xs
xsm
sm
md
lg

ทิสโก้โชว์ผลตอบแทนลูกค้าเวลธ์ 5 กองเมกะเทรนด์ มีโอกาสรับรีเทิร์นเฉลี่ย 65.71%

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ทิสโก้เปิดผลตอบแทนลูกค้าเวลธ์ปี 63 ชี้มีโอกาสรับรีเทิร์นเฉลี่ย 65.71% ใน 1 ปี หากลงทุนใน 5 กองทุนเมกะเทรนด์ที่แนะนำ พร้อมเปิดโผกองทุนเมกะเทรนด์ยอดนิยมของลูกค้าเวลธ์

นางวรสินี เศรษฐบุตร ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายพัฒนาผลิตภัณฑ์ สายธุรกิจธนบดี ธนาคารทิสโก้ (TISCO) เปิดเผยว่า แม้ภาพรวมการลงทุนในปี 2563 จะยากลำบาก แต่ด้วยกลยุทธ์การลงทุนของธนาคารทิสโก้ที่มุ่งเน้นให้คำแนะนำแก่ลูกค้าเวลธ์ ด้วยการเลือกลงทุนในกองทุนที่เกี่ยวข้องกับหุ้นเมกะเทรนด์แทนการกระจายสินทรัพย์การลงทุนไปยังรายประเทศนั้น ส่งผลให้ในช่วง 1 ปีที่ผ่านมาพบว่าหากลูกค้าลงทุนใน 5 กองทุนเมกะเทรนด์ตามคำแนะนำของธนาคารทิสโก้จะมีโอกาสรับผลตอบแทนเฉลี่ย 65.71% และมีโอกาสได้รับผลตอบแทนที่ดีกว่าการลงทุนในหุ้นไทยประมาณ 74.89% เนื่องจากในช่วงเวลาเดียวกันดัชนีหุ้นไทยซึ่งไม่มีความเสี่ยงเรื่องอัตราแลกเปลี่ยน และมีความเสี่ยงระดับ 6 (เสี่ยงสูง) ให้ผลตอบแทนติดลบ 9.18%

“จากบริการการให้คำแนะนำกองทุนคุณภาพหลากหลายจาก บลจ.ชั้นนำ (Open Architecture) ประกอบกับมีมุมมองการลงทุน (House View) และทีมที่ปรึกษาการลงทุนที่เป็นของทิสโก้เอง ทำให้เราสามารถเลือกนำเสนอกองทุนที่มีโอกาสสร้างผลตอบแทนที่ดีให้แก่ลูกค้าได้ โดยไม่ต้องยึดติดกับ บลจ.ค่ายใดค่ายหนึ่ง จึงเป็นส่วนหนึ่งทำให้ลูกค้าเวลธ์ของธนาคารทิสโก้มีโอกาสสร้างรีเทิร์นได้เฉลี่ย 65.71% ในปีที่ผ่านมา” นางวรสินีกล่าว

สำหรับกองทุนเมกะเทรนด์ที่รับความนิยมจากลูกค้าเวลธ์ของธนาคารทิสโก้มากที่สุดในปี 2563 คือ กองทุนเปิด ทิสโก้ Next Generation Internet (TNEXTGEN) ความเสี่ยงระดับ 6 (เสี่ยงสูง) กองทุนรวมตราสารทุน เน้นลงทุนในหุ้นของบริษัทที่มีธุรกิจเกี่ยวข้องกับธีม Next Generation Internet โดยมีเม็ดเงินไหลเข้าประมาณ 3,965.99 ล้านบาท สาเหตุที่กองทุนนี้ได้รับความนิยมจากลูกค้ามากอาจเพราะลูกค้าเห็นว่ากองทุนนี้ได้กระจายการลงทุนไปยังธุรกิจอินเทอร์เน็ตที่เป็นอนาคตของโลกหลากหลายประเภทที่จะเข้ามาพลิกโฉมบริการและสินค้าให้เข้าสู่โลกยุคใหม่ และอาจเข้ามาแทนที่ธุรกิจดั้งเดิม ขณะที่อัตราการเติบโตของหุ้นแต่ละตัวที่กองทุนหลักเข้าไปลงทุนนั้นก็มีความน่าสนใจ

