สมาคมบริษัทจัดการลงทุน (สมาคมฯ) ได้ส่งหนังสือสอบถามเรื่องที่สำนักงาน ก.ล.ต. ได้ใช้มาตรการลงโทษทางแพ่งกับผู้กระทำความผิด 9 รายกรณีซื้อหุ้นบริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) (TU) โดยอาศัยข้อมูลภายใน เปิดเผยข้อมูลภายใน และช่วยเหลือการกระทำความผิด ในช่วงเดือนตุลาคม - พฤศจิกายน 2560 ถึง TU โดยขอให้เปิดเผยมาตรการแก้ไขเหตุการณ์ในครั้งนี้ รวมถึงมาตรการป้องกันมิให้เกิดกรณีเช่นนี้ขึ้นอีก เพื่อเป็นการแสดงออกอย่างชัดเจนถึงการยึดมั่นในหลักธรรมาภิบาลของบริษัทฯ โดยมีรายละเอียดตามแนบ
ตามที่สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (สำนักงาน ก.ล.ต.) เปิดเผยการดำเนินคดีด้วยมาตรการลงโทษทางแพ่งกับผู้กระทำความผิด 9 รายในกรณีซื้อหุ้น บมจ.ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป (TU) โดยใช้ข้อมูลวงใน หรือเปิดเผยข้อมูลวงใน หรือสนับสนุนการกระทำความผิดแก่บุคคลอื่น และสำนักงาน ก.ล.ต. ได้เรียกให้ชำระค่าปรับทางแพ่งพร้อมทั้งกำหนดระยะเวลาห้ามบุคคลทั้ง 9 รายเป็นกรรมการหรือผู้บริหาร ความทราบแล้วนั้น
สมาคมบริษัทจัดการลงทุน (สมาคมฯ) โดยคณะอนุกรรมการนโยบาย ESG Policy & Collective Action Committee ซึ่งประกอบด้วยผู้แทนจากบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ที่ทำหน้าที่เป็นผู้จัดการกองทุน ได้ติดตามประเด็นดังกล่าวด้วยความกังวลเป็นอย่างยิ่ง เนื่องจากมีผลกระทบต่อความโปร่งใสและธรรมาภิบาลในการประกอบธุรกิจของ TU ซึ่งเป็นบริษัทชั้นนำในเรื่องของ ESG โดยสมาคมฯ หวังว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงกรรมการและผู้บริหารทั้ง 9 ราย ตามที่ ก.ล.ต. กำหนดโทษ เพื่อมิให้ TU ได้รับผลกระทบจากความเชื่อมั่นในการลงทุน
อย่างไรก็ดี ปรากฏว่าหลังจากการประชุม AGM ของ TU ครั้งล่าสุดนี้ ทางบริษัทยังมิได้มีการเปลี่ยนแปลงกรรมการหรือผู้บริหารที่ถูกกล่าวโทษแต่ประการใด สมาคมฯ จึงขอรับทราบว่า TU จะมีการสนองตอบต่อการกล่าวโทษของสำนักงาน ก.ล.ต. อย่างไร และหากจะยอมรับโทษ จะมีกำหนดเวลาเปลี่ยนแปลงกรรมการและผู้บริหารที่ถูกกล่าวโทษเมื่อใด
ทั้งนี้ สมาคมฯ ยังเชื่อมั่นว่า TU จะยังคงความเป็นบริษัทที่มีธรรมาภิบาล พร้อมจะแก้ไขสิ่งที่ผิดพลาดไปโดยเร็ว เพื่อรักษาบรรทัดฐานที่ดีและให้ผู้ลงทุนทั้งหลายยังคงรักษาความเชื่อมั่นในตัวบริษัทได้อย่างที่เคยเป็น
ทั้งนี้ มีการลงชื่อขอแสดงความนับถือ โดย(นางวรวรรณ ธาราภูมิ)ประธานคณะอนุกรรมการนโยบาย ESG Policy & Collective Actionและประธานกรรมการกิตติมศักด์ สมาคมบริษัทจัดการลงทุน
