โดย ดร.วิน อุดมรัชตวนิชย์
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บลจ.วรรณ
Dr.win@one-asset.com
ก่อนหน้านี้ ผมเคยกล่าวถึงแนวคิดการบริหารงานแบบยั่งยืน โดยยึดหลักด้านธุรกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม (Economic-Social-Environment : ESG) โดยสรุปไว้ว่า ESG ประกอบไปด้วย 3 มิติ อันดับแรก การจัดการด้านสิ่งแวดล้อม (Environment) อันดับสอง การจัดการด้านสังคม (Social) และอันดับสาม ด้านบรรษัทภิบาล (Corporate Governance) ที่มีนโยบายการกำกับดูแลกิจการที่ดีต่อต้านทุจริตและคอร์รัปชัน เนื่องจากแนวคิดดังกล่าวจะมีส่วนสนับสนุนการเติบโตของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ (บจ.) และจะสามารถช่วยสร้างมูลค่าเพิ่มแก่ผู้ถือหุ้นได้ โดยที่ผ่านมา ผมได้เคยนำเสนอชื่อดัชนี DJSI (DOW Jones Sustainability) ซึ่งเป็นดัชนีที่คัดเลือกบริษัทที่มีความโดดเด่นด้าน ESG และมีบริษัทจดทะเบียนจากประเทศไทยบางบริษัทได้รับคัดเลือกให้อยู่ในกลุ่มของดัชนี DJSI
ในเอเชียก็มีดัชนีลักษณะนี้ที่เริ่มเป็นที่รู้จัก คอลัมน์ฉบับนี้ผมขอกล่าวถึงดัชนี JPX NIKKEI INDEX400 จากประเทศญี่ปุ่น ซึ่งเป็นดัชนีใหม่ที่ได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐ และเป็นดัชนีที่โปรโมตบริษัทจดทะเบียนของญี่ปุ่นทั้งใน และต่างประเทศ ซึ่งการสนับสนุนอย่างต่อเนื่องดังกล่าวของทางภาครัฐ ได้แก่ ธนาคารกลางญี่ปุ่น และกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการญี่ปุ่น ดัชนี JPX NIKKEI INDEX400 ได้สร้างขึ้นเมื่อเดือนมกราคมปี 2557 โดยมีแนวคิดคัดเลือกบริษัทจดทะเบียนที่มีคุณภาพที่ยึดหลักธรรมาภิบาลในองค์กรเพื่อความโปรงใส่ในการดำเนินธุรกิจ ซึ่งให้ไปตามแนวทางการพัฒนาระบบการบริหารงานของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ประเทศญี่ปุ่น เพื่อให้มีผลประกอบการที่ดีขึ้น ตลอดจนสนับสนุนให้ผู้บริหารบริษัทจดทะเบียนมีอิสระในการดำเนินงานมากขึ้น เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ผู้ลงทุนให้หันกลับมาสนใจลงทุนในตลาดหุ้นญี่ปุ่น นับว่าเป็นอีกหนึ่งมาตรการที่ทางการญี่ปุ่นเลือกนำมาใช้เพื่อพัฒนาภาคการลงทุนในประเทศ
ดัชนี JPX NIKKEI INDEX 400 จะประกอบด้วยบริษัทจดทะเบียน 400 แห่ง ที่ได้รับการพิจารณาว่าเป็นไปตามมาตรฐานสากลโลก และมีแหล่งใช้เงินทุนที่มีประสิทธิภาพ และบริษัทที่คัดเลือกอยู่ในดัชนีนี้เน้นการลงทุนในบริษัทที่มีธรรมภิบาลที่ดี ซึ่งสะท้อนความโปร่งใส ซึ่งหุ้น 400 ตัวในดัชนีนี้ จะต้องผ่านการคัดเลือกหุ้น 2 ปัจจัย คือ ด้านคุณภาพของหุ้นและด้านปริมาณ โดยด้านปริมาณจะให้น้ำหนักแบ่งออกเป็น 3 ส่วนด้วยกัน ได้แก่ บริษัทจดทะเบียนจะต้องมีผลตอบแทนของผู้ถือหุ้น (ROE) สัดส่วน 40% ในการคำนวณ กำไรจากการดำเนินงานสะสม 3 ปี และมูลค่าขนาดของตลาด ณ วันฐาน 40% และ 20% ตามลำดับ ในส่วนด้านคุณภาพ หุ้นในดัชนี JPX NIKKEI 400 INDEX จะต้องเป็นบริษัทที่บริหารงานที่มีธรรมาภิบาลที่ดี โดยสะท้อนจากการแต่งตั้งผู้บริหารจากภายนอกอย่างน้อย 2 ท่านในการเข้าร่วมประชุมเพื่อความโปร่งใส มีการจัดทำบัญชีเป็นไปตามมาตรฐานการรายงานทางการเงินระหว่างประเทศ(IFRS) และมีการเปิดเผยงบการเงินเป็นภาษาอังกฤษ
อย่างไรก็ดี บลจ.วรรณ ยังคงมุมมองเชิงบวกต่อภาพการลงทุนในตลาดหุ้นประเทศญี่ปุ่น ซึ่งสอดคล้องต่อผลสำรวจของผู้จัดการกองทุนส่วนใหญ่ยังคงมุมมองเชิงบวกต่อตลาดหุ้นญี่ปุ่นจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่ดำเนินมาอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ค่าเงินเยนอ่อนค่าลงและเอื้อผลดีต่อผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนในประเทศ โดยมีการคาดการณ์จาก Bloomberg ว่า ดัชนี JPX NIKKEI INDEX400 มี Upside ประมาณ 20% ในช่วง 1 ปีข้างหน้า
จากแนวคิดการก่อตั้งดัชนีดังกล่าว ผมมองว่าเป็นการชี้ให้เห็นว่าในระดับสากลยังคงให้ความสำคัญในการสนับสนุนผู้ประกอบการภาคเอกชนให้มีการบริหารงานอย่างมีความโปร่งใส และสามารถตรวจสอบได้ อีกทั้งยังเลือกนำมาใช้เป็นแนวทางในการพัฒนธุรกิจภาคการลงทุนของประเทศตนเอง เพราะสามารถสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ผู้ลงทุนได้
•นักลงทุนสามารถสอบถามเพิ่มเติม และขอรับร่างหนังสือชี้ชวนได้ที่ฝ่ายบริการลูกค้าและสนับสนุนธุรกิจที่หมายเลข 0-2659-8888 ต่อ 1 ครับ
•“ทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไข ผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน