คอลัมน์ บัวหลวง Money Tips
นภา เสถียรนุกูล
กองทุนบัวหลวง
คนไทยในวันนี้เข้าถึงอินเทอร์เน็ตและใช้สื่อดิจิตอลมากขึ้นเรื่อยๆ ตัวเลขล่าสุดเมื่อต้นปี 2558 ระบุว่าคนไทยทั้ง 65 ล้านคนสามารถใช้งานอินเทอร์เน็ตได้ 24 ล้านคน คิดเป็นอัตราเข้าถึง 37% ของประชากรทั้งหมด อีกทั้งยังมีบัญชีใช้งานโซเชียลมีเดียราว 32 ล้านบัญชี คิดเป็นอัตราเข้าถึง 49% ของประชากร
ปัจจัยหลักที่เร่งให้การเข้าถึงอินเทอร์เน็ตขยายตัวอย่างรวดเร็ว คือการออนไลน์ผ่านโทรศัพท์มือถือซึ่งกำลังนิยมเพิ่มขึ้นทุกขณะ เพราะโทรศัพท์มือถือแบบสมาร์ทโฟนได้กลายเป็นอุปกรณ์พกพาที่ขาดไม่ได้ในชีวิตประจำวันไปเสียแล้ว
ในปี 2558 คนไทยใช้สมาร์ทโฟนถึง 58% ของโทรศัพท์มือถือทั้งหมด เพิ่มจากปี 2556 ที่มีแค่ 49% หรือเพิ่มขึ้นเฉลี่ยปีละประมาณ 10% โดยบริษัท นีลเส็น (ประเทศไทย) จำกัด คาดการณ์ว่าในอีก 4-5 ปีหน้าคนไทยจะมีการใช้สมาร์ทโฟนเพิ่มจนถึง 100%
แม้ประชากรไทยจะเข้าถึงอินเทอร์เน็ตได้แล้ว 37% แต่ก็ยังต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของทั้งโลกที่ 42%
แนวโน้มเช่นว่านี้กำลังเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของการประกอบธุรกิจ เพราะได้สร้างช่องทางใหม่ในทางพาณิชยกรรมที่เรียกว่า M-Commerce และก่อกำเนิดพฤติกรรมการบริโภคร่วมสมัย ที่ผู้คนต่างหมดเวลาไปกับ “โมบายล์ชอปปิ้ง” ตั้งแต่เริ่มค้นหาข้อมูลสินค้าหรือรายละเอียดผลิตภัณฑ์ต่างๆ หน้าจอสมาร์ทโฟน ผลตามมาคือผู้บริโภคตัดสินใจซื้อสินค้าได้ในช่วงเวลาอันสั้น จบการขายได้บนหน้าจอสมาร์ทโฟนนั่นเอง
เหตุสำคัญที่ M-Commerce และ E-Commerce เติบโตอย่างรวดเร็ว นอกไปจากแง่มุมเชิงเทคโนโลยีแล้ว ยังเป็นเพราะรูปแบบการซื้อ-ขายดังกล่าว ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภค ไม่ว่าจะเป็นผู้มีรายได้ระดับปานกลางไปจนถึงระดับสูง ซึ่งปรารถนาความสะดวกสบายในการเลือกซื้อสินค้าและบริการ รวมทั้งยังเน้นบริการขนส่งสินค้าที่รวดเร็ว นอกจากนี้ ร้านค้าออนไลน์ยังมีผลิตภัณฑ์หลากหลาย แถมยังเสนอราคาที่ต่ำกว่าร้านค้าปลีกทั่วไปอีกด้วย พร้อมเลือกชำระเงินได้หลายช่องทาง ไม่ว่าด้วยบัตรเครดิต ตัดเงินจากบัญชี หรือแม้แต่จ่ายด้วยเงินสดที่เรียกว่า Cash on Delivery (COD) ที่ให้ผู้ซื้อชำระเงินหลังรับสินค้าต่อพนักงานส่งของ
นอกเหนือจากใช้เป็นช่องทางในการขายหรือนำเสนอสินค้าใหม่ๆ แล้ว สื่อดิจิตอลยังเป็นแพลตฟอร์มสำหรับทำการตลาดออนไลน์ (online marketing) เพื่อเสริมกิจกรรมการตลาดในรูปแบบดั้งเดิมได้อีกด้วย เครื่องมือการตลาดออนไลน์ที่นิยมในปัจจุบันมีมากมาย เช่น ดาวน์โหลดคูปองส่วนลดหรือรหัสลดราคา เพื่อใช้เป็นส่วนลดเมื่อซื้อสินค้า หรือการโฆษณาผ่าน e-Catalog แล้วให้ลูกค้าดาวน์โหลดผ่านทางสมาร์ทโฟน แท็บเล็ต หรือคอมพิวเตอร์
อีกทั้งการทำโฆษณาผ่านโซเชียลเน็ตเวิร์กก็กำลังมาแรง และเป็นที่แพร่หลาย ไม่ว่าจะเป็นเฟซบุ๊ก ทวิตเตอร์ อินสตาแกรม พินเทอร์เรส หรือไลน์ กลายเป็นพื้นที่สื่อเปิดรับลงโฆษณา ซึ่งช่วยกระตุ้นยอดขายสินค้าได้อย่างดียิ่ง พร้อมทั้งยังช่วยสร้าง Brand Awareness ให้กับสินค้าหรือธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ
คนไทยท่องโลกออนไลน์ผ่านทางโซเชียลมีเดียสูงมาก โดยใช้เวลากับโซเชียลมีเดียถึงวันละ 3 ชั่วโมง 46 นาที และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ โซเชียลมีเดียที่คนไทยนิยมมากที่สุดอันดับหนึ่งหนีไม่พ้นเฟซบุ๊กนั่นเอง ประเทศไทยมีบัญชีผู้ใช้งานเฟซบุ๊กเป็นอันดับสามของอาเซียน รองจากอินโดนีเซีย และฟิลิปปินส์ ซึ่งมีบัญชีผู้ใช้งาน 74 และ 44 ล้านบัญชีตามลำดับ
สื่อสมัยใหม่อันทรงพลังแห่งยุคนี้มีลักษณะเด่นอีกประการ นั่นคือมิได้ถูกผูกขาดไว้เฉพาะแวดวงธุรกิจขนาดใหญ่ที่ร่ำรวยเงินทุน เฉกเช่นสื่อแบบเก่าไม่ว่าโทรทัศน์หรือหนังสือพิมพ์ ที่ต้องทุ่มเม็ดเงินมหาศาลเพื่อลงโฆษณา แต่สำหรับธุรกิจขนาดเล็กหรือที่มีกลุ่มลูกค้าเฉพาะเจาะจง รวมไปถึงธุรกิจบริการต่างๆ ก็สามารถใช้ทำการตลาดผ่านสื่อออนไลน์ได้เช่นกัน
เนื่องจากอาจยังไม่มีกำลังทุนนัก การลงโฆษณาสินค้าผ่านสื่อออนไลน์จะช่วยสื่อสารการตลาดไปยังผู้บริโภคแต่ละกลุ่มเป้าหมาย ด้วยต้นทุนที่ไม่สูงจนเกินไป โดยเฉพาะธุรกิจบริการ เช่น บริการสุขภาพและการแพทย์ หรือธุรกิจท่องเที่ยว ซึ่งยากจะวัดคุณภาพของผลิตภัณฑ์ แต่สื่อออนไลน์จะช่วยให้ลูกค้าเห็นภาพลักษณ์ของธุรกิจชัดแจ้งขึ้น
ธุรกิจการบินเป็นธุรกิจแขนงหนึ่งที่นำสื่อดิจิตอลมาใช้ประโยชน์อย่างเห็นได้ชัด ไม่ว่าจะช่วยทำตลาดหรือช่วยสร้างความประทับใจต่อลูกค้า รวมทั้งสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้แก่องค์กร อย่างเช่นสายการบิน Virgin America ได้นำเทคโนโลยี Google Street View มาดัดแปลงปรับใช้ในเว็บไซต์ของสายการบิน จนกลายเป็นบริการของตนเองในชื่อว่า Virgin Seat View ที่ให้ผู้ใช้บริการสำรวจห้องโดยสารของเครื่องบินได้รอบตัว 360 องศา ผู้โดยสารจะหมุนภาพเพื่อชมบรรยากาศภายในเครื่องได้ก่อนตัดสินใจ และเพื่อให้ได้ที่นั่งที่ตรงตามอัธยาศัย ทาง Virgin America เชื่อว่าบริการใหม่นี้จะจูงใจให้ลูกค้าลองสำรวจที่นั่งโดยสารก่อนเดินทางจริง ซึ่งจะกระตุ้นให้ควักเงินจ่ายเพิ่มอีก เพื่อ “อัปเกรด” ให้ได้ที่นั่งชั้นสูงขึ้นหรือได้บริการที่พิเศษกว่าเดิม
การผนวกเทคโนโลยีดิจิตอลเข้าเป็นส่วนหนึ่งในโมเดลธุรกิจจึงเป็นเรื่องที่ท้าทายองค์กรอย่างยิ่ง โดยเฉพาะบริษัทที่ก่อตั้งมายาวนานหรือสืบทอดกิจการจากรุ่นสู่รุ่น ประกอบด้วยบุคลากรหลากหลายวัย ย่อมต้องเผชิญความเหลื่อมล้ำว่าด้วยความรู้ความเข้าใจในสื่อสมัยใหม่ รวมทั้งสภาพแวดล้อมทางธุรกิจที่เปลี่ยนแปลง โดยเฉพาะผู้บริหารอาวุโสที่เติบโตมากับกิจการและการตลาดแบบดั้งเดิม กับพนักงานรุ่นใหม่ไฟแรงซึ่งคุ้นชินกับสื่อดิจิตอลและโลกออนไลน์ตามยุคสมัย
ความไม่ลงรอยกันในระยะเปลี่ยนผ่านเช่นนี้อาจบรรเทาลงได้บ้าง หากภาครัฐเร่งวางรากฐานประเทศให้ก้าวสู่ยุค “ดิจิตอลไทยแลนด์” โดยเร็ว เพื่อเอื้ออำนวยให้คนในประเทศรวมทั้งภาคธุรกิจใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีดิจิตอลได้ในทุกมิติ ทำให้สื่อสมัยใหม่เหล่านี้กลายเป็นส่วนหนึ่งในวิถีชีวิตคนและวงจรธุรกิจทุกระดับ โครงสร้างพื้นฐานทางดิจิตอลที่จะเกิดขึ้นจะเร่งรัดให้ภาคเอกชนต้องรีบปรับตัว พัฒนาระบบธุรกิจ และความเข้าใจด้านไอทีของตนเองให้ลึกซึ้ง เพื่อยืนหยัดในตลาดที่จะต้องเปลี่ยนแปลงในวันข้างหน้าให้ได้