บลจ.กสิกรไทยส่งกองทุนตราสารหนี้ต่างประเทศอายุโครงการ 6 เดือน และ 1 ปี เสนอขายต่อเนื่อง ชูโอกาสรับผลตอบแทน 1.31%- 1.60% ต่อปี เปิดเสนอขาย 13-19 มิถุนายนนี้
นายนาวิน อินทรสมบัติ รองกรรมการผู้จัดการและประธานบริหารการลงทุนต่างประเทศ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กสิกรไทย จำกัด (บลจ.กสิกรไทย) เปิดเผยว่า ในระหว่างวันที่ 13-19 มิถุนายน 2560 บลจ.กสิกรไทยจะเปิดเสนอขายกองทุนเปิดเค ตราสารหนี้ต่างประเทศ 6 เดือน ดีเค (KFF6MDK) ประมาณการผลตอบแทนที่ผู้ถือหน่วยลงทุนคาดว่าจะได้รับที่ 1.31% ต่อปี และกองทุนเปิดเค ตราสารหนี้ต่างประเทศ 1 ปี ดีเอ (KFF1YDA) ประมาณการผลตอบแทนที่ผู้ถือหน่วยลงทุนคาดว่าจะได้รับที่ 1.60% ต่อปี โดยทั้ง 2 กองทุนดังกล่าวมีนโยบายป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนทั้งจำนวน และสำหรับผู้ลงทุนบุคคลธรรมดาไม่ต้องเสียภาษี
นายนาวินกล่าวต่อไปว่า “สำหรับกองทุนตราสารหนี้ต่างประเทศแบบที่กำหนดอายุโครงการ หรือ Term Fund บลจ.กสิกรไทยได้พิจารณาหยุดการลงทุนในกาตาร์เป็นการชั่วคราวตั้งแต่วันที่ 7 มิถุนายน 2560 เป็นต้นมา รวมถึงกองทุนที่เปิดเสนอขายในสัปดาห์นี้เพื่อรอประเมินสถานการณ์ จากกรณีที่กาตาร์ถูกตัดความสัมพันธ์ทางการทูตจาก 4 ประเทศเพื่อนบ้าน ทั้งนี้ กองทุน Term Fund ที่ได้เปิดเสนอขายไปในช่วงก่อนหน้าซึ่งมีการลงทุนบางส่วนในเงินฝากของธนาคารกาตาร์ บลจ.กสิกรไทยมองว่าโอกาสที่กองทุนจะได้รับผลกระทบนั้นมีน้อยมาก เนื่องจากอันดับความน่าเชื่อถือของประเทศกาตาร์และธนาคารในกาตาร์ยังอยู่ในระดับสูง แม้ว่าล่าสุด S&P ได้ปรับลดอันดับเครคิตประเทศจากระดับ AA(Stable) มาอยู่ที่ AA-(Negative) แต่ก็ยังถือเป็นระดับที่สูงที่สามารถเข้าลงทุนได้ ประกอบกับสถานะทางการเงินของธนาคารในกาตาร์ยังแข็งแกร่ง ดังนั้นโอกาสที่จะเกิดการผิดนัดชำระหนี้จึงมีน้อยมาก นอกจากนี้ ตราสารของกาตาร์ที่กองทุนลงทุนจะครบกำหนดอายุภายในไม่เกิน 1 ปี และกองทุนมีการป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน 100% จึงเชื่อว่าเมื่อครบอายุกองทุนจะได้รับเงินต้นพร้อมดอกเบี้ยคืน และไม่ส่งผลกระทบต่อผลตอบแทนที่กองทุนจะได้รับ อย่างไรก็ตาม บริษัทยังคงติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดเพื่อให้ผู้ลงทุนเกิดความมั่นใจมากที่สุด”
นายนาวินกล่าวเพิ่มเติมว่า บลจ.กสิกรไทยได้เปิดเสนอขายกองทุนตราสารหนี้ต่างประเทศประเภทกำหนดอายุโครงการเป็นประจำทุกสัปดาห์เพื่อเป็นทางเลือกหนึ่งสำหรับผู้ลงทุนที่ต้องการล็อกผลตอบแทนที่แน่นอน โดยสามารถเลือกลงทุนเป็นเวลา 6 เดือน หรือ 1 ปี ทั้งนี้ สำหรับกองทุน KFF6MDK ที่มีอายุโครงการ 6 เดือน เบื้องต้นคาดว่าจะเข้าไปลงทุนในเงินฝาก China Construction Bank Corporation, เงินฝาก Agricultural Bank of China, เงินฝาก Bank of China, เงินฝาก Abu Dhabi Commercial Bank, สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และบัตรเงินฝาก ICBC Ltd. นอกจากนี้ยังคาดว่าจะลงทุนในตราสารหนี้ Malayan Banking Berhad, ประเทศมาเลเซีย ด้านกองทุน KFF1YDA ที่มีอายุโครงการ 1 ปี เบื้องต้นคาดว่าจะลงทุนในเงินฝาก Agricultural Bank of China, เงินฝาก China Construction Bank Corporation, เงินฝาก Bank of China, เงินฝาก Union National Bank, สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และบัตรเงินฝาก ICBC Ltd. นอกจากนี้ยังคาดว่าจะลงทุนในตราสารหนี้ Malayan Banking Berhad, ประเทศมาเลเซีย โดยทั้ง 2 กองทุนดังกล่าวมีนโยบายป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนเต็มจำนวน และผู้ลงทุนสามารถลงทุนด้วยเงินขั้นต่ำเพียง 500 บาท
ทั้งนี้ บลจ.กสิกรไทยยังได้เพิ่มโอกาสรับผลตอบแทนต่อเนื่องให้แก่ผู้ถือหน่วยลงทุนกับกองทุนตราสารหนี้แบบที่มีกำหนดอายุโครงการ (Fixed Term Fund) ของ บลจ.กสิกรไทย ซึ่งเมื่อกองทุนครบกำหนดอายุโครงการ บริษัทจัดการจะนำเงินค่าขายคืนอัตโนมัติไปซื้อหน่วยลงทุนที่ผู้ลงทุนเลือกได้กองทุนใดกองทุนหนึ่งใน 3 กองทุน คือ กองทุนเปิดเค ตลาดเงิน (K-MONEY) กองทุนเปิดเค ตราสารรัฐระยะสั้น (K-TREASURY) หรือกองทุนเปิดเค ตราสารหนี้ระยะสั้น (K-SF) ของ บลจ.กสิกรไทย