บลจ.กสิกรไทย ส่งกองทุนตราสารหนี้ต่างประเทศอายุโครงการ 3 เดือน และ 6 เดือน เสนอขายต่อเนื่อง ชูโอกาสรับผลตอบแทน 1.70% - 1.80% ต่อปี เปิดเสนอขาย 13 - 19 ธันวาคมนี้
นายนาวิน อินทรสมบัติ รองกรรมการผู้จัดการและประธานบริหารการลงทุนต่างประเทศ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กสิกรไทย จำกัด (บลจ.กสิกรไทย) เปิดเผยว่า ในระหว่างวันที่ 13 – 19 ธันวาคม 2559 บลจ.กสิกรไทยจะเปิดเสนอขายกองทุนเปิดเค ตราสารหนี้ต่างประเทศ 6 เดือน ซีแอล (KFF6MCL) ประมาณการผลตอบแทนที่ผู้ถือหน่วยลงทุนคาดว่าจะได้รับที่ 1.80% ต่อปี และกองทุนเปิดเค ตราสารหนี้ต่างประเทศ 3 เดือน เอโอ (KFF3MAO) ประมาณการผลตอบแทนที่ผู้ถือหน่วยลงทุนคาดว่าจะได้รับที่ 1.70% ต่อปี โดยทั้ง 2 กองทุนดังกล่าวมีนโยบายป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนทั้งจำนวน และสำหรับผู้ลงทุนบุคคลธรรมดาไม่ต้องเสียภาษี
ด้านมุมมองตลาดตราสารหนี้ในสัปดาห์ที่ผ่านมา นายนาวินกล่าวว่า “ในสัปดาห์ที่ผ่านมา ECB มีมติขยายนโยบาย QE ออกไปอีก 9 เดือนหรือจนถึงปลายปี 2560 แต่ได้ลดวงเงินการเข้าซื้อสินทรัพย์ QE จาก 8 หมื่นล้านยูโรต่อเดือน มาอยู่ที่ 6 หมื่นล้านยูโรต่อเดือน โดยจะเริ่มต้นในเดือน เม.ย. 2560 ทั้งนี้ ECB ได้บอกว่าการตัดสินใจลดการเข้าซื้อสินทรัพย์ครั้งนี้เป็นเพราะความเสี่ยงจากเงินฟืดได้ลดลง ขณะที่มองว่าเศรษฐกิจยุโรปนั้นยังมีการฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไป อย่างไรก็ตาม ECB สามารถเพิ่มการเข้าซื้อพันธบัตรรัฐบาลเพิ่มเติมได้หากเศรษฐกิจชะลอ ส่วนด้านอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯมีการปรับตัวเพิ่มขึ้นในทุกช่วงอายุตราสาร เป็นผลมาจากแนวโน้มการปรับขึ้นดอกเบี้ยสหรัฐฯ ซึ่งตลาดเชื่อมั่นว่าผลการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐฯ ในวันที่ 13-14 ธ.ค. นี้ น่าจะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 25bps มาอยู่ที่ 0.50-0.75%”
นายนาวินกล่าวเพิ่มเติมว่า บลจ.กสิกรไทยได้เปิดเสนอขายกองทุนตราสารหนี้ต่างประเทศประเภทกำหนดอายุโครงการเป็นประจำทุกสัปดาห์เพื่อเป็นทางเลือกหนึ่งสำหรับผู้ลงทุนที่ต้องการล็อกผลตอบแทนที่แน่นอน โดยสามารถเลือกลงทุนเป็นเวลา 3 เดือน หรือ 6 เดือน ทั้งนี้สำหรับ กองทุน KFF6MCL ที่มีอายุโครงการ 6 เดือน เบื้องต้นคาดว่าจะเข้าไปลงทุนในเงินฝาก China Construction Bank Corporation, เงินฝาก Union National Bank, ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และตราสารหนี้ Commercial Bank of Qatar, ประเทศกาตาร์ นอกจากนี้ยังคาดว่าจะลงทุนในตราสารหนี้ Qatar National Bank และตราสารหนี้ ICBC Ltd. ด้านกองทุน KFF3MAO ที่มีอายุโครงการ 3 เดือน เบื้องต้นคาดว่าจะลงทุนในเงินฝาก Bank of China, เงินฝาก China Construction Bank Corporation และเงินฝาก First Gulf Bank, ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ นอกจากนี้ยังคาดว่าจะลงทุนในตราสารหนี้ Commercial Bank of Qatar, ประเทศกาตาร์ และตราสารหนี้ ICBC Ltd. โดยทั้ง 2 กองทุนดังกล่าวมีนโยบายป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนเต็มจำนวน และผู้ลงทุนสามารถลงทุนด้วยเงินขั้นต่ำเพียง 5,000 บาท
ทั้งนี้ บลจ.กสิกรไทย ยังได้เพิ่มโอกาสรับผลตอบแทนต่อเนื่องให้กับผู้ถือหน่วยลงทุนกับกองทุนตราสารหนี้แบบที่มีกำหนดอายุโครงการ (Fixed Term Fund) ของบลจ.กสิกรไทย ซึ่งเมื่อกองทุนครบกำหนดอายุโครงการ บริษัทจัดการจะนำเงินค่าขายคืนอัตโนมัติไปซื้อหน่วยลงทุนที่ผู้ลงทุนเลือกได้กองทุนใดกองทุนหนึ่งใน 3 กองทุน คือ กองทุนเปิดเค ตลาดเงิน (K-MONEY) กองทุนเปิดเค ตราสารรัฐระยะสั้น (K-TREASURY) หรือกองทุนเปิดเค เอ็มพลัส (K-MPLUS) ซึ่งอยู่ในกลุ่มกองทุนรวมตราสารหนี้ ของบลจ.กสิกรไทย