xs
xsm
sm
md
lg

ยูโอบีชี้หุ้นไทยปีหน้า1500 ชูลงทุนจีน-นวัตกรรม-สุขภาพหักภาษี

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



บลจ.ยูโอบีชี้หุ้นปีหน้ายังน่าลงทุนแต่อัพไซด์น้อยต้องเน้นรายตัว คาดดัชนีหุ้นไทยอยู่ในกรอบ1,300-1,500จุด แนะกระจายลงทุนต่างประเทศเพิ่มผ่านกองหักภาษี ชูเอเชีย-จีนและธีมลงทุนนวัตกรรม สุขภาพแนวโน้มโตต่อ

นายกุลฉัตร จันทวิมล รองกรรมการผู้จัดการ และหัวหน้าหัวหน้าฝ่ายกลยุทธ์และพัฒนาผลิตภัณฑ์การลงทุน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน(บลจ.)ยูโอบี (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า
กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า การลงทุนในระยะข้างหน้ายังมองหุ้นยังมีความน่าสนใจมากกว่าตลาดตราสารหนี้ เนื่องจากแนวโน้มดอกเบี้ยยังอยู่ในระดับต่ำ โดยปีหน้าคาดดัชนีหุ้นไทยในเบื้องต้นจะอยู่ในกรอบ1,300-1,500จุด จากปีนี้คาดว่าจะอยู่ที่ 1,350 จุดในช่วงสิ้นปี

"ปีหน้ายังชอบการลงทุนหุ้นมากกว่าตลาดตราสารหนี้ โดยเฉพาะตลาดหุ้นในประเทศเกิด
ใหม่เช่น จีน เกาหลีใต้ ไต้หวันเนื่องจากตลาดในประเทศพัฒนาแล้วปรับขึ้นไปมากแล้ว บวกกับดอลลาร์มีแนวดโน้มอ่อนค่าสวนทางกับค่าเงินในภูมิภาคเอเชียทำให้มีโอกาสในการลงทุนเพิ่มขึ้นอีกระดับ ส่วนหุ้นไทยน่าจะมีโอกาสปรับตัวได้อีกไม่มากเพราะดัชนีในเดือนพ.ย.ปีนี้บวกมาแล้วราว 20% เดือนธ.ค.นี้จึงมีโอกาสน้อยที่จะปรับขึ้นถึง 20% อีก" นายกุลฉัตร กล่าว

ทั้งนี้บริษัทมองว่าดัชนีปีหน้าของตลาดหุ้นทั่วโลกสามารถปรับตัวเพิ่มขึ้น แต่คงปรับขึ้นได้ไม่มากเมื่อเทียบกับปีนี้ โดยการลงทุนจะใช้กลยุทธ์การเลือกลงทุนในหุ้นรายตัว และจะเน้นหุ้นในกลุ่มนวัตกรรมกรรม สุขภาพ ที่มีความสามารถในการปรับตัว และได้รับประโยชน์จากการพัฒนาเทคโนโลยีในการเพิ่มประสิทธิภาพการแข่งขันในอนาคต ส่วนหุ้นไทยมองว่าหุ้นกลุ่มแบงก์ราคาปรับขึ้นมาสูงแล้ว โดยหุ้นกลุ่มท่องเที่ยวที่ราคาปรับลดลงไปมากมีโอกาสฟื้นตัวในครึ่งหลังของปีหน้า แต่ในรายละเอียดต้องดูว่าไทยเราเปิดประเทศได้ตามแผนงานในครึ่งปีแรกหรือไม่

นายกุลฉัตร กล่าวอีกว่า ภาพรวมกองทุนประหยัดภาษีในช่วง11เดือนที่ผ่านมากองทุนSSFยังได้รับความสนใจจากนักลงทุนไม่มากมีเม็ดเงินลงทุนรวมประมาณ2.2พันล้านบาทโดยมีเม็ดเงินเข้ามาลงทุนเป็นจำนวนมากในเดือนตุลาคม และพฤศจิกายนที่ 373 ล้านบาทและ769ล้านบาทตามลำดับ ขณะที่กองทุนRMFมีเม็ดเงินลงทุนรวมประมาณ9พันล้านบาท

"กองทุนSSFยังได้รับความสนใจน้อยส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะฐานลูกค้าคนรุ่นใหม่ที่รายได้ไม่สูงนัก และกลุ่มคนที่อ่ยุตั้งแต่45ปีเป็นต้นไปจะใช้สิทธิผ่านกองทุนRMFมากกว่า เนื่องจากระยะเวลาการถือครองที่สั้นกว่า และอาจเป็นแรงสนับสนุนให้กองทุนRMFมีเม็ดเงินเข้ามาลงทุนมากทุกปีที่ผ่านมาหรือเกินกว่า2หมื่นล้านบาท ซึ่งจะต้องดูในช่วง2สัปดาห์สุดท้ายขิงปีนี้ที่นักลงทุนนิยมเข้าลงทุนมากเป็นพิเศษ"นายกุลฉัตรกล่าว

สำหรับการลงทุนในกองประหยัดภาษีบริษัทแนะนำให้ลงทุนในกองทุนที่ลงทุนในต่างประเทศเป็นหลักเพราะที่ผ่านมานักลงทุนมีการลงทุนในหุ้นไทยผ่านกองทุนLTFไปมากแล้ว โดยกองทุนที่บริษัทแนะนำให้แก่นักลงทุนประกอบด้วย1.กองทุนเปิด ออล ไชน่า อิควิตี้ ฟันด์(UCHINA-SSF) เน้นลงทุนในหุ้นบริษัทจีนที่จดทะเบียนในประเทศและต่างประเทศผ่านกองทุนหลัก UBS(Lux )Equity SICAV-All China(USD)

กองทุนเปิด ยูไนเต็ด โกลบอล อินโนเวชั่น ฟันด์ เน้นลงทุนในหุ้นบริษัทที่เกี่ยวข้องหรือได้รับผลประโยชน์จากนวัตกรรมและเทคโลยีใหม่ทั่วโลก บลจ.ยูโอบี(สิงค์โปร)เป็นผู้ดำเนินการลงทุนและสุดท้ายกองทุนเปิด ยูโอบี สมาร์ท โกลบอล เฮลท์แคร์ ฟันด์ เน้นลงทุนในหุ้นกลุ่มสุขภาพทั่วโลกผ่านกองทุนรวมต่างประเทศ United Global Healthcare Fund ที่บริหารโดยบลจ.ยูโอบี สิงคโปร์

ทั้งนี้ สำหรับลูกค้าใหม่ที่ต้องการเปิดบัญชี ล่าสุดบริษัทมีบริการผ่านแอปพลิเคชั่น"UOBAM Invest"บนโทรศัพท์มือถือ ซึ่งสามารถยืนยันตัวตนและซื้อขายหน่วยลงทุนได้ภายใน1วันหรือ1ชั่วโมงหลังได้รับการตรวจสอบข้อมูล โดยลูกค้าใหม่ที่ทำการเปิดบัญชีและซื้อหน่วยลงทุน1พันรายแรกตั้งแต่วันที่16ธันวาคมจะได้รับหน่วยลงทุนกองทุนUOBSDมูลค่า500บาททันที
กำลังโหลดความคิดเห็น