xs
xsm
sm
md
lg

อีสท์สปริงเปิดกองลุยหุ้นเทคน้องใหม่จีน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



นายอดิศร เสริมชัยวงค์ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ทหารไทย จำกัด (TMBAM Eastspring) และบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ธนชาต จำกัด  (Thanachart Fund Eastspring) เปิดเผยว่า แม้ในปีนี้การลงทุนในกองทุนหุ้นต่างประเทศในช่วงตั้งแต่เดือนมีนาคมจะค่อนข้างมีความผันผวนทำให้ผู้ลงทุนอาจรู้สึกไม่มั่นใจไปบ้าง แต่เราไม่สามารถปฏิเสธได้ว่าการกระจายการลงทุนไปต่างประเทศ เป็นการเพิ่มโอกาส เพิ่มทางเลือก และเพิ่มความยืดหยุ่นให้กับพอร์ตลงทุน ประกอบกับปัจจุบันบริษัทหรืออุตสาหกรรมที่เป็นเทรนด์เปลี่ยนโลก โดยเฉพาะที่เกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนแปลงรูปแบบการใช้ชีวิตยุคใหม่นั้นยังไม่มีในประเทศไทย ดังนั้นเพื่อโอกาสที่ดีของผู้ลงทุนจึงมีความจำเป็นที่ต้องมีการขยายการลงทุนไปต่างประเทศบ้าง

“ผมมีความเชื่อว่าปัจจุบันเราเป็นพลเมืองโลก (Global Citizen) เราควรมีการกระจายลงทุนไปต่างประเทศสร้างพอร์ตการลงทุนที่ครอบคลุมทั่วโลก (Global Portfolio) เพื่อไม่ให้เราจำกัดโอกาสแค่เพียงในประเทศเท่านั้น เราต้องมีโอกาสที่จะได้รับผลตอบแทนจากการลงทุนได้เท่าเทียมกับคนทั่วโลก (Global Opportunity) และเราในฐานะที่เป็นบริษัทจัดการลงทุน ก็มีหน้าที่สำคัญที่จะหาโอกาสจากทั่วโลกมาให้ผู้ลงทุนไทยให้ได้”

สำหรับเทคโนโลยีและนวัตกรรมความล้ำอนาคตต่างๆ นั้น เมื่อก่อนสหรัฐอเมริกาอาจเป็นผู้นำแต่เพียงผู้เดียว โดยมีฐานผลิตค้นคว้าวิจัย เช่นใน “Silicon Valley” ที่มีบริษัทด้านเทคโนโลยีมีชื่อเสียงระดับเทรนด์เปลี่ยนโลกมากมาย ไม่ว่าจะเป็น Google, Facebook หรือ Amazon

อย่างไรก็ตาม ในปัจจุบันเราเริ่มเห็นได้ว่า ประเทศจีนเองได้มีบริษัทเทคโนโลยีระดับโลกมากมาย ไม่ว่าจะเป็น Baidu, Alibaba หรือ Tencent ที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงรูปแบบการใช้ชีวิตของคนจีนไปอย่างมาก ธุรกิจด้านเทคโนโลยีของจีนนับจากนี้มีโอกาสเติบโตแบบก้าวกระโดด เพราะการดำเนินนโยบายของรัฐบาลจีน (Made in China 2025 หรือ Industry 4.0) ซึ่งเป็นยุทธศาสตร์ที่มุ่งพัฒนาให้จีนใช้นวัตกรรมเทคโนโลยีเข้ามามีส่วนในการผลิตสินค้าและผลิตภัณฑ์ต่างๆ ให้มีคุณภาพมากยิ่งขึ้น รวมถึงการเปิดตลาดหุ้น SSE science and technology innovation board หรือ STAR Market ในปี 2019 โดย STAR Market นั้นเป็นส่วนหนึ่งของตลาดหลักทรัพย์เซี่ยงไฮ้ ที่มีบริษัทจดทะเบียนแนวเทคโนโลยีที่คล้ายกับตลาดหุ้น NASDAQ ของสหรัฐฯ โดยมีความมุ่งหวังว่าตลาดนี้จะช่วยส่งเสริมให้ภาคอุตสาหกรรมนวัตกรรมเทคโนโลยีของจีนมีการพัฒนาอย่างก้าวกระโดด

