นายสุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) เปิดเผยถึงกรณีอุบัติเหตุรถยนต์ตู้โดยสารหมายเลขทะเบียน 15-1352 กรุงเทพมหานคร จาก จ.จันทบุรี มุ่งหน้าเข้ากรุงเทพฯ เสียหลักพุ่งข้ามร่องกลางถนนไปฝั่งตรงข้ามประสานงากับรถกระบะหมายเลขทะเบียน 1ฒณ 2483 กรุงเทพมหานคร ที่ อ.บ้านบึง จ.ชลบุรี จนมีผู้เสียชีวิต 25 ราย และบาดเจ็บ 2 ราย (2 ม.ค.) ว่า จากการตรวจสอบเกี่ยวกับการทำประกันภัยของรถยนต์ที่เกิดเหตุทั้ง 2 คัน พบว่า รถยนต์ตู้โดยสารได้ทำประกันภัยรถภาคบังคับ (พ.ร.บ.) กับ บริษัทฟินิกซ์ ประกันภัย (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) สิ้นสุดความคุ้มครองวันที่ 30 กันยายน 60 นอกจากนี้ ยังได้ทำประกันภัยรถภาคสมัครใจประเภท 3 กับบริษัทพุทธธรรมประกันภัย จำกัด (มหาชน) สิ้นสุดความคุ้มครองวันที่ 1 กรกฎาคม 60 โดยให้ความคุ้มครองความรับผิดต่อบุคคลภายนอก กรณีความเสียหายต่อชีวิตร่างกายหรืออนามัย คุ้มครอง 300,000 บาทต่อคน แต่ไม่เกิน 10 ล้านบาทต่อครั้ง ส่วนความเสียหายต่อทรัพย์สินคุ้มครอง 300,000 บาทต่อครั้ง รวมถึงยังมีความคุ้มครองตามเอกสารแนบท้าย กรณีเสียชีวิต สูญเสียอวัยวะ ทุพพลภาพถาวรคุ้มครอง 100,000 บาทต่อคน ค่ารักษาพยาบาล คุ้มครอง 50,000 บาทต่อคน และการประกันตัวผู้ขับขี่คุ้มครอง 200,000 บาท
ส่วนรถยนต์กระบะหมายเลขทะเบียน 1ฒณ 2483 กรุงเทพมหานคร ทำประกันภัยภาคบังคับ (พ.ร.บ.) และประกันภัยภาคสมัครใจ ประเภท 1 กับบริษัทอาคเนย์ประกันภัย จำกัด (มหาชน) สิ้นสุดความคุ้มครองวันที่ 15 ธันวาคม 60 ทั้งคู่ โดยให้ความคุ้มครองความรับผิดต่อบุคคลภายนอก กรณีเสียหายต่อชีวิต ร่างกายหรืออนามัย คุ้มครอง 1 ล้านบาทต่อคน ไม่เกิน 10 ล้านบาทต่อครั้ง ความเสียหายต่อทรัพย์สิน คุ้มครอง 2.5 ล้านบาทต่อครั้ง ในส่วนของความคุ้มครองตามเอกสารแนบท้าย กรณีเสียชีวิต สูญเสียอวัยวะ ทุพพลภาพถาวร คุ้มครอง 50,000 บาทต่อคน ค่ารักษาพยาบาลคุ้มครอง 50,000 บาทต่อคน
นอกจากนี้ นายสุทธิพล เปิดเผยด้วยว่า ตนได้สั่งการให้สายคุ้มครองสิทธิประโยชน์ของสำนักงาน คปภ. ตรวจสอบข้อมูลเพิ่มเติมด้วยว่าผู้เสียชีวิตทั้ง 25 ราย ได้มีการทำประกันชีวิตและประกันภัยอุบัติเหตุส่วนบุคคลไว้ด้วยหรือไม่ ซึ่งหากพบว่ามีการทำประกันไว้ สำนักงาน คปภ.ก็จะประสานงานช่วยเร่งรัดกับทางบริษัทประกันภัยที่เกี่ยวข้องให้จ่ายค่าสินไหมทดแทนความเสียหายที่เกิดขึ้นให้กับผู้รับผลประโยชน์ของผู้เสียชีวิตดังกล่าว และหากไม่ได้รับความสะดวก ขอให้แจ้งมายังสำนักงาน คปภ.หรือที่สายด่วน 1186 ทาง คปภ.จะเร่งดำเนินการให้โดยเร็ว
ส่วนรถยนต์กระบะหมายเลขทะเบียน 1ฒณ 2483 กรุงเทพมหานคร ทำประกันภัยภาคบังคับ (พ.ร.บ.) และประกันภัยภาคสมัครใจ ประเภท 1 กับบริษัทอาคเนย์ประกันภัย จำกัด (มหาชน) สิ้นสุดความคุ้มครองวันที่ 15 ธันวาคม 60 ทั้งคู่ โดยให้ความคุ้มครองความรับผิดต่อบุคคลภายนอก กรณีเสียหายต่อชีวิต ร่างกายหรืออนามัย คุ้มครอง 1 ล้านบาทต่อคน ไม่เกิน 10 ล้านบาทต่อครั้ง ความเสียหายต่อทรัพย์สิน คุ้มครอง 2.5 ล้านบาทต่อครั้ง ในส่วนของความคุ้มครองตามเอกสารแนบท้าย กรณีเสียชีวิต สูญเสียอวัยวะ ทุพพลภาพถาวร คุ้มครอง 50,000 บาทต่อคน ค่ารักษาพยาบาลคุ้มครอง 50,000 บาทต่อคน
นอกจากนี้ นายสุทธิพล เปิดเผยด้วยว่า ตนได้สั่งการให้สายคุ้มครองสิทธิประโยชน์ของสำนักงาน คปภ. ตรวจสอบข้อมูลเพิ่มเติมด้วยว่าผู้เสียชีวิตทั้ง 25 ราย ได้มีการทำประกันชีวิตและประกันภัยอุบัติเหตุส่วนบุคคลไว้ด้วยหรือไม่ ซึ่งหากพบว่ามีการทำประกันไว้ สำนักงาน คปภ.ก็จะประสานงานช่วยเร่งรัดกับทางบริษัทประกันภัยที่เกี่ยวข้องให้จ่ายค่าสินไหมทดแทนความเสียหายที่เกิดขึ้นให้กับผู้รับผลประโยชน์ของผู้เสียชีวิตดังกล่าว และหากไม่ได้รับความสะดวก ขอให้แจ้งมายังสำนักงาน คปภ.หรือที่สายด่วน 1186 ทาง คปภ.จะเร่งดำเนินการให้โดยเร็ว