านบาท แผน 2 15 ล้านบาท และแผน 3 30 ล้านบาทต่อรอบปีกรมธรรม์ และวงเงินผลประโยชน์จะเพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่า จาก 8 ล้าน เป็น 16 ล้านบาท จาก 15 ล้าน เป็น 30 ล้านบาท และจาก 30 ล้าน เป็น 60 ล้านบาทต่อรอบปีกรมธรรม์ เมื่อได้รับการวินิจฉัยและยืนยันว่าเป็น 1 ใน 10 โรคร้ายแรงตามที่กำหนดในกรมธรรม์เป็นครั้งแรก อันได้แก่ กล้ามเนื้อหัวใจตายเฉียบพลันจากการขาดเลือด การผ่าตัดเส้นเลือดเลี้ยงกล้ามเนื้อหัวใจ การผ่าตัดลิ้นหัวใจโดยวิธีการเปิดหัวใจ โรคหลอดเลือดสมองโป่งพองที่ต้องรักษาโดยการผ่าตัด โรคหลอดเลือดสมองแตกหรืออุดตัน โรคมะเร็งระยะลุกลาม การผ่าตัดเปลี่ยนอวัยวะหรือปลูกถ่ายไขกระดูก การผ่าตัดเส้นเลือดแดงใหญ่เอออร์ตา การผ่าตัดกระดูกสันหลังคดโดยไม่ทราบสาเหตุ แผลไหม้ฉกรรจ์
สำหรับประกันแผนนี้ สามารถสมัครได้ตั้งแต่อายุ 1 เดือน 1 วัน ถึง 70 ปี (ต่ออายุสัญญาได้ถึงอายุ 89 ปี คุ้มครองถึงอายุ 90 ปี) ซึ่งเป็นสัญญาเพิ่มเติมสุขภาพที่ถูกพัฒนาขึ้นเพื่อตอบโจทย์ลูกค้ามากขึ้น ไม่เพียงแต่ให้สิทธิการเบิกจ่ายตามจริงที่มากกว่าเดิมเมื่อต้องเข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาล เช่น ค่าผ่าตัด ค่าเครื่องมือแพทย์ ค่าวางยาสลบ ค่ารถพยาบาล และความคุ้มครองผู้ป่วยนอก เช่น ค่ารักษาพยาบาลโดยการผ่าตัดเล็ก ค่ารักษาพยาบาลกรณีอุบัติเหตุฉุกเฉินที่รักษาภายใน 24 ชั่วโมง แต่ยังดูแลต่อเนื่องหลังออกจากโรงพยาบาล เช่น ค่าเวชศาสตร์ฟื้นฟู กายภาพบำบัด ค่าหมอนัด follow up อาการ ล้างแผล และตัดไหม พร้อมมอบสุขภาพดีให้แก่ลูกค้าด้วยการดูแลเชิงป้องกัน ด้วยค่าวัคซีนและค่าตรวจสุขภาพ สูงสุด 5,500 บาทต่อรอบปีกรมธรรม์
นางสาวพัชรากล่าวอีกว่า การแพร่ระบาดของโควิด-19 ในช่วงที่ผ่านมาส่งผลให้คนไทยหันมาสนใจสุขภาพมากขึ้น และแบบประกันสุขภาพแบบเหมาจ่ายตอบโจทย์ความต้องการและเป็นที่นิยมจากผู้เอาประกันในระดับสูง โดยที่ผ่านมาประกัน สุขภาพ ปลดล็อค “ดับเบิลแคร์” ทำการเปิดขายไปแล้วประมาณ 1 เดือนมีเบี้ยประกันภัยอยู่ที่ประมาณ 50-60 ล้านบาท และคาดว่าทั้งปีแบบประกันนี้จะมีเบี้ยรับรวมอยู่ที่ประมาณ 450 ล้านบาทได้
และเพื่อเป็นการกระตุ้นให้ประชาชนเห็นถึงความสำคัญของการทำประกัน รวมถึงสร้างการรับรู้เกี่ยวกับแบบประกัน “สุขภาพ ปลดล็อค ดับเบิลแคร์” บริษัทฯ ได้สร้างสรรค์หนังโฆษณาภายใต้แนวคิด “เรื่องสุขภาพ ต้องห้ามพลาด” โดยมุ่งสร้างความน่าสนใจผ่านการนำเสนอในรูปแบบการรีวิวสินค้า ที่กำลังเป็นกระแสที่คนไทยนิยม 3 เรื่อง ได้แก่ รีวิวนาฬิกา ที่หลายคนมองการซื้อนาฬิกาเป็นการลงทุน ในบริบทเดียวกัน การซื้อประกันก็เป็นการลงทุน เพราะลงทุนเบี้ยประกันเพียงนิดเดียวเมื่อเทียบกับความคุ้มครองค่าใช้จ่ายโรคร้ายแรงได้สูงกว่าหลายเท่านัก รีวิวอสังหาริมทรัพย์ ให้เห็นภาพของการรับบริการในโรงพยาบาลที่มีเทคโนโลยีชั้นสูงในการรักษา โดยเฉพาะหากเป็นโรคร้ายแรงค่าใช้จ่ายต่อการรักษาก็จะสูงขึ้น ซึ่งถ้าลูกค้ามีแบบประกันดับเบิลแคร์ก็ไม่ต้องกังวลค่ารักษา และรีวิวบัตรเครดิต ที่เปรียบเทียบวงเงินประกัน เหมือนวงเงินบัตรเครดิต ที่ลูกค้าจะได้วงเงินเพิ่มเป็นสองเท่า เมื่อมีความจำเป็นการใช้เช่นการเป็นโรคร้ายแรง โดยหนังโฆษณาทั้ง 3 เรื่องนี้ ถือเป็นการฉีกรูปแบบจากการโฆษณาในแบบเดิมๆ ของประกันสุขภาพ ที่เชื่อว่าจะสร้างความน่าสนใจให้แก่ผู้ชมได้เป็นอย่างดี หนังโฆษณาชุดนี้จะถูกเผยแพร่ผ่านช่องทางออนไลน์ โดยได้ คุณปภพ เชาวนปรีชา Deputy Executive Creative Director บริษัท Rabbit’s Tale เป็นผู้คิดคอนเซ็ปต์แคมเปญครั้งนี้
“หนังโฆษณาชุดนี้จะสร้างความน่าสนใจให้แก่ประกันสุขภาพดับเบิลแคร์ได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะอย่างยิ่งในท่ามกลางสภาวะปัจจุบันที่ภาวะเงินเฟ้อค่ารักษาพยาบาลเพิ่มสูงขึ้น การเกิดขึ้นของโรคอุบัติใหม่ และไลฟ์สไตล์ที่นำไปสู่การเกิดโรคร้ายต่างๆ มากมาย เราเชื่อเป็นอย่างยิ่งว่า ทั้งหมดนี้จะเป็นตัวกระตุ้นให้เกิดยอดขาย” นางสาวพัชรากล่าวทิ้งท้าย