ปิดไตรมาส 3 เงินไหลเข้ากองทุนรวมสุทธิกว่า 118,871 ล้านบาท ส่งผลให้สิ้นสุดไตรมาส 3 กองทุนรวมโต 12.70% มูลค่าทรัพย์สินสุทธิอยู่ที่ 4.58 ล้านล้านบาท
กองทุนรวมยังคงเป็นอีกหนึ่งทางในการลงทุนที่ได้รับความนิยมจากผู้ลงทุนอย่างต่อเนื่อง ไตรมาส 3 นี้มีเงินไหลเข้าอีกกว่า 118,871 ล้านบาท ถึงแม้ว่าจะมีเม็ดเงินไหลเข้าน้อยกว่าไตรมาส 1 (155,014 ล้านบาท) และไตรมาส 2 (159,822 ล้านบาท) ก็ตาม ส่งผลให้ทั้งปีมีเงินไหลเข้าสุทธิแล้ว 433,707 ล้านบาท โดยที่อุตสาหกรรมโดยรวมโตทั้งสิ้น 12.70% นับจากสิ้นปีที่แล้ว
ไตรมาส 3 นี้ตลาดการลงทุนทั่วโลกยังมีความผันผวนอย่างต่อเนื่องรวมทั้งตลาดหุ้นไทยด้วย แต่อย่างไรก็ตามหากมองผลตอบแทนถือว่าอยู่ในระดับที่น่าพอใจ เนื่องจากผลตอบแทนเฉลี่ยในไตรมาส 3 นี้เกือบทุกกลุ่มกองทุนสามารถทำได้เกือบบวก
โดยส่วนมากกองทุนที่สามารถสร้างผลตอบแทนได้ดีในไตรมาส 3 นี้จะเป็นการลงทุนในต่างประเทศทั้งสิ้น นำมาโดยกลุ่ม China Equity กลุ่ม Emerging Market Equity และกลุ่ม Asia Pacific ex-Japan Equity ที่สามารถสร้างผลตอบแทนเฉลี่ยในไตรมาส 3 สูงถึง 8.99%, 6.64% และ 6.40% ตามลำดับ
ในส่วนทรัพย์สินที่มีความเสี่ยงต่ำอย่างตราสารหนี้นั้นปีนี้ดูผลตอบแทนลดลงไปมากพอสมควรจากในอดีต แต่การลงทุนในตราสารหนี้เฉพาะกลุ่มนั้นยังคงโดดเด่นอย่างมาก แต่อย่างไรก็ตามในกลุ่มนี้มีความผันผวนสูง ซึ่งผู้ลงทุนควรศึกษารายละเอียดให้ดีก่อนตัดสินใจลงทุน
ปิดท้ายที่กอง LTF และ RMF ซึ่ง 9 เดือนที่ผ่านมาของปี 2559 นี้ยังโตอย่างต่อเนื่องทั้งที่เพิ่งจะมีเม็ดเงินไหลเข้าสุทธิเพียงเดือนเดียวของปีนี้คือช่วงเดือนกันยายนที่ผ่านมานี่เอง แต่อย่างไรก็ตามในภาพกว้างมูลค่าทรัพย์สินกองทุนทั้ง 2 ประเภทยังคงโตอยู่ โดยกองทุน LTF มีมูลค่าทรัพย์สินที่ 298,167 ล้านบาท ขณะที่ RMF มีมูลค่าทรัพย์สินอยู่ที่ 194,606 ล้านบาท