นางชวินดา หาญรัตนกูล กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทอยู่ในระหว่างการเปิดจำหน่ายหน่วยลงทุนครั้งแรก (IPO) กองทุนเปิดกรุงไทย โกลบอล ฟิกซ์ อินคัม 1Y1 (KTGF1Y1) ตั้งแต่วันนี้ ถึง 10 กรกฎาคม 2563 อายุโครงการประมาณ 1 ปี กองทุนดังกล่าวเป็นกองทุนรวมตราสารหนี้ที่เน้นลงทุนในทรัพย์สินประเภทตราสารหนี้ รวมกันทุกขณะไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน โดยกองทุนมีนโยบายการลงทุนในตราสารหนี้ เงินฝาก และ/หรือตราสารการเงินที่มีอันดับความน่าเชื่อถือของตราสารหรือของผู้ออกตราสารอยู่ในอันดับที่สามารถลงทุนได้ (investment grade) และ/หรือลงทุนในหน่วย CIS ของกองทุนรวมที่มีนโยบายการลงทุนในทรัพย์สินประเภทตราสารหนี้ อย่างไรก็ตาม กองทุนอาจพิจารณาลงทุนในตราสารแห่งหนี้ที่มีอันดับความน่าเชื่อถือของตราสารหรือของผู้ออกตราสารต่ำกว่าอันดับที่สามารถลงทุนได้ (non - investment grade) และ/หรือตราสารแห่งหนี้ที่ไม่ได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือ (Unrated Securities) ไม่เกินร้อยละ 20 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน ทั้งนี้ กองทุนจะพิจารณาลงทุนในหลักทรัพย์หรือทรัพย์สินที่เสนอขายในต่างประเทศ โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน
ทั้งนี้ หน่วยลงทุนของกองทุนรวมต่างประเทศที่กองทุนเปิดกรุงไทย โกลบอล ฟิกซ์ อินคัม 1Y1 (KTGF1Y1) คาดว่าจะมีการลงทุนเกินกว่าร้อยละ 20 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน คือ Invesco Asian Bond Fixed Maturity Fund 2021 – I มีนโยบายลงทุนไม่น้อยกว่าร้อยละ 70 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุนรวมในตราสารหนี้ในภูมิภาคเอเชียที่อยู่ในสกุลเงิน USD ที่ออกโดยผู้ออกตราสารที่ถูกพิจารณาคัดเลือกโดยดุลยพินิจของผู้จัดการ (เช่น รัฐบาล หน่วยงานรัฐบาล องค์การระหว่างประเทศที่มีลักษณะเหนือรัฐ (Supranational Entities) กลุ่มบริษัท สถาบันการเงิน และกลุ่มธนาคาร) ซึ่งอาจรวมถึงผู้ออกตราสารที่อยู่ในกลุ่มประเทศตลาดเกิดใหม่ และกลุ่มประเทศที่พัฒนาแล้วที่อยู่ในภูมิภาคเอเชียด้วยเช่นกัน ทั้งนี้ ประเทศในภูมิภาคเอเชีย ในกองทุนนี้ หมายถึงประเทศทุกประเทศในทวีปเอเชีย ยกเว้นประเทศญี่ปุ่น แต่รวมถึงประเทศออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์
“สำหรับช่วงครึ่งปีหลังของปี 2563 ตลาดหุ้นไทยยังผันผวน ผู้ลงทุนควรกระจายความเสี่ยงไปยังหลายสินทรัพย์ โดย บลจ.กรุงไทยเชื่อว่ากองทุนรวมตราสารหนี้ยังคงเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับการลงทุนในปัจจุบัน พร้อมแนะให้นักลงทุนต้องกระจายการลงทุนมากขึ้น และควรตั้งเป้าถือลงทุนประมาณอย่างน้อย 1 ปี เพื่อให้เห็นโอกาสสร้างผลตอบแทนที่เป็นรูปธรรมมากขึ้น” นางชวินดากล่าวเสริม