บลจ.วีเชื่อ ศก.จีนโตเพิ่มหลังโควิด เชียร์หุ้นกลาง-เล็กแนวโน้มดีน่าลงทุน

นายอิศรา พุฒตาลศรี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน วี จำกัด (บลจ.วี) เปิดเผยว่า หลังจากการระบาดของ COVID-19 ประเทศจีนกลับมาดำเนินกิจกรรมเศรษฐกิจเป็นประเทศแรก และเริ่มเห็นการพลิกฟื้นของภาคธุรกิจที่สำคัญ เช่น ค้าปลีก อุตสาหกรรมการผลิต รวมไปถึงการลงทุนในสินทรัพย์ถาวรทางด้านโครงสร้างพื้นฐาน และอสังหาริมทรัพย์ที่มีการฟื้นตัวอย่างรวดเร็ว

ขณะเดียวกัน มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจากภาครัฐผ่านนโยบายการเงิน ทั้งปรับลดอัตราการกันเงินสำรองขั้นต่ำของธนาคารพาณิชย์ การให้สินเชื่อแก่วิสาหกิจขนาดกลางและขนาดเล็กเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจส่งผลดีต่อภาคการผลิต การบริการและตลาดอสังหาริมทรัพย์ของจีน เป็นต้น นอกจากนี้ การใช้นโยบายการคลังมีการอัดฉีดเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจอีก 2.5-2.8 ล้านล้านหยวน ซึ่งการกระตุ้นเศรษฐกิจของจีนยังคิดเป็นเพียง 6% ของจีดีพี เมื่อเทียบกับสหรัฐฯ ที่มีสัดส่วนประมาน 13% ของจีดีพี ดังนั้นจีนยังสามารถใช้เครื่องมือกระตุ้นเศรษฐกิจได้อีกในอนาคต

ทั้งนี้ การเติบโตของเศรษฐกิจจีน กลุ่มบริษัทขนาดกลางและเล็กเป็นกลุ่มที่มีความสำคัญต่อการขับเคลื่อนเศรษฐกิจจีน โดย 60% ของจีดีพีจีนมาจากกลุ่มบริษัทขนาดเล็ก รวมถึงในแง่การพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ การจดสิทธิบัตร และการจ้างงานในเขตเมืองส่วนใหญ่มาจากกลุ่มบริษัทดังกล่าว ทำให้รัฐบาลจีนให้ความสำคัญต่อการพัฒนาสนับสนุนธุรกิจในกลุ่มดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง

นอกจากนี้ ในแง่ Valuation หุ้นจีนในกลุ่มดังกล่าวยังอยู่ในระดับที่น่าสนใจ เมื่อเปรียบเทียบกับแนวโน้มการเติบโตของกำไรจากปัจจัยพื้นฐานการเติบโตจากภาคการบริโภคในประเทศจีนเป็นหลัก ในภาวะที่กิจกรรมทางเศรษฐกิจการค้าระหว่างประเทศยังคงถูกกดดันจากสถานการณ์แพร่ระบาดของไวรัส

ล่าสุดบริษัทเตรียมเปิดเสนอขาย กองทุนเปิด วี ไชน่า โกรท WE-CHIG) ระหว่างวันที่ 31 ก.ค.-11 ส.ค. 2563 โดยใช้กลยุทธ์การคัดเลือกหุ้นรายตัวโดยทีมผู้จัดการกองทุนที่มีความเชี่ยวชาญและใกล้ชิดกับตลาดหุ้นจีนโดยตรง ผ่านกองทุน Matthews Asia-China Small Companies Fund ซึ่งบริหารโดย Matthews International Capital Management, LLC ที่มีความแข็งแกร่งของทีมวิเคราะห์หุ้นของตนเองโดยตรง และมีประสบการณ์กว่า 25 ปี

“บลจ.วีมองว่า ศักยภาพในการเติบโตที่สูงขึ้นของบริษัทจดทะเบียนขนาดเล็กในจีนมีความน่าสนใจจากความสามารถในการสร้างโอกาสรับผลตอบแทนได้สูง ทั้งในภาวะตลาดขาขึ้นและขาลง อีกทั้งระดับราคา (Valuation) ที่ยังอยู่ในระดับต่ำเนื่องจากยังไม่เป็นที่รู้จักมากและมีความผันผวนที่ต่ำกว่าตลาดหุ้นจีนโดยรวม การลงทุนในหุ้นขนาดเล็กของจีนผ่าน “กองทุน WE-CHIG” จึงมีโอกาสสร้างผลตอบแทนที่ดีในระยะยาวจากอุตสาหกรรมเทคโนโลยี, สุขภาพ, การบริการและอุปโภคบริโภค ที่สอดรับกับภาวะเศรษฐกิจจีนที่กำลังกลับมาเติบโตจากมาตรการภาครัฐและการเปิดกิจกรรมทางเศรษฐกิจ” นายอิศรา กล่าว