ทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์และสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ไทคอน (TREIT) ภายใต้การบริหารของเอ็มดีคนใหม่ ประกาศเป็นกองทรัสต์แรกของไทยที่ระดมทุนผ่านหุ้นกู้ เตรียมขออนุมัติจากผู้ถือหน่วยเพื่อออกและเสนอขายหุ้นกู้ 1,470 ล้านบาทเพื่อลงทุนในทรัพย์สินเพิ่มเติมครั้งที่ 2 เผยครึ่งปีแรกจ่ายปันผลไปแล้วในอัตรา 0.3502 บาทต่อหน่วย มั่นใจอนาคตคลังสินค้าและโรงงานให้เช่าระดับคุณภาพยังเป็นที่ต้องการของหลากหลายอุตสาหกรรม
นายพีระพัฒน์ ศรีสุคนธ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไทคอน แมนเนจเม้นท์ จำกัด (TMAN) ในฐานะผู้จัดการกองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์และสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ไทคอน (TICON Freehold and Leasehold Real Estate Investment Trust) หรือ TREIT เปิดเผยว่า บริษัทฯ เตรียมเสนอขออนุมัติการออกและเสนอขายหุ้นกู้จากผู้ถือหน่วยทรัสต์วงเงินไม่เกิน 1,470 ล้านบาท เพื่อลงทุนในทรัพย์สินเพิ่มเติมครั้งที่ 2 และวงเงินไม่เกิน 1,819 ล้านบาท เพื่อชำระคืนเงินกู้ และ/หรือเพื่อเป็นแหล่งเงินทุนของกองทรัสต์ในการลงทุนเพิ่มเติมในอนาคต ในการประชุมวิสามัญผู้ถือหน่วยทรัสต์ในวันที่ 22 กันยายน 2559
“สำหรับทรัพย์สินที่จะลงทุนเพิ่มเติมครั้งที่ 2 ในมูลค่าไม่เกิน 1,470 ล้านบาทนี้ ประกอบด้วย กรรมสิทธิ์ในที่ดิน และกรรมสิทธิ์ในอาคารคลังสินค้าของบริษัท ไทคอน โลจิสติคส์ พาร์ค จำกัด หรือทีพาร์ค จำนวน 3 หลัง 12 ยูนิต ในโครงการ TPARK แหลมฉบัง 2, TPARK ศรีราชา และ TPARK โรจนะ ปราจีนบุรี รวมไปถึงสิทธิการเช่าที่ดิน และสิทธิการเช่าอาคารคลังสินค้า จำนวน 4 หลัง 8 ยูนิต ในโครงการ TPARK บางพลี 3 นอกจากนี้ ยังมีกรรมสิทธิ์ในที่ดิน และกรรมสิทธิ์ในอาคารโรงงาน ของบริษัท ไทคอน อินดัสเทรียล คอนเน็คชั่น จำกัด (มหาชน) หรือไทคอน จำนวน 8 หลัง ในนิคมอุตสาหกรรมบางปู, นิคมอุตสาหกรรมบ้านหว้า (ไฮเทค), อมตะซิตี้ และที่สวนอุตสาหกรรมโรจนะ อยุธยา อีกด้วย ซึ่งโครงการเหล่านี้ล้วนแต่อยู่ในทำเลยุทธศาสตร์ด้านเศรษฐกิจการลงทุนของประเทศที่มีศักยภาพในการเติบโตสูง ไม่ว่าจะเป็นที่ศรีราชา แหลมฉบัง ปราจีนบุรี บางพลี บางปู บางปะอิน ระยอง และพระนครศรีอยุธยา” นายพีระพัฒน์กล่าว