ส่วนกลยุทธ์การลงทุนที่ธนาคารทิสโก้เตรียมแนะนำลูกค้าเวลธ์ในปี 2564 นั้น ทีมที่ปรึกษาการเงินทิสโก้เชื่อมั่นว่าหุ้นกลุ่มเมกะเทรนด์จะยังสร้างผลตอบแทนที่ดีในระยะยาวได้ แต่สำหรับการลงทุนระยะสั้นถึงระยะกลางจำเป็นจะต้องปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ไปตามสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ดังนั้น ในช่วงเดือนมกราคม 2564 ธนาคารทิสโก้จะเริ่มแนะนำกลยุทธ์การลงทุนใหม่เพื่อให้ลูกค้าคนสำคัญไม่พลาดทุกโอกาสการลงทุน

ทั้งนี้ รายชื่อกองทุนเมกะเทรนด์ 5 กองทุนที่แนะนำในปี 2563 ได้แก่ 1. กองทุนเปิด ทิสโก้ โกลบอล ดิจิตอล เฮลธ์ อิควิตี้ (TGHDIGI) ความเสี่ยงระดับ 7 (เสี่ยงสูง) เน้นลงทุนในบริษัทที่ใช้นวัตกรรมและเทคโนโลยีในการนำเสนอผลิตภัณฑ์หรือบริการทางการแพทย์ (Digital Health) 2. กองทุนเปิด ทิสโก้ ไบโอเทคโนโลยี เฮลธ์แคร์ (TBIOTECH) ความเสี่ยงระดับ 7 (เสี่ยงสูง) เน้นลงทุนในหุ้นของบริษัทที่ดำเนินธุรกิจเกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีชีวภาพ (Biotechnology) การวินิจฉัยโรค และเครื่องมือทางวิทยาศาสตร์ที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินชีวิต 3. กองทุนเปิด ยูไนเต็ดเอ็ดดูเคชั่น เทคโนโลยี ฟันด์ (UEDTECH) ความเสี่ยงระดับ 6 (เสี่ยงสูง) เน้นลงทุนในธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการศึกษา ประกอบด้วยผู้ผลิตหรือจัดทำข้อมูลด้านการศึกษา แพลตฟอร์มและการนำเสนอข้อมูล รวมไปถึงระบบโครงสร้างพื้นฐาน และอุปกรณ์ต่างๆ 4. กองทุนเปิด วรรณ โกบอล อีคอมเมิร์ซ (ONE-GECOM) ความเสี่ยงระดับ 6 (เสี่ยงสูง) มีนโยบายเน้นลงทุนในหุ้น และ/หรือกองทุนรวม ETF ทั่วโลกที่ลงทุนในกิจการที่มีรายได้หรือได้รับประโยชน์จากช่องทางจำหน่ายผ่านออนไลน์ทั้งทางตรงและทางอ้อม และ 5. กองทุนเปิด ทิสโก้ Cloud Computing อิควิตี้ (TCLOUD) ความเสี่ยงระดับ 7 (เสี่ยงสูง) กองทุนรวมตราสารทุน ที่เน้นลงทุนในบริษัทที่ได้รับประโยชน์จากการใช้เทคโนโลยี Cloud Computing

อย่างไรก็ตาม กองทุน TGHDIGI TBIOTECH และ TCLOUD ลงทุนกระจุกตัวในหมวดอุตสาหกรรม จึงมีความเสี่ยงที่ผู้ลงทุนอาจสูญเสียเงินลงทุนจำนวนมาก นอกจากนี้ กองทุน TGHDIGI TBIOTECH UEDTECH และ TCLOUD อาจมีความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนจากการลงทุนในต่างประเทศ ซึ่งกองทุนมีนโยบายป้องกันความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนตามดุลยพินิจผู้จัดการกองทุน ส่วนกองทุน ONE-GECOM ป้องกันความเสี่ยงบางส่วน (ไม่น้อยกว่า 80% ของมูลค่าเงินลงทุนในต่างประเทศ)
กำลังโหลดความคิดเห็น