นางปาจรีย์ บุณยัษฐิติ รองกรรมการผู้จัดการ สายงานพัฒนาธุรกิจ ธุรกิจกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ และกองทุนส่วนบุคคล บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน พรินซิเพิล จำกัด เปิดเผยว่า นับตั้งแต่จัดตั้งกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ พรินซิเพิล สมดุลตามอายุ ซึ่งจดทะเบียนแล้ว (The Registered Provident Fund of Principal Target Date Retirement) ตั้งแต่ไตรมาส 3 ปี 2557 ถึงปัจจุบัน บลจ.พรินซิเพิลได้รับการตอบรับที่ดีจากบริษัทนายจ้างเป็นจำนวนมาก ปัจจุบันมีขนาดกองทุนเกือบ 10,000 ล้านบาท มีจำนวนนายจ้างรวม 285 บริษัท รวมถึงสมาชิกทั้งหมด 31,977 ราย โดยแผนการลงทุนแบบ Target Date ถูกออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์สมาชิกที่มีปีเกษียณแตกต่างกัน ตั้งแต่สมาชิกที่เริ่มทำงานจนถึงวัยใกล้เกษียณ สมาชิกเลือกแผนการลงทุนตามปีที่ตนเองจะเกษียณอายุ จากนั้นผู้จัดการกองทุนจะทำหน้าที่คัดเลือกสินทรัพย์ประเภทต่างๆ (asset class selection) พร้อมจัดพอร์ตในระยะยาว (Strategic Asset Allocation) วางกลยุทธ์ในการปรับพอร์ตในระยะสั้นตามภาวะตลาด (Tactical Asset Allocation) และปรับสมดุลให้กับพอร์ตการลงทุนของสมาชิก ด้วยการทำ rebalancing และดูแลปรัปบพอร์ตให้กับสมาชิกให้เหมาะสมกับวัยที่เพิ่มขึ้นและการยอมรับความเสี่ยงที่ลดลงของสมาชิกตลอดทางจนสมาชิกเกษียณอายุ
นอกจากนี้ เรายังมีแผนการลงทุนสำหรับสมาชิกที่เกษียณอายุแล้ว แต่ไว้วางใจฝากเงินให้ดูแลเงินต่อให้ โดยจัดพอร์ตให้เหมาะสมกับสมาชิกที่เกษียณอายุแล้วด้วย สร้างความพึงพอใจให้แก่กรรมการกองทุนและสมาชิกเป็นอย่างมาก
ขณะเดียวกัน บลจ.พรินซิเพิลประสบความสำเร็จในการบริหารจัดการกองทุน โดยได้รับคัดเลือกรับรางวัลชนะเลิศประเภท Pooled Fund ที่มีขนาดกองทุนต่ำกว่า 1 หมื่นล้านบาท จากโครงการประกวดกองทุนสำรองเลี้ยงชีพดีเด่น 3 ปีติดต่อกัน (ปี 2560-2562) และได้รับรางวัลรองชนะเลิศในปี 2563 (ประกาศผลปี 2564) ซึ่งรางวัลดังกล่าวสะท้อนถึงความเชี่ยวชาญและประสิทธิภาพในการบริหารกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ
ทั้งนี้ บลจ.พรินซิเพิลถือเป็นบริษัทจัดการแห่งแรกในประเทศไทยที่จัดตั้งกองทุนสำรองเลี้ยงชีพที่มีนโยบายสมดุลตามอายุ (Target Date Retirement Fund) โดยมี Track record ในการดำเนินการมากกว่า 5 ปี มีจุดเด่นในเรื่องนโยบายการลงทุนที่หลากหลายให้สมาชิกเลือก แบ่งเป็น Target Date 6 นโยบาย สำหรับสมาชิก 6 กลุ่ม ตามช่วงอายุและระดับความเสี่ยงที่เหมาะสมครอบคลุมตั้งแต่วัยเริ่มต้นทำงานจนถึงวัยเกษียณ โดยมีผู้จัดการกองทุนเลือกผสมสัดส่วนการลงทุน ทำหน้าที่ปรับพอร์ตให้เหมาะสมกับช่วงอายุของสมาชิก เน้นกระจายการลงทุนในหลากหลายสินทรัพย์ ได้แก่ ตราสารหนี้ ตราสารทุนไทย ตราสารทุนต่างประเทศ อสังหาริมทรัพย์และทองคำ
“สมาชิกสามารถเลือกแผนการลงทุนตามปีเกษียณของตนเองเพียงครั้งแรกครั้งเดียว ไม่ต้องสับเปลี่ยนแผนการลงทุนเอง จากนั้นจะมีผู้จัดการกองทุนคอยดูแลปรับสัดส่วนการลงทุนให้อัตโนมัติ และเมื่อสมาชิกเกษียณอายุแล้วยังมีแผนการลงทุนแบบ Target Date Post Retirement เพื่อรองรับอีกด้วย นอกจากนี้ สมาชิกที่มีความชำนาญด้านการจัดสัดส่วนการลงทุน ยังมีแผน Target Risk อีก 8 นโยบาย ให้สามารถเลือกผสมสัดส่วนการลงทุนด้วยตนเอง” นางปาจรีย์กล่าว