คปภ.ลงพื้นที่จังหวัดร้อยเอ็ดเพื่อติดตามการปฏิบัติตามประกาศ คปภ. เกี่ยวกับการขายผลิตภัณฑ์ประกันภัยผ่านธนาคารพาณิชย์ โดยตรวจติดตามอย่างต่อเนื่องเพื่อให้การบังคับใช้กฎหมายเกิดประสิทธิภาพ และเพื่อคุ้มครองสิทธิประโยชน์ให้แก่ประชาชน
ดร.สุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการ คณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 3 กรกฎาคม 2560 ตนและคณะผู้บริหารระดับสูงจากส่วนกลาง ร่วมกับผู้อำนวยการภาค 5 ผู้อำนวยการสำนักงาน คปภ. จังหวัดร้อยเอ็ด และเจ้าหน้าที่ในสังกัดสำนักงาน คปภ. ภาค 5 ได้ร่วมกันเข้าตรวจธนาคารพาณิชย์หลายแห่ง ในพื้นที่อำเภอเมือง จังหวัดร้อยเอ็ด เพื่อติดตามการปฏิบัติตามประกาศ คปภ.เกี่ยวกับการขายผลิตภัณฑ์ประกันภัยผ่านธนาคารพาณิชย์
ซึ่งทางสำนักงาน คปภ.ได้ตรวจติดตามอย่างต่อเนื่องเพื่อให้การบังคับใช้กฎหมายเกิดประสิทธิภาพและเพื่อคุ้มครองสิทธิประโยชน์ให้แก่ประชาชน จากการตรวจติดตามครั้งนี้พบว่ามีประเด็นที่หมิ่นเหม่ต่อการไม่สอดคล้องกับประกาศ คปภ.ดังกล่าว เช่น แบบฟอร์มใบสมัครบัตรเดบิตที่มีบริการประกันภัยไม่ได้ระบุค่าเบี้ยประกันแยกจากค่าธรรมเนียมบัตร ซึ่งอาจทำให้ผู้บริโภคสับสน พนักงานธนาคารที่เสนอขายประกันวินาศภัยแสดงใบอนุญาตนายหน้าหมดอายุ แม้ในวันที่เข้าตรวจจะไม่พบว่ามีการขายผลิตภัณฑ์ประกันภัย และมีการชี้แจงว่าได้ต่อใบอนุญาตแล้ว แต่ก็ไม่สามารถนำหลักฐานมาแสดงได้ นอกจากนี้ บางธนาคารไม่มีป้ายแบ่งโซนการเสนอขายประกันให้ชัดเจน โดยใช้ป้ายระบุคำกว้างๆ ว่า “บริการทางการเงิน” ทำให้ประชาชนเกิดความสับสน อีกทั้งยังพบว่าเอกสารแนะนำผลิตภัณฑ์และแบบฟอร์มใบสมัครฯ ของบางธนาคารไม่ชัดเจน ทำให้ลูกค้าอาจเกิดความสับสนและไม่ทราบว่าผลิตภัณฑ์ที่ตนซื้อเป็นผลิตภัณฑ์ประกันภัย รวมทั้งประเด็นที่เลขาธิการ คปภ.มีข้อห่วงใยและได้กำชับให้มีการตรวจติดตามเพิ่มเติมเพื่อจะได้มีการแก้ไขให้เกิดความชัดเจนโดยเร็ว คือการที่ธนาคารแห่งหนึ่งมีการให้บริการประกันภัยร่วมกับบัญชีเงินฝาก โดยมีการหักค่าดอกเบี้ยเงินฝากในกรณีที่มีบริการประกันภัยดังกล่าว แม้ทางธนาคารจะชี้แจงว่ามิใช่เป็นเบี้ยประกันภัย แต่เมื่อพิจารณาแล้วการหักดอกเบี้ยในกรณีนี้ก็สุ่มเสี่ยงต่อการถูกมองว่าเป็นการหักดอกเบี้ยเงินฝากเพื่อนำมาชำระเป็นค่าเบี้ยประกันภัยโดยที่ไม่ได้แจ้งลูกค้าว่ามีการชำระเบี้ยประกันภัย และไม่มีรายละเอียดที่ชัดเจนในเรื่องนี้ จึงหมิ่นเหม่ต่อการฝ่าฝืนประกาศของ คปภ.
เบื้องต้นเลขาธิการ คปภ.ได้แจ้งให้ทางสาขาธนาคารดังกล่าวรีบปรับปรุงเพื่อไม่ให้เกิดความสับสนแก่ประชาชนผู้ใช้บริการ พร้อมกับกำชับทางสำนักงาน คปภ.ภาค 5 และสำนักงาน คปภ.จังหวัดร้อยเอ็ดให้กลับมาตรวจติดตามบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจังเพื่อคุ้มครองสิทธิประโยชน์แก่ประชาชนให้เกิดประสิทธิภาพ รวมทั้งให้ทำรายงานผลการตรวจธนาคารในครั้งนี้อย่างเป็นระบบอีกด้วย ซึ่งจะได้รีบนำประเด็นข้อห่วงใยไปหารือกับสมาคมธนาคารไทยเพื่อให้มีการปรับปรุงโดยเร่งด่วนต่อไป