ทั้งนี้ TREIT นับเป็นทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ฯ กองแรกของประเทศไทยที่จะระดมทุนด้วยการออกและเสนอขายหุ้นกู้ผ่านตลาดตราสารหนี้ ซึ่งมีต้นทุนดอกเบี้ยต่ำกว่าการกู้ยืมจากธนาคาร เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการจ่ายผลประโยชน์ตอบแทนแก่ผู้ถือหน่วยทรัสต์ในระยะยาว
“แผนการเติบโตของ TREIT ไม่ได้จำกัดแค่การเพิ่มทุนจากการลงทุนในทรัพย์สินของกลุ่มไทคอนเท่านั้น แต่ยังเปิดกว้างไปถึงทรัพย์สินที่อยู่นอกกลุ่มด้วย โดย TMAN มุ่งเน้นการบริหารในเชิงรุก ที่จะมองหาโอกาสในการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ที่มีศักยภาพสูงทั้งในประเทศและนอกประเทศอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเรามั่นใจว่าแนวโน้มการเติบโตของคลังสินค้าและโรงงานให้เช่ายังอยู่ในทิศทางที่เป็นบวก เนื่องจากได้รับประโยชน์จากการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) และความได้เปรียบในเรื่องของทำเลยุทธศาสตร์ของประเทศไทยซึ่งเป็นจุดศูนย์กลางในด้านการผลิตและลอจิสติกส์ของอาเซียน ซึ่งส่งผลให้นักลงทุนต่างประเทศสนใจเข้ามาลงทุนและขยายธุรกิจในไทยอย่างต่อเนื่อง และก่อให้เกิดความต้องการในการเช่าโรงงานและคลังสินค้าที่มีคุณภาพสูงและพร้อมใช้งานเพิ่มขึ้น ซึ่งเป็นโอกาสสำคัญให้ TMAN ได้เข้าถึงทรัพย์สินเหล่านั้น และบริหารจัดการให้เกิดผลประโยชน์แก่ผู้ถือหน่วยได้อย่างมีนัยสำคัญอีกด้วย” นายพีระพัฒน์กล่าวสรุป
สำหรับผลการดำเนินงานไตรมาสที่ 2 ปี 2559 ของ TREIT มีการเพิ่มขึ้นในสินทรัพย์สุทธิจากการดำเนินงานจำนวน 191.64 ล้านบาท หรือคิดเป็นหน่วยละ 0.3381 บาท โดยคณะกรรมการบริษัทฯ มีมติให้จ่ายเงินปันผลสำหรับงวดระหว่างวันที่ 1 เมษายน-30 มิถุนายน 2559 ในอัตราหน่วยละ 0.1702 บาท ซึ่งมีกำหนดจ่ายเงินปันผลในวันที่ 5 กันยายน 2559 โดยในรอบ 6 เดือน TREIT สามารถจ่ายเงินปันผลไปแล้วรวม 0.3502 บาทต่อหน่วย
ปัจจุบัน TREIT ลงทุนในคลังสินค้าและโรงงานให้เช่าของกลุ่มไทคอน รวม 98 ยูนิต พื้นที่ให้เช่ารวมทั้งสิ้น 369,705 ตารางเมตร บนที่ดินรวม 503 ไร่ แบ่งเป็น คลังสินค้าจำนวน 71 ยูนิต พื้นที่ให้เช่า 293,805 ตารางเมตร คิดเป็นสัดส่วน 79% และเป็นโรงงาน จำนวน 27 ยูนิต พื้นที่ให้เช่า 75,900 ตารางเมตร คิดเป็นสัดส่วน 21% และมีโครงสร้างของทรัพย์สินเป็นการลงทุนในกรรมสิทธิ์ (Freehold)56% และเป็นการลงทุนในสิทธิการเช่า (Leasehold) ประมาณ 44% โดยผู้เช่าส่วนใหญ่เป็นบริษัทชั้นนำทั้งในประเทศและต่างประเทศจากหลากหลายอุตสาหกรรม เช่น ผู้ให้บริการด้านลอจิสติกส์ สินค้าอุปโภคบริโภค ชิ้นส่วนยานยนต์ และอิเล็กทรอนิกส์ เป็นต้น
