ดร.สุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) เปิดเผยว่า จากกรณีที่เกิดเหตุเรือโดยสารท่องเที่ยวจมลงกลางทะเล บริเวณเกาะง่าม-เกาะกะโหลกในอ่าวชุมพร เขตอำเภอปะทิว จังหวัดชุมพร เมื่อวันที่ 26 กรกฎาคม 2560 โดยมีนักท่องเที่ยวได้รับบาดเจ็บ 11 ราย และเสียชีวิต 5 ราย
ตามกฎกระทรวงฉบับที่ 73 (พ.ศ. 2549) ออกตามความในพระราชบัญญัติการเดินเรือในน่านน้ำไทย พ.ศ. 2456 กำหนดให้เจ้าของเรือหรือผู้ประกอบการเดินเรือสำหรับโดยสารต้องจัดให้มีการประกันภัยคุ้มครองผู้โดยสาร ในเบื้องต้นสำนักงาน คปภ.ได้ทำการตรวจสอบพบว่าในขณะเกิดเหตุเรือลำดังกล่าวได้ทำประกันภัยคุ้มครองความรับผิดต่อผู้โดยสารไว้กับบริษัท วิริยะประกันภัย จำกัด (มหาชน) ตามกรมธรรม์เลขที่ 08628-1771/POL/000650-501 เริ่มระยะเวลาความคุ้มครอง 12 เมษายน 2560 สิ้นสุดวันที่ 12 เมษายน 2561 โดยให้ความคุ้มครองในกรณีเสียชีวิต การสูญเสียอวัยวะ (สายตา หรือทุพพลภาพถาวรสิ้นเชิง) จำนวน 100,000 บาทต่อคน และกรณีบาดเจ็บจะได้รับค่ารักษาพยาบาลไม่เกิน 15,000 บาทต่อคน
“เลขาธิการ คปภ.กล่าวด้วยว่า จากการประสานงานเบื้องต้นกับบริษัทผู้รับประกันภัยเกี่ยวกับความคุ้มครองตามกรมธรรม์ประกันภัยของผู้โดยสารกรณีเสียชีวิตทั้ง 5 รายจากอุบัติเหตุในครั้งนี้จะได้รับค่าสินไหมทดแทนรายละ 100,000 บาท ขณะนี้อยู่ระหว่างรอให้ทายาทผู้เสียชีวิตนำหลักฐานเข้ายื่นต่อบริษัทฯ เพื่อขอรับค่าสินไหมทดแทน ซึ่ง คปภ.จะได้เร่งรัดให้ทางบริษัทฯ ดำเนินการจ่ายค่าสินไหมโดยเร็วต่อไป พร้อมกันนี้ยังได้สั่งการให้สำนักงาน คปภ.จังหวัดชุมพร และสายคุ้มครองสิทธิประโยชน์ของสำนักงาน คปภ.ตรวจสอบข้อมูลเพิ่มเติมด้วยว่าผู้เสียชีวิตรวมถึงผู้ได้รับบาดเจ็บได้มีการทำประกันชีวิตและประกันภัยอุบัติเหตุส่วนบุคคลไว้ด้วยหรือไม่ ทั้งนี้หากพบว่ามีการทำประกันภัยไว้ สำนักงาน คปภ.จะเร่งประสานงานให้บริษัทประกันภัยที่เกี่ยวข้องให้ความช่วยเหลือและเยียวยาครอบครัวผู้เสียชีวิต และผู้ได้รับบาดเจ็บต่อไป”
เลขาธิการ คปภ.กล่าวเสริมว่า สำนักงาน คปภ.ขอแสดงความเสียใจอย่างยิ่งต่อครอบครัวผู้เสียชีวิต โดยสำนักงาน คปภ.จะช่วยอำนวยความสะดวกด้านการประกันภัยให้แก่ทายาทผู้เสียชีวิตอย่างเต็มที่ ทั้งนี้ อยากจะฝากเตือนผู้ประกอบการเดินเรือ รวมถึงผู้ประกอบการขนส่งมวลชนอื่นๆ ควรทำประกันภัยตามที่กฎหมายกำหนด และหมั่นตรวจสอบวันหมดอายุกรมธรรม์ด้วยเพื่อให้ผู้ประสบภัยได้รับความคุ้มครองอย่างทั่วถึง และ ครบวงจร สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ สายด่วน คปภ. 1186