บลจ.วรรณประกาศจ่ายเงินปันผลกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ 6 กองทุน ชี้อัตราดอกเบี้ยทรงตัวระดับต่ำเอื้ออัตราการจ่ายเงินปันผล โดยปิดสมุดทะเบียนพักโอนหน่วยลงทุนทั้ง 6 กองทุนวันที่ 22 ส.ค. และรับปันผลวันที่ 6 ก.ย.นี้
นายอลงกรณ์ ประธานราษฎร์นิกร รองกรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม วรรณ จำกัด เปิดเผยว่า ภาพรวมของกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ของไทยยังคงมีแนวโน้มที่ดี โดยเฉพาะในภาวะที่แนวโน้มอัตราดอกเบี้ยในประเทศยังทรงตัวในระดับต่ำเอื้อต่ออัตราการจ่ายเงินปันผลของกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ โดยปัจจุบันอัตราการจ่ายเงินปันผลเฉลี่ยของกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ของประเทศไทยเฉลี่ยประมาณ 5.30% ต่อปี ซึ่งสูงกว่าอัตราผลตอบแทนจากพันธบัตรรัฐบาลอายุ 10 ปีที่ให้ผลตอบแทน 2.09% ต่อปี (ข้อมูล ณ วันที่ 29 ก.ค. 59) สะท้อนได้ว่ากองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ยังเป็นทางเลือกที่ดีของการลงทุนในปีนี้
สำหรับกองทุนรวมที่อยู่ภายใต้การบริหารงานของ บลจ.วรรณ ทางคณะกรรมการจัดการลงทุนได้มีมติจ่ายเงินปันผลกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ที่อยู่ภายใต้การบริหารงานของบริษัททั้งหมด 6 กองทุน ได้แก่ กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ยูนิลอฟท์ (UNIPF) ผลการดำเนินงานระหว่างวันที่ 1 เมษายน 2559 ถึง 30 มิถุนายน 2559 ในอัตราหน่วยลงทุนละ 0.175 บาท กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ทรัพย์ศรีไทย สมาร์ท สโตเรจ (SSTSS) ผลการดำเนินงานระหว่างวันที่ 1 มกราคม 2559 ถึง 30 มิถุนายน 2559 ในอัตราหน่วยลงทุนละ 0.34 บาท กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ ไทยแลนด์ โฮสพีทาลิตี้ (TLHPF) ผลการดำเนินงานระหว่างวันที่ 29 ตุลาคม 2558 ถึง 30 มิถุนายน 2559 ในอัตราหน่วยลงทุนละ 0.475 บาท กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์บางกอก (BKKCP) ผลการดำเนินงานระหว่างวันที่ 1 เมษายน 2559 ถึง 30 มิถุนายน 2559 ในอัตราหน่วยลงทุนละ 0.16 บาท กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์มิลเลียนแนร์ (MIPF) ผลการดำเนินงานระหว่างวันที่ 1 มกราคม 2559 ถึง 30 มิถุนายน 2559 ในอัตราหน่วยลงทุนละ 0.58 บาท และกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ไทยอินดัสเตรียล 1 (TIF1) ผลการดำเนินงานระหว่างวันที่ 1 เมษายน 2559 ถึง 30 มิถุนายน 2559 ในอัตราหน่วยลงทุนละ 0.145 โดยทั้ง 6 กองทุนจะกำหนดวันปิดทะเบียนพักโอนหน่วยลงทุนเพื่อสิทธิในการรับเงินปันผลในวันที่ 22 สิงหาคม 2559 และกำหนดจ่ายเงินปันผลในวันที่ 6 กันยายน 2559
นายอลงกรณ์กล่าวเสริมว่า ในปัจจุบันแม้ว่าราคาหน่วยลงทุนของกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ในตลาดหลักทรัพย์โดยรวมจะมีการปรับตัวสูงขึ้นตามสภาพคล่องในตลาด แต่หากพิจารณาแนวโน้มการเติบโตของทรัพย์สินภายใต้การบริหารของ บลจ.วรรณยังคงมีศักยกาพในการสร้างรายได้อย่างต่อเนื่อง อาทิ ธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยวและโรงแรมยังคงอยู่ในความสนใจ โดยอัตรานักท่องเที่ยวยังคงปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งก็เอื้อผลดีต่อรายได้ของสินทรัพย์ของกองทุน