ความพิเศษของดัชนี SSE STAR 50 คือการออกแบบให้บริษัทของจีนที่ยังมีขนาดเล็กแต่มีอนาคตเติบโตสูงสามารถเข้ามาจดทะเบียนและมีน้ำหนักในการคำนวณดัชนีได้ และพบว่าในเวลาเพียง 1 ปีหลังเปิดตัว มีบริษัทเข้าสู่ตลาด STAR Market ถึง 200 บริษัท และสามารถระดมเงินได้ถึง 4.4 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ โดยกลุ่มเทคโนโลยีที่สามารถจดทะเบียนใน STAR INDEX นั้น ได้แก่ กลุ่ม IT เซมิคอนดักเตอร์, อุปกรณ์ชั้นสูง, วัสดุ& พลังงานในรูปแบบใหม่ๆ, สิ่งแวดล้อม และวิทยาศาสตร์ทางการแพทย์ ซึ่งในส่วนของความเสี่ยงด้านราคาที่แท้จริงจากการลงทุนในตลาดหุ้น STAR Market นั้น มีการกำหนดหลักเกณฑ์คุณภาพสำหรับผู้ลงทุนว่าจะต้องมีสินทรัพย์ขั้นต่ำในบัญชีการซื้อขายหุ้นใน A-Share 5 แสนหยวน และมีประสบการณ์ซื้อขายหุ้นไม่ต่ำกว่า 2 ปีเพื่อลดความผันผวนลงด้วยเช่นกัน

TMBAM Eastspring มองเห็นโอกาสลงทุนในจีนโดยเฉพาะในบริษัทเทคโนโลยีน้องใหม่ของจีนที่มีโอกาสเติบโตอย่างก้าวกระโดด จึงเปิดขายกองทุน TMB EASTSPRING STAR50 Chinese Technology หรือ TMB-ES-STARTECH ระหว่างวันที่ 31พฤษภาคม-8 มิถุนายน 2564 ลงทุนขั้นต่ำ 1 บาท โดยมีโปรโมชันพิเศษเฉพาะช่วง IPO ลงทุนทุกๆ 1,000,000 บาท รับเงินลงทุนพิเศษกองทุนเปิดทหารไทยธนบดี 1,000 บาท หากลงทุนตามเงื่อนไข

โดยกองทุนจะเน้นลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุน KraneShares SSE STAR Market 50 Index ETF ซึ่งเป็นกองทุนหลักเพียงกองทุนเดียว โดยกองทุนหลักจะลงทุนใน Shanghai Stock Exchange (SSE) Science and Technology Innovation Board 50 Index หรือที่รู้จักกันในนาม STAR Market

สำหรับสัดส่วนกลุ่มเทคโนโลยีในดัชนี STAR Market นั้น กลุ่มอุตสาหกรรมที่น่าสนใจ อาทิ กลุ่มเซมิคอนดักเตอร์ (Semiconductor) ซึ่งนับเป็นวัตถุดิบต้นน้ำเป็นส่วนสำคัญของการผลิตสินค้าเทคโนโลยีล้ำสมัยต่างๆ นั้นมีสัดส่วนอยู่ค่อนข้างสูงมากในปัจจุบัน ซึ่งกลุ่มนี้ได้รับประโยชน์จากวิกฤตชิปเซมิคอนดักเตอร์ขาดตลาดที่สร้างผลกระทบไปทั่วโลก เราก็จะเห็นว่าจีนเองก็มองเห็นความสำคัญกลุ่มเซมิคอนดักเตอร์อย่างมาก มีการตั้งกองทุนสนับสนุนการพัฒนาเซมิคอนดักเตอร์มูลค่า 2.89 หมื่นล้านดอลลาร์ และตั้งเป้าหมายผลิตเซมิคอนดักเตอร์เพื่อใช้ในประเทศให้ถึง 70% ภายในปี 2025 และสามารถทดแทนยอดการนำเข้าทั้งหมดให้ได้ภายในปี 2030 รวมไปถึงยังงดเว้นภาษีธุรกิจเซมิคอนดักเตอร์เป็นเวลา 10 ปีอีกด้วย
กำลังโหลดความคิดเห็น