xs
xsm
sm
md
lg

วรรณจ่ายปันผล 2 กองทุนหุ้น มองดัชนีเคลื่อนไหวกรอบแคบ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


บลจ.วรรณมองไตรมาส 3 หุ้นไทยยังมีความผันผวน ย้ำแรงขับเคลื่อนจากภาครัฐจะเป็นปัจจัยหนุนดัชนีหุ้นไทยช่วงที่เหลือได้ มองสัปดาห์นี้ดัชนีเคลื่อนไหวในกรอบ 1,560-1,600 จุด พร้อมประกาศจ่ายปันผล กองทุนเปิดวรรณเอเอ็มหุ้นคุณค่าปันผล (1VAL-D) มีนโยบายเน้นลงทุนในหุ้นปันผลสูง ในอัตราหน่วยลงทุนละ 1.538 บาท และกองทุน 1DIV ในอัตราหน่วยลงทุนละ 0.4566 บาท

นายพจน์ หะริณสุต ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนวรรณ จำกัด (บลจ.วรรณ) เปิดเผยว่า ภาพการลงทุนไตรมาส 3/60 คาดว่าตลาดหุ้นไทยอาจได้รับผลกระทบจากความผันผวนของตลาดการเงินโลก หลังจากที่สินทรัพย์เสี่ยงปรับตัวขึ้นมามาก อีกทั้งยังอาจได้รับแรงกดดันจากแนวทางการดำเนินนโยบายการเงินที่เข้มงวดขึ้นทั้งของธนาคารกลางสหรัฐฯ ยุโรป และอังกฤษ อย่างไรก็ดี แนวโน้มตลาดหุ้นไทยยังมีโอกาสปรับตัวขึ้น โดยลักษณะของการลงทุนจะเป็นแบบ Rotation ระหว่างกลุ่มอุตสาหกรรมในตลาด

กระแสเงินทุนแม้ว่าจะมีการไหลเข้ามาในกลุ่มประเทศเกิดใหม่ แต่เป็นการไหลเข้าในตลาดตราสารหนี้มากกว่าตราสารทุน สะท้อนจากค่าเงินบาทที่ยังคงแข็งค่าขึ้นแตะที่ระดับ 33.60 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่ดัชนีตลาดหุ้นยังเคลื่อนไหวในกรอบ อย่างไรก็ตาม การฟื้นตัวของเศรษฐกิจในประเทศ การเปิดประมูลโครงการลงทุนภาครัฐ และผลการดำเนินงานที่ฟื้นตัวของบริษัทจดทะเบียนจะเข้ามาช่วยลดความผันผวนที่อาจเกิดขึ้นได้ ทั้งนี้ หากพิจารณาสัดส่วนการถือครองของนักลงทุนต่างชาติปัจจุบันอยู่ในระดับต่ำกว่าค่าเฉลี่ยในอดีต ทั้งนี้ โดยรวมมองว่าหากดัชนีมีการปรับตัวลดลงถือเป็นโอกาสในการสะสม นายพจน์กล่าว

สำหรับการปรับตัวขึ้นของตลาดหุ้นไทยในช่วงเดือนที่ผ่านมา ปัจจัยสนับสนุนส่วนใหญ่มาจากภายในประเทศเป็นหลัก ทั้งความคืบหน้าโครงการลงทุนภาครัฐและตลาดหุ้นไทยที่ Laggard ตลาดหุ้นอื่นๆ ซึ่งเอื้อต่อผลการดำเนินงานของกองทุนภายใต้การบริหารจัดการของบริษัท ทั้งนี้  คณะกรรมการมีมติประกาศจ่ายปันผล 2 กองทุน ได้แก่ กองทุนเปิดวรรณเอเอ็มหุ้นคุณค่าปันผล (1VAL-D) จากกำไรสุทธิของผลการดำเนินงานระหว่างวันที่ 1 ตุลาคม 2559 ถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2560  ในอัตราหน่วยลงทุนละ 1.538 บาท โดยมีกำหนดวันปิดสมุดทะเบียนพักการโอนหน่วยลงทุน เพื่อสิทธิในการรับเงินปันผลในวันที่ 19 กรกฎาคม 2560 และกำหนดจ่ายเงินปันผลในวันที่ 7 สิงหาคม 2560 และ กองทุนเปิดไทยเด็กซ์ SET High Dividend ETF (1DIV) จากกำไรสุทธิของผลการดำเนินงาน ระหว่างวันที่ 1 มกราคม 2560 ถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2560  ในอัตราหน่วยลงทุนละ 0.4566 บาท มีกำหนดวันปิดสมุดทะเบียนพักการโอนหน่วยลงทุน เพื่อสิทธิในการรับเงินปันผลในวันที่ 26 กรกฎาคม 2560 และกำหนดจ่ายเงินปันผลในวันที่ 10 สิงหาคม 2560  

นายพจน์กล่าวเพิ่มเติมว่า สัปดาห์นี้ดัชนีมีโอกาสเคลื่อนไหว Sideway ในกรอบ 1,560-1,600 จุด เนื่องจากตลาดหุ้นไทยยังไม่มีปัจจัยใหม่เข้าสนับสนุนตลาด โดยยังคงแนะนำติดตามรายงานผลประกอบการไตรมาส 2/60 ของกลุ่มธนาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่ ซึ่งเริ่มมีการคาดการณ์ว่าจะมีแนวโน้มฟื้นตัวจาก ไตรมาสก่อน  และความคืบหน้าของโครงการภาครัฐ ทั้งนี้ กระแสเงินลงทุนของนักลงทุนต่างชาติยังคงไหลเข้าตลาดหุ้นในเอเชียอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับธนาคารกลางสหรัฐฯ อาจต้องชะลอการขึ้นอัตราดอกเบี้ยฯ ทำให้ค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้น ซึ่งอาจเป็นผลดีต่อตลาดหุ้นไทยให้ได้อานิสงส์จากประเด็นดังกล่าว เนื่องจากที่ผ่านมาตลาดหุ้นยังค่อนข้าง Laggard พอสมควร ทั้งนี้ คาดการณ์อัตราการจ่ายเงินปันผลของตลาดหุ้นไทยปีหน้าที่ระดับเฉลี่ยประมาณ 3-3.2%
กำลังโหลดความคิดเห็น