ดร.สุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) เปิดเผยว่า จากการที่สำนักงาน คปภ.ได้ลงนามบันทึกความเข้าใจ (MOU) กับองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) เพื่อนำระบบประกันภัยเข้าไปลดความเสี่ยงภัยอย่างเป็นรูปธรรมให้กับรถยนต์โดยสารสาธารณะภายใต้การดำเนินงานของ ขสมก.อย่างเป็นระบบครบวงจร และเพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ประชาชนผู้ใช้บริการรถยนต์โดยสารสาธารณะของ ขสมก. ว่าจะได้รับความคุ้มครองจากระบบประกันภัยอย่างมีประสิทธิภาพนั้น
ความคืบหน้าล่าสุด “สำนักงาน คปภ.ได้ผลักดันให้เกิดผลิตภัณฑ์ประกันภัยและอัตราเบี้ยประกันภัยรถยนต์แก่องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) และได้ร่วมกันกำหนดกรอบ แนวทางการรับประกันภัย จำนวนเงินเอาประกันภัยที่เกิดความเสียหายต่อทรัพย์สิน ความเสียหายต่อชีวิต ร่างกาย และอนามัย เพื่อความเหมาะสมกับทั้ง 2 ฝ่าย โดยเฉพาะอย่างยิ่งประชาชนผู้ใช้บริการรถเมล์ของ ขสมก.ต้องได้รับประโยชน์สูงสุดจากระบบประกันภัยอย่างแท้จริง ทั้งนี้ สำนักงาน คปภ.ได้เสนอความเห็นในการเพิ่มความคุ้มครองความเสียหายต่อชีวิต ร่างกาย หรืออนามัย จากเดิมกำหนดไว้ 750,000 บาท/คน ปรับเพิ่มเป็นจำนวนเงิน 1,000,000 บาท/คน ซึ่งประชาชนที่ใช้บริการรถเมล์ของ ขสมก. รวมทั้งบุคคลภายนอกที่ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิตจากรถเมล์ของ ขสมก. จะได้รับความคุ้มครองวงเงินสูงสุด 1,000,000 บาท/คน และความคุ้มครองความเสียหายต่อทรัพย์สิน จำนวนเงิน 1,000,000 บาทต่อครั้ง”
เลขาธิการ คปภ.กล่าวเพิ่มเติมว่า เมื่อได้บริษัทประกันภัยที่เป็นผู้รับประกันภัยให้กับองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) ประจำปี 2560 แล้ว ขั้นตอนต่อไป สำนักงาน คปภ.จะได้เชิญผู้แทนบริษัทเข้ามาหารือเกี่ยวกับการรับประกันภัยและการจัดการสินไหมทดแทน เพื่อให้ระบบการจ่ายค่าสินไหมทดแทนเป็นไปด้วยความรวดเร็ว ถูกต้อง และเป็นธรรม โดยให้บริษัทที่เป็นผู้รับประกันภัยจัดทำรูปแบบเอกสารสำหรับวิธีการจัดการกรณีเกิดอุบัติเหตุเป็นพิเศษสำหรับ ขสมก. รวมถึงขอให้เร่งศึกษาเส้นทางเดินรถและจุดเสี่ยงภัยในเส้นทางที่มักเกิดอุบัติเหตุ เพื่อให้การบริการในการแจ้งอุบัติเหตุมีความรวดเร็วยิ่งขึ้น อีกทั้งสำนักงาน คปภ.จะส่งผู้แทนของ คปภ. และบริษัทประกันภัยไปให้ความรู้ด้านการประกันภัย และอบรมแนวทางการจัดการสินไหมทดแทนแก่พนักงาน ขสมก.ก่อนการเริ่มต้นสัญญาประกันภัยด้วย
ดร.สุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการ คปภ. กล่าวเสริมว่า องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) นับเป็นหน่วยงานแรกที่ได้ใช้ประโยชน์ของความร่วมมือจากการทำ MOU และนำไปสู่การพัฒนาผลิตภัณฑ์ประกันภัยในรูปแบบเฉพาะ ซึ่งนับเป็นเรื่องน่ายินดีที่จากนี้ไปประชาชนและผู้ใช้บริการรถเมล์ ขสมก.จะได้รับความคุ้มครองจากระบบประกันภัยอย่างเป็นรูปธรรม ในขณะเดียวกันระบบประกันภัยจะเข้ามามีส่วนช่วยบริหารความเสี่ยงภัยให้กับ ขสมก.อีกด้